16 ก.ย. เวลา 10:30 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 159

ศึกต้าหมิงฝู่ (7) อุบายตีต้าหมิง
ซ่งเจียงเพิ่งหายป่วยแต่ห่วงเจ้าสัวหลูและสือสิ้ว  จึงหารือกับอู๋ย่งถึงการตีเมืองเป่ยจิง
อันเต้าเฉวียนว่า “แผลของท่านขุนพลยังไม่หายสนิท ไม่ควรเคลื่อนไหวมาก จะทำให้หายยาก”
อู๋ย่งว่า “วันนี้โชคดีที่ท่านพี่พ้นเคราะห์แล้ว ได้ท่านหมออันมาช่วยดูแล นับเป็นเรื่องมงคลใหญ่หลวงของเหลียงซานเรา
ระหว่างที่พี่ท่านนอนป่วยอยู่ บัณฑิตผู้ยากได้ใช้คนไปสืบข่าวที่เมืองต้าหมิงอยู่เสมอ เหลียงจ้งซูหวาดระแวงตลอดเวลาว่าทัพเราจะประชิดเมือง ข้าได้ให้คนไปปิดหนังสือสนเท่ห์ตามตลาดในเมืองเป่ยจิง แจ้งให้ชาวเมืองอย่าได้วิตก “กล่าวหาต้องมีมูล หนี้ต้องมีเจ้าของ กองทัพใหญ่มาถึง ต้องมีผู้รับผิดชอบ” ดังนั้น เหลียงจ้งซูจึงยิ่งฟุ้งซ่าน
ราชครูไฉ้ที่ตงจิงพอรู้ว่ากวนเสิ้งสามิภักดิ์ ก็ไม่กล้ากราบทูลต่อหน้าพระพักตร์ให้ยกทัพมาปราบ กลับเสนอเรื่องนิรโทษกรรม เพื่อความสงบสุขของส่วนรวม ทั้งยังทำหนังสือมายังเหลียงจ้งซูไม่ให้ทำอันตรายหลูจวิ้นอี้ และสือสิ้ว ไปซ้ำเติมสถานการณ์”
ซ่งเจียงได้ฟังก็จะเร่งให้ยกทัพไปตีเมืองเป่ยจิง
อู๋ย่งว่า “บัดนี้สิ้นสุดเหมันต์เข้าสู่วสันต์ อีกไม่นานก็จะถึงเทศกาลหยวนเซียว 元宵 จะมีงานใหญ่ประจำปีที่เมืองเป่ยจิง ประดับประดาโคมไฟกันโอฬาร ข้าจะอาศัยโอกาสนี้ส่งคนเข้าไปฝังตัวในเมือง นอกเมืองจะส่งทหารเข้าตี ประสานกันทั้งนอกทั้งใน ต้องได้เมืองแน่”
ซ่งเจียงว่า “เป็นแผนที่ดี เชิญท่านกุนซือสั่งการ”
อู๋ย่งว่า “ที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ที่จะวางเพลิงเป็นสัญญาณกลางเมือง ในหมู่พี่น้องเรา ใครจะอาสาเข้าเมืองไปวางเพลิง”
มีเสียงอาสามาว่า “ผู้น้องไปเอง”
ผู้รับอาสาคือหมัดหน้ากลองสือเชียน
สือเชียนว่า “สมัยหนุ่มผู้น้องเคยไปเมืองเป่ยจิง ในเมืองมีหอใหญ่เรียกหอเมฆาหยก 翠云搂 (ชุ่ยหยุนโหลว)ชั้นบนชั้นล่างของหอ มีห้องใหญ่น้อยรวมแล้วร้อยกว่าห้อง คืนเทศกาลหยวนเซียวคงครึกคื้นยิ่งนัก ข้าจะลอบเข้าเมืองไปก่อน พอถึงคืนวันที่สิบห้าเดือนหนึ่ง จะไปวางเพลิงที่หอเมฆาหยกเป็นสัญญาณ กุนซือท่านก็ให้คนไปปล้นคุก นี่เป็นแผนเด็ด”
อู๋ย่งว่า “ข้าก็คิดเช่นนี้ พรุ่งนี้เช้าท่านลงเขาไปก่อน คืนหยวนเซียวเวลายามหนึ่ง ไปวางเพลิงที่หอเมฆาหยก นับเป็นผลงานของท่าน”
สือเชียนรับคำสั่งไปดำเนินการ
วันรุ่งขึ้น อู๋ย่งจึงสั่งการ
ให้เซี่ยเจิน เซี่ยเป่า แต่งตัวเป็นนายพรานทำทีนำของป่าไปส่งให้จวนขุนนางในเมืองเป่ยจิง คืนวันที่สิบห้าเดือนหนึ่ง เมื่อเห็นสัญญาณไฟให้เฝ้าสะกัดอยู่หน้าที่ทำการอย่าให้ใครเข้าไปรายงาน
ให้ตู้เชียน ซ่งว่านแต่งตัวเป็นพ่อค้าขายข้าวสาร เข็นรถไปไว้ในเมือง คืนหยวนเซียวเห็นสัญญาณไฟ ให้มาชิงประตูเมืองตะวันออก
ให้ข่งหมิง ข่งเหลียงแต่งเป็นขอทาน ไปพักรอแถวตลาด เห็นสัญญาณไฟให้เข้ามาช่วย
ให้หลี่อิ้ง สื่อจิ้นแต่งเป็นพ่อค้า ไปพักรอนอกประตูเมืองตะวันออก เห็นสัญญาณไฟ ให้สังหารทหารเฝ้าประตู ยึดประตูเมืองไว้ใช้เป็นเส้นทางหนี
ให้หลู่จื้อเซิน อู่ซงทำทีเป็นนักบวชจาริกมาพักที่อารามนอกเมือง เห็นสัญญาณไฟให้ไปสังหารทหารประตูเมืองทิศใต้ สะกัดเส้นทางไว้
ให้โจวยวน โจวยุ่นแต่งเป็นพ่อค้าขายโคมไฟ ไปหาที่พักในเมือง เห็นสัญญาณไฟ ให้ไปที่หน้าคุก รอประสานงาน
ให้หลิวถัง หยางสยงแต่งตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ไปรอแถวหน้าที่ว่าการเมืองเป่ยจิง เห็นสัญญาณไฟ ให้คอยสะกัดผู้มาแจ้งเหตุ ไม่ให้ช่วยเหลือกันได้
ให้กงซุนเสิ้งทำทีเป็นนักพรตเที่ยวสัญจร ให้หลิงเจิ้นแต่งตัวเป็นศิษย์นักพรต ติดปืนไฟไปด้วยหาที่เหมาะรอจังหวะ เห็นสัญญาณไฟ ให้ใช้ปืนยิง
ให้จางซุ่น ตามเอี้ยนชิงเข้าเมืองทางประตูน้ำ ไปยังบ้านเจ้าสัวหลู จับตัวหญิงชั่วชายชู้
ให้เสือเตี้ยหวาง ซุนซิน จางชิง หู้ซานเหนียง กู้ต้าเส่า ซุนเอ้อเหนียงทำทีเป็นชาวชนบทสามคู่ผัวเมียเข้าเมืองมาเที่ยวชมประทีป ให้จุดไฟเผาไล่ไปทางบ้านเจ้าสัวหลู
ให้ไฉจิ้น เยว่เหอแต่งเป็นเจ้าหน้าที่ทหารไปที่บ้านพัศดีไฉ้ หาทางช่วยเจ้าสัวหลู สือสิ้วออกจากคุก
สั่งการเสร็จ ทุกคนก็แยกกันไปทำภารกิจที่รับมอบหมาย
ยามนี้ยังเป็นต้นเดือนอ้าย ทางด้านเมืองเป่ยจิง เหลียงจ้งซูตามหลี่เฉิง เหวินต๋า หวางไท่โส่วมาหารือกันถึงเรื่องเทศกาลหยวนเซียว
เหลียงจ้งซูว่า “งานฉลองเทศกาลหยวนเซียว เป็นงานโคมไฟใหญ่ประจำปีของเมืองเป่ยจิงเรา จัดตามอย่างกรุงตงจิง เพื่อให้ราษฎรได้รื่นเริง แต่บัดนี้ พวกโจรเขาเหลียงซานยกมาตีเมืองถึงสองครั้ง อาจจะเกิดเหตุขึ้นในงานฉลองประทีป ข้าคิดว่าจะไม่ให้จัดงานในปีนี้ พวกท่านเห็นเช่นไร”
เหวินต๋าว่า “พวกโจรถอยทัพไป แต่เที่ยวมาติดหนังสือสนเท่ห์ข่มขู่ คงอับจนหนทางอยู่ นายท่านไม่ควรวิตกกังวลจนเกินเหตุ หากปีนี้ไม่จัดงานประทีป พวกโจรสืบรู้คงได้เยาะเย้ยเราเป็นแน่ นายท่านควรประกาศแก่ราษฎร งานปีนี้จะจัดใหญ่กว่าปีก่อน เพิ่มจำนวนโคมประทีป เพิ่มชุดการแสดง ในตลาดเพิ่มเขาเต่าอ๋าว 鳌山 อีกสองแห่ง เอาอย่างเมืองหลวง จัดงานตลอดคืน ไม่มีพัก ตั้งแต่วันที่สิบสามถึงสิบเจ็ดเป็นเวลาห้าวัน ให้ฝูอิ่นคอยตรวจตรารักษาความสงบเรียบร้อย อย่าได้บกพร่อง นายท่านควรไปร่วมงานสร้างขวัญกำลังใจแก่ราษฎร
ผู้แซ่เหวินจะนำทหารออกนอกเมืองไปตั้งสะกัดทางไว้ที่หุบเสือบิน ป้องกันพวกโจรลอบวางแผนชั่ว ให้ผู้บัญชาการหลี่นำทหารม้าออกลาดตระเวนรอบเมือง ให้ราษฎรคลายกังวล”
เหลียงจ้งซูชอบใจนัก จึงให้ออกประกาศแจ้งแก่ราษฎรเรื่องการขยายการจัดงาน
เมืองเป่ยจิงต้าหมิงฝู่เป็นเมืองใหญ่อันดับหนึ่งในเขตเหอเป่ย การค้าการขายมีสารพัดแขนง พอฟังว่ามีงานประทีป ก็แห่กันมาค้าขาย จัดเตรียมการละเล่นแสดงในงาน เศรษฐีมีทรัพย์ไปหาซื้อโคมกันไกลถึงสองสามร้อยลี้ก็มี คนทำโคมเข้ามาขายในเมืองก็มาก ทุกบ้านแข่งกันประดับซุ้มไฟหน้าบ้าน จุดดอกไม้ไฟ วัดวาอารามต่างก็ร่วมจุดประทีป
เขาเต่าอ๋าวปีนี้มีถึงสามแห่ง หน้าสำนักหลิวโส่วริมสะพานมีแห่งหนึ่ง บนเขาทำเป็นมังกรสีเหลืองแดง แต่ละเกล็ดมังกรวางตะเกียงหนึ่งดวง หน้าวัดพระสำริด 铜佛寺 มีแห่งหนึ่ง บนเขาทำเป็นมังกรเขียว หน้าหอเมฆาหยก 翠云搂 มีอีกแห่ง บนเขาทำเป็นมังกรขาว
หอเมฆาหยก (ชุ่ยหยุนโหลว) เป็นภัตตาคารเลื่องชื่ออันดับหนึ่งของเหอเป่ย ชั้นบนชั้นล่างมีห้องถึงร้อยกว่าห้อง มีดนตรีบรรเลงตลอดทั้งวัน
หน่วยสอดแนมเขาเหลียงซานรู้ข่าวการจัดงานประทีปก็รายงานไปยังค่ายบนเขา อู๋ย่งทราบข่าวยืนยันก็ดีใจยิ่งไปแจ้งแก่ซ่งเจียง ซ่งเจียงจะนำทัพมาเป่ยจิงเอง อันเต้าเฉวียนก็ปรามว่า “แผลของท่านเพิ่งหาย ไม่ควรกรำศึก”
อู๋ย่งว่า “บัณฑิตผู้ยากจะไปแทนท่านเอง” จึงให้ตุลาการหน้าเหล็กเผยเซวียนคัดทหารที่จะไปกับทัพรวมแปดทัพ
ทัพที่หนึ่งเป็นทัพม้า แม่ทัพกระบองคู่ฮูหยันจว๋อ กองหน้าหันเทา เผิงฉี่ กองหลังควบสามเขาหวงซิ่น
ทัพที่สองเป็นทัพม้า แม่ทัพหัวเสือดาวหลินชง กองหน้าหม่าหลิน เติ้งเฟย กองหลังหลีกว่างน้อยฮวาหยง
ทัพที่สามเป็นทัพม้า แม่ทัพง้าวใหญ่กวนเสิ้ง กองหน้าเซวียนจ้าน เห่าซือเหวิน กองหลังวี่ฉืออมโรคซุนลี่
ทัพที่สี่เป็นทัพม้า แม่ทัพอสนีบาตฉินหมิง กองหน้าโอวเผิง เอี้ยนซุ่น กองหลังสัตว์หน้าครามหยางจื้อ
ทัพที่ห้าพลเดินเท้า แม่ทัพจอมบุ่มบ่ามมู่หง รองแม่ทัพตู้ซิง เจิ้งเทียนโซ่ว
ทัพที่หกพลเดินเท้า แม่ทัพพายุหมุนดำหลี่ขุย รองแม่ทัพหลี่ลี่ เฉาเจิ้ง
ทัพที่เจ็ดพลเดินเท้า แม่ทัพเสือติดปีกเหลยเหิง รองแม่ทัพซือเอิน มู่ชุน
ทัพที่แปดพลเดินเท้า แม่ทัพจอมมารป่วนโลกาฝานยุ่ย รองแม่ทัพเซี่ยงชง หลีกุ่น
“ทัพทั้งแปดให้แยกกันเดินทางทันที กำหนดนัดคืนวันที่สิบห้าเดือนอ้ายเวลายามสองต้องถึงเมืองอย่าได้ผิดพลาด เข้าโจมตีเมืองพร้อมกันทั้งแปดทัพ”
ทัพทั้งแปดลงเขาออกเดินทาง เหล่าหัวหน้าที่เหลืออยู่เฝ้าค่ายกับซ่งเจียง
กล่าวถึงสือเชียนซึ่งเดิมเป็นพวกไต่ราวปีนกำแพงดำรงชีพ พอมาถึงเมืองก็ไม่เข้าทางประตู แต่ปีนกำแพงเข้ามาตอนดึก อยู่ในเมืองก็ไม่เช่าห้องเดี่ยวโรงแรมพัก กลางวันเตร็ดเตร่อยู่บนท้องถนน ตกกลางคืนอาศัยใต้ฐานเทวรูปศาลตงเยว่เป็นที่ซุกหัวนอน
วันที่สิบสามเดือนอ้าย สือเชียนเที่ยวเดินดูคนจัดซุ้มประดับโคมไฟ แลเห็นเซี่ยเจิน เซี่ยเป่าหาบของป่าเดินอยู่ในเมือง เห็นตู้เชียน ซ่งว่านเดินออกมาจากย่านการค้าหว่าจื่อ 瓦子 แต่ไม่ได้เข้าไปทักทายทั้งสี่ แต่พอสือเชียนเดินมาดูลาดเลาบนหอเมฆาหยก เห็นข่งหมิงปล่อยผมกระเซิงใส่เสื้อหนังแกะขาดๆ มือซ้ายถือไม้เท้ามือขวาถือชาม ทำเหมือนสกปรกมานั่งขอทาน สือเชียนเดินไปแอบสะกิดหลังให้มาคุย
สือเชียนว่า “ชายชาตรีหน้าขาวอย่างพี่ท่าน ดูไม่เหมือนขอทาน ถ้าพวกเจ้าหน้าที่มาเห็นความก็คงแตก พี่ท่านหลบไปที่อื่นดีกว่า”
พูดไม่ทันขาดคำ ขอทานโผล่มาจากริมกำแพงอีกคน คราวนี้เป็นข่งเลี่ยง
สือเชียนว่า “พี่ท่าน เปิดหน้าขาวหล่อมาอย่างนี้ ไม่เหมือนคนอดอยาก แต่งแบบนี้คงถูกจับได้”
คุยกันอยู่นั้น ก็มีคนมาคว้าคอจากด้านหลัง ตะคอกว่า “พวกเจ้าทำเรื่องงามหน้า”
พอหันไปก็เห็นหยางสยง หลิวถัง สือเชียนว่า “เล่นเอาข้ากลัวแทบตาย”
หยางสยงว่า “ตามข้ามา” แล้วก็นำไปยังมุมลับตาแห่งหนึ่งแล้วว่า “ท่านสามคนไม่รู้ความ มายืนคุยกันอย่างนั้น ดีที่พวกข้าเห็นก่อน นี่ถ้าเจอเจ้าหน้าที่หูตาไว คงเสียงานใหญ่ท่านพี่แน่ พวกข้าเห็นแต่ต้น พวกน้องเราไม่ต้องออกมาที่ถนนอีกแล้ว”
ข่งหมิงบอกว่า “โจวยวน โจวยุ่นเดินขายโคมอยู่บนถนน หลู่จื้อเซิน อู่ซงอยู่อารามนอกเมือง ไม่ต้องพูดอะไรอีก รอถึงกำหนดค่อยลงมือ”
ทั้งห้าเดินผ่านวัดแห่งหนึ่ง กงซุนเสิ้งเดินสวนออกมาจากวัด มีหลิงเจิ้นแต่งเป็นศิษย์พรตเดินตามหลัง ทั้งเจ็ดพยักหน้าทักทายกัน แล้วแยกย้ายกันไป
พอใกล้วันเทศกาล เหลียงจ้งซูให้เหวินต๋านำทหารไปตั้งค่ายที่หุบเสือบิน วันที่สิบสี่ให้หลี่เฉิงนำทหารม้าห้าร้อยลาดตระเวนรอบเมือง วันถัดมาเป็นวันที่สิบห้าฟ้าแจ่มใส พระจันทร์ขึ้นตั้งแต่เย็น ถนนหนทางคึกคัก จุดประทีปกันสว่างไสวทั้งเมือง ตามตรอกซอกซอยมีแสดงการละเล่นต่างๆ  หอเมฆาหยกผู้คนขวักไขว่
北京三五风光好,膏雨初晴春意早。
银花火树不夜城,陆地拥出蓬莱岛。
烛龙衔照夜光寒,人民歌舞欣时安。
五凤羽扶双贝阙,六鳌背驾三神山。
红妆女立朱帘下,白面郎骑紫骝马。
笙箫嘹亮入青云,月光清射鸳鸯瓦。
翠云楼高侵碧天,嬉游来往多婵娟。
灯球灿烂若锦绣,王孙公子真神仙。
游人轇轕尚未绝,高楼顷刻生云烟。
เป่ยจิงวันสามห้าน่าหฤหรรษ์
ฝนต้นวสันตฤดูชูพืชผล
พฤกษาไฟดอกไสวไร้คืนหม่น
เกาะเผิงไหลสวรรค์บนแดนดอน
มังกรเทียนเปลี่ยนคืนหนาวพราวสว่าง
ชาวประชาต่างร้องรำระบำฟ้อน
ห้าพญาหงส์ป้องสองหอหอยสาคร
หกพญาเต่าเฝ้าคอนสามเกาะเซียน
สาวแก้มแดงยืนคอยใต้ผืนม่าน
หนุ่มหน้ามนบนอานกุมบังเหียน
ขลุ่ยบรรเลงครื้นเครงฟ้ามณเฑียร
กระเบื้องเยวียนยางกระจ่างกลางแสงจันทร์
เมฆาหยกหอสูงปรกนภาคราม
มีสาวงามไปมาหฤหรรษ์
ตะเกียงแก้วทอแสงสีดังแพรพรรณ
ดุจเทพสวรรค์ชั้นฟ้าเหล่าผู้ดี
 
ฝูงชนขวักไขว่ไปมาไม่ขาดสาย
อีกไม่ช้าหอสูงกลายกองอัคคี
ตอนก่อนหน้า : หมอเทวดา
ตอนถัดไป : ล้างแค้นกิเลน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา