12 ก.ย. เวลา 10:39 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 158

ศึกต้าหมิงฝู่ (6) หมอเทวดา
จางซุ่นเข้าเมืองเจี้ยนคังมา ตรงไปยังใต้สะพานต้นไหวย 槐桥 เห็นอันเต้าเฉวียนจัดยาอยู่หน้าร้าน จางซุ่นเดินเข้าร้านไปคำนับ
肘后良方有百篇,金针玉刃得师传。
重生扁鹊应难比,万里传名安道全。
ตำรายาดีมีร้อยหน้า
ฝังเข็มทองผ่ามีดหยกมีครูสอน
เปี่ยนเชว่เกิดใหม่ยากต่อกร
ลือขจรหมื่นลี้อันเต้าเฉวียน
(เปี่ยนเชว่ 扁鹊 ฉายาของฉินห่วน 秦缓 หมอเทวดาสมัยรณรัฐ)
อันเต้าเฉวียนสืบทอดวิชาแพทย์มาจากบรรพบุรุษ รักษาได้ทั้งโรคภายนอกและภายใน ชื่อเสียงเลื่องลือไกล พอเห็นจางซุ่นก็ทักทายว่า “น้องเรา ไม่ได้พบหลายปี ลมอะไรพัดมาถึงนี่”
จางซุ่นเข้ามาด้านใน เล่าเรื่องราวตั้งแต่เกิดเรื่องป่วนเมืองเจียงโจว จนได้ขึ้นเขาไปพร้อมกับซ่งเจียง ท้ายสุดก็เล่าถึงซ่งเจียงมีแผลที่กลางหลัง ตั้งใจมาเชิญท่านหมอเทวดา แต่ประสบเคราะห์กลางแม่น้ำหยางจื่อเกือบถึงแก่ชีวิต จึงมาหามือเปล่า
อันเต้าเฉวียนว่า “ถ้าเป็นซ่งกงหมิงผู้กล้าเลืองชื่อทั่วใต้ฟ้า จะไปสักเที่ยวได้อยู่หรอก แต่ภรรยาที่บ้านเพิ่งเสีย ทางบ้านไม่มีญาติพี่น้องจะฝากดูแล ไปไหนไกลไม่ได้ จึงไม่อาจรับปาก”
จางซุ่นว่า “หากพี่ท่านปฏิเสธไม่ยอมไป จางซุ่นก็ไม่มีหน้ากลับขึ้นเขา”
อันเต้าเฉวียนว่า “เอาไว้ค่อยคุยกัน”
จางซุ่นเฝ้าแต่รบเร้า จนอันเต้าเฉวียนต้องรับปากอย่างเสียไม่ได้
อันที่จริง อันเต้าเฉวียนหลงนางคณิกาเลื่องชื่อเมืองเจี้ยนคัง ชื่อ หลีเฉี่ยวหนู 李巧奴 ไปหานางเป็นประจำ หลีเฉี่ยวหนูเป็นหญิงงามขึ้นชื่อ
蕙质温柔更老成,玉壶明月逼人清。
步摇宝髻寻春去,露湿凌波带月行。
丹脸笑回花萼丽,朱弦歌罢彩云停。
愿教心地常相忆,莫学章台赠柳情。
อบไออุ่นนุ่มนวลทั้งจัดเจน
ดุจจันทร์เพ็ญพิสุทธิ์ใสชวนใหลหลง
จะก้าวย่างฤๅมวยผมนวลอนงค์
ใจจินต์ปลงตามย่างคลื่นแสงจันทร์ไป
 
ยามยิ้มแย้มแก้มแดงดังกลีบผกา
เมฆาสะดุดยามพิณหยุดบรรเลงไหว
หวังบึ้งใจเฝ้าคิดถึงคำนึงใฝ่
อย่าให้เพียงเยี่ยงโคมแดงแสร้งยั่วยวน
(章台 ย่านโคมแดง)
เย็นวันนั้นอันเต้าเฉวียนพาจางซุ่นมาทานอาหารที่บ้านของนาง หลีเฉี่ยวหนูคารวะจางซุ่นเรียกท่านอา ดื่มกันไปห้าจอกจนเริ่มตึง อันเต้าเฉวียนก็บอกนางว่า
“คืนนี้ข้าจะค้างกับเจ้าที่นี่ พรุ่งนี้เช้า ข้าต้องไปซานตงกับน้องชายผู้นี้สักเที่ยว อย่างน้อยยี่สิบกว่าวัน อย่างมากหนึ่งเดือน จึงจะกลับมาหาเจ้า”
หลีเฉี่ยวหนูว่า “ข้าไม่อยากให้ท่านไป ถ้าท่านไม่ฟังข้า ก็อย่ามาหาข้าอีก”
อันเต้าเฉวียนว่า “ล่วมยาข้าก็จัดเรียบร้อย รอแต่ออกเดินทางวันพรุ่งนี้ เจ้าก็ทำใจกว้างหน่อย ข้าไปแล้วจะไม่ไปเอ้อระเหยที่ไหน”
หลีเฉี่ยวหนูทำกระเง้ากระงอด ทิ้งตัวลงในอ้อมอกอันเต้าเฉวียนว่า “ท่านไม่ฟังข้า ข้าจะแช่งท่านให้เนื้อหลุดว่อนเป็นแผ่นๆ”
จางซุ่นฟังแล้วหมั่นไส้ อยากจะจับนางฉีกกินเสีย
ฟ้ามืดแล้ว อันเต้าเฉวียนเมาพับต้องประคองขึ้นห้องนางหลีเฉี่ยวหนู จับนอนบนเตียง หลีเฉี่ยวหนูจึงบอกจางซุ่นว่า
“ท่านก็กลับไปก่อน บ้านข้าไม่มีที่ให้นอน”
จางซุ่นว่า “รอพี่สร่างเมาแล้วกลับด้วยกัน”
แต่ปลุกอย่างไรก็ไม่ขยับ จางซุ่นจึงไปพักอยู่ที่ห้องเล็กริมประตู
จางซุ่นนั้นร้อนใจ นอนไม่ใคร่หลับ พอถึงยามหนึ่ง ได้ยินเสียงคนเคาะประตู ชายคนหนึ่งแวบเข้าประตูมา คุยกับแม่เล้า
ยายเฒ่าว่า “ท่านไม่มาเสียตั้งนาน ไปอยู่ที่ไหน คืนนี้ท่านหมอใหญ่เมาหลับอยู่ในห้อง จะทำอย่างไร”
ชายนั้นว่า “ข้ามีทองคำสิบตำลึงจะให้พี่สาวไว้ซื้อทองหยอง แม่เฒ่าช่วยหน่อย ให้นางมาพบข้าที”
ยายแม่เล้าว่า “ท่านรอในห้องข้า ข้าจะเรียกลูกสาวมา”
จางซุ่นแอบมองใต้แสงตะเกียง เห็นผีชิงชลจางว่าง ที่แท้เจ้าหมอนี่เที่ยวชิงทรัพย์กลางน้ำเพื่อนำเงินมาปรนเปรอที่นี่ จางซุ่นเห็นแล้ว แทบข่มโทสะไม่ไหว เฝ้าดูต่อไป เห็นยายแม่เล้าจัดเตรียมสุราอาหารไว้ในห้องของนาง แล้วเรียกเฉี่ยวหนูมานั่งเป็นเพื่อนจางว่าง จางซุ่นกลัวทำเสียเรื่องปล่อยให้จางว่างหนีรอดไป จึงสู้อดกลั้นยังไม่ลงมือ
รอจนราวยามสาม สองคนครัวเมาหลับแล้ว ยายแม่เล้าก็หลับกลิ้งไม่เป็นท่า จางซุ่นค่อยๆ เปิดประตู ตรงไปยังห้องครัว เห็นมีดทำครัวเงาวับอยู่บนเตา หยิบขึ้นมาสังหารยายแม่เล้าที่นอนอยู่บนม้านั่งยาวเป็นคนแรก มีดเจ้ากรรมไม่คม เชือดคนแรกก็ทื่อเสียแล้ว คนครัวสองคนรู้สึกตัวจะร้องตะโกน มีขวานผ่าฟืนอยู่ใกล้มือพอดี จางซุ่นคว้ามาสับใส่คนละที
หลีเฉี่ยวหนูอยู่ในห้องได้ยินเสียงผิดปกติ รีบมาเปิดประตูดู พบกับจางซุ่นเงื้อขวานสับใส่กะโหลกแตกตายคาที่ จางว่างเห็นนางล้มลง จึงผลักหน้าต่างโดดหนีไปได้ จางซุ่นหัวฟัดหัวเหวี่ยง ตัดชายเสื้อจุ่มเลือดขึ้นมาเขียนบนกำแพงว่า
“ฆาตกรคืออันเต้าเฉวียน 杀人者安道全也”
เขียนไว้สิบกว่าแห่ง
ยามห้าฟ้าเริ่มสาง อันเต้าเฉวียนสร่างเมารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเรียกหาเฉี่ยวหนู
จางซุ่นว่า “พี่ท่านอย่าเสียงดัง ข้าจะให้ท่านดูคนสองคน”
อันเต้าเฉวียนลุกจากเตียงมาเห็นศพสี่ศพ ตกใจจนตัวชาขดเป็นก้อน
จางซุ่นว่า “พี่ท่าน ดูบนกำแพงเขียนว่าอะไร”
อันเต้าเฉวียนว่า “ท่านเล่นงานข้าหนักเสียแล้ว”
จางซุ่นว่า “ตอนนี้มีสองทางให้ท่านเลือกเดิน หากร้องตะโกน ข้าก็จะหนีไป ท่านก็ไปใช้หนี้ชีวิต หากท่านอยากรอด ก็กลับบ้านไปเอาล่วมยา แล้วตามข้าขึ้นเขาเหลียงซานไปช่วยท่านพี่ สองทางนี้แล้วแต่ท่านจะเลือก”
อันเต้าเฉวียนว่า “น้องเรา ช่างหาเรื่องอายุสั้นให้”
红粉无情只爱钱,临行何事更流连。
冤魂不赴阳台梦,笑煞痴心安道全。
นวลนางไร้น้ำใจใคร่เพียงทรัพย์
ก่อนจรลับกลับอาลัยหรือไฉน
ผีอาฆาตจึงมิอาจภิรมย์ฤทัย
น่าขำไซร้อันเต้าเฉวียนผู้เมามัว
(阳台梦 ฝันร่วมอภิรมย์)
พอฟ้าแจ้ง จางซุ่นเก็บรวมรวมเงินทองไว้ใช้เป็นค่าเดินทาง แล้วกลับบ้านอันเต้าเฉวียนเอาล่วมยา ออกจากเมืองมายังร้านของหวางติ้งลิ่ว
หวางติ้งลิ่วว่า “เมื่อวานจางว่างผ่านมาทางนี้ เสียดายไม่ได้พบพี่ท่าน”
จางซุ่นว่า “ข้ามีงานสำคัญ ไม่สนใจแก้แค้นเรื่องเล็ก”
พูดไม่ทันจบ หวางติ้งลิ่วบอกว่า “จางว่างมา”
จางซุ่นว่า “อย่าทำให้เขาแตกตื่น ดูว่าเขาไปไหน”
จางว่างเดินไปยังเรือที่หัวหาด หวางติ้งลิ่วตะโกนเรียก “พี่จาง เอาเรือมารับญาติข้าสองคนข้ามน้ำที”
จางว่างว่า “จะขึ้นเรือก็รีบมา”
หวางติ้งลิ่วมาบอกจางซุ่น จางซุ่นว่า “พี่อัน ท่านแลกชุดที่ใส่กับข้าที”
อันเต้าเฉวียนว่า “เพื่ออะไร”
“ท่านอย่าเพิ่งถาม ข้าจัดการเอง”
จางซุ่นเปลี่ยนเสื้อกับอันเต้าเฉวียน สวมหมวกปีกใหญ่ หวางติ้งลิ่วสะพายล่วมยา ทั้งสามมาลงเรือของจางว่าง
จางซุ่นมายังท้ายเรือ เปิดไม้พื้นกระดานเห็นมีดปังตอยังซ่อนอยู่ จางซุ่นหยิบมีดแล้วเข้ามาในโถงเรือ จางว่างแจวเรือเอี๊ยดอ๊าดออกมากลางแม่น้ำ จางซุ่นถอดหมวก ตะโกนบอกว่า “คนเรือ มาดูที ในนี้มีน้ำเข้า”
จางว่างโผล่หัวเข้ามา จางซุ่นจับเอาไว้แล้วตวาดถามว่า “โจรชั่ว ยังจำผู้โดยสารวันหิมะลงหนักได้ไหม”
จางว่างมองมา แต่ไม่ทันพูดอะไร
จางซุ่นตะคอกว่า “เจ้าชิงทองข้าไปร้อยตำลึง แล้วยังเอาชีวิตข้า แล้วเจ้าคนผอมนั่นหายไปไหน”
จางว่างว่า “ผู้กล้า ข้าได้ทองมาไม่คิดจะแบ่ง กลัวมันจะแย่งจึงฆ่าทิ้งน้ำไปแล้ว”
จางซุ่นถามว่า “แล้วเจ้ารู้จักข้าไหม”
จางว่างว่า “ข้าไม่รู้จักผู้กล้า โปรดไว้ชีวิตผู้น้อยด้วย”
จางซุ่นว่า “ข้าเกิดที่ลุ่มน้ำสวินหยาง โตที่เขาเสี่ยวหู เป็นตัวแทนแพปลาสด ใครต่างรู้จัก เมื่อคราวป่วนเมืองจิงโจว จึงได้ตามซ่งกงหมิงขึ้นเขาเหลียงซานผาดโผนใต้หล้า ใครก็ต้องเกรง เจ้าหลอกข้าลงเรือ มัดมือจับถ่วงน้ำ หากข้าไม่เชี่ยวชาญทางน้ำ มิตายไปแล้วหรือ วันนี้กรรมตามมาทัน ปล่อยเจ้าไว้ไม่ได้”
 
จางซุ่นลากตัวเข้ามาในโถงเรือ เอาเชือกมัดแขนขาทั้งสึ่เอาไว้ด้วยกัน แล้วจับเหวี่ยงลงแม่น้ำหยางจื่อ
“ละเว้นเจ้า ไม่ต้องลงดาบ”
แต่ดูท่าจางว่าง คงต้องเป็นผีเฝ้าท้องน้ำหยางจื่อ
หวางติ้งลิ่วเห็นแล้วถึงกับถอนหายใจ จางซุ่นค้นในเรือพบทองที่ถูกชิงไปและเงินปลีกจึงเก็บใส่ห่อหมด
พอเรือมาถึงอีกฝั่ง จางซุ่นกล่าวกับหวางติ้งลิ่วว่า “น้องเรามีน้ำใจ เป็นตายไม่ลืมกัน หากไม่รังเกียจ ก็เลิกร้านแล้วพาบิดาท่านขึ้นเขาเหลียงซาน อยู่ร่วมผดุงธรรม ไม่รู้ว่าท่านคิดอย่างไร”
หวางติ้งลิ่วว่า “ที่พี่ท่านพูด ตรงใจผู้น้อง”
กล่าวจบก็กล่าวลา จางซุ่นกับอันเต้าเฉวียนขึ้นฝั่งเหนือ หวางติ้งลิ่วนำเรือข้ามฟากกลับไปเก็บข้าวของแล้วค่อยตามมา
จางซุ่นกับอันเต้าเฉวียนเดินทางมาได้สามสิบกว่าลี้ อันเต้าเฉวียนพวกหนอนตำราก็ไปต่อไม่ไหว ต้องแวะพักหาอาหารกินที่ร้านในหมู่บ้าน ระหว่างนั่งกินกันอยู่ มีคนเดินเข้ามาจากหน้าร้านตะโกนทักว่า “น้องเรา ทำไมมัวแต่โอ้เอ้ชักช้า”
จางซุ่นหันมามอง เห็นจอมเวทเทพเดินหนไต้จง จึงแนะนำอันเต้าเฉวียนให้รู้จักกันแล้วถามถึงซ่งกงหมิง
ไต้จงว่า “ท่านพี่ตอนนี้สลบไสล น้ำท่าไม่กิน เหมือนรอความตาย”
อันเต้าเฉวียนถามว่า “ผิวหนังเนื้อตัว สีเป็นอย่างไร”
ไต้จงว่า “สีผิวซีดเซียว ร้องทั้งคืน เจ็บปวดไม่หยุด”
อันเต้าเฉวียนว่า “ร่างกายยังรู้เจ็บปวด ยังพอเยียวยา แต่กว่าจะไปถึงต้องอีกหลายวัน”
ไต้จงว่า “ไม่ยาก” แล้วหยิบผ้ายันต์ม้าผูกขาอันเต้าเฉวียนสองแผ่น ไต้จงสะพายล่วมยาเอง แล้วหันมาบอกจางซุ่น
“ท่านค่อยตามมา ข้าพาท่านหมอไปก่อน”
แล้วก็เสกคาถาเทพเดินหน พาอันเต้าเฉวียนล่วงหน้ามาเหลียงซาน
จางซุ่นรออยู่ที่ร้านในหมู่บ้านอยู่สามวัน หวางติ้งลิ่วจึงสะพายห่อผ้าพาบิดาตามมาถึง
จางซุ่นดีใจนักบอกว่า “ข้าตั้งใจรอท่านอยู่ที่นี่”
หวางติ้งลิ่วถามว่า “แล้วท่านหมออันเล่า”
จางซุ่นว่า “จอมเวทเทพเดินหนไต้จงมารับตัวล่วงหน้าไปก่อนแล้ว”
หวางติ้งลิ่วกับบิดาจึงร่วมทางกับจางซุ่น เดินทางมุ่งหน้าสู่เหลียงซาน
ไต้จงพาอันเต้าเฉวียนเดินทางด้วยเวทเดินหน ไม่นานก็มาถึงเขาเหลียงซาน เหล่าพี่น้องออกมาต้อนรับ แล้วเข้ามาออกันในห้องนอนของซ่งเจียง เห็นนอนหายใจรวยริน อันเต้าเฉวียนจับชีพจรดูแล้วว่า
“เหล่าหัวหน้าอย่าได้กังวล แม้ร่างกายจะดูทรุดโทรม แต่โดยองค์รวมแล้วยังไม่เป็นปัญหา มิใช่ผู้แซ่อันจะโอ้อวด ภายในสิบวันนี้จะฟื้นฟูได้คงเดิม”
เหล่าพี่น้องได้ฟัง ก็พากันคำนับ
อันเต้าเฉวียนเริ่มด้วยการรมยาเพื่อถอนพิษ แล้วจึงใช้ยา ภายนอกใช้ยาพอกปิด ภายในใช้ยาบำรุง ผ่านไปห้าวัน ผิวหนังเริ่มมีเลือดฝาด เนื้อตัวเริ่มมีน้ำนวล กินอาหารเบาได้สะดวก ไม่ถึงสิบวัน แม้รอยแผลยังไม่หายดี แต่กินดื่มได้ปกติ
จางซุ่นก็นำหวางติ้งลิ่วสองพ่อลูกมาถึง เล่าให้เหล่าพี่น้องฟังถึงเรื่องถูกชิงทรัพย์จับถ่วงน้ำ เหล่าพี่น้องว่า
“เกือบไปแล้ว พี่เรา”
ตอนก่อนหน้า : ซ่งเจียงล้มป่วย
ตอนถัดไป : อุบายตีต้าหมิง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา