23 ก.ย. เวลา 03:00 • ประวัติศาสตร์
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร

รูปปั้น 4 จักรพรรดิและจักรพรรดินี บนพระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์

หากคุณได้เยี่ยมชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร แล้วเดินไปถึงพระที่นั่งอิศเรศราชานุสรณ์ และขึ้นไปชั้น 2 จะเห็นห้องโถงขนาดใหญ่ นอกจากจะเป็นสถานที่ตั้งพระป้ายและพระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัวแล้ว ยังมีรูปปั้นของ 4 จักรพรรดิและจักรพรรดินีที่ทรงอิทธิพลในทวีปยุโรปในช่วงเวลาเดียวกับพระองค์ทรงดำรงพระชนม์ชีพ
4 จักรพรรดิและจักรพรรดินี มาจาก 3 ประเทศ ได้แก่ ฝรั่งเศส, อังกฤษ และรัสเซีย ซึ่งกำลังมีบทบาทสำคัญในทวีปเอเชียและแอฟริกาช่วงศตวรรษที่ 19
เริ่มจากจักรพรรดินโปเลียน หรือ "แนป คอร์สิกา" เด็กหนุ่มจากเกาะคอร์สิกา ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ที่มีความฝันอยากสร้างเกาะคอร์สิกาให้เป็นอิสระจากฝรั่งเศส แต่โชคชะตาและความสามารถของเขา ได้ผลักดันให้เขาเป็นนายพล, กงสุล และจักรพรรดิ แผ่ขยายอำนาจไปทั่วทวีปยุโรป จนเกิดความหวั่นเกรงแก่ชาติต่างๆ จึงต้องรวมตัวปราบปรามแนป และส่งเขาไปอยู่ที่เกาะเซนต์เฮเลนา กลางมหาสมุทรแอตแลนติกอันไกลโพ้น
จักรพรรดินโปเลียน โบนาปาร์ต
ต่อด้วยจักรพรรดินิโคลัสที่ 1 แห่งรัสเซีย หรือ "นิกกี้ เซนต์ปีเตอร์" ชายเป็นผู้ต้องการรักษาสถานะมหาอำนาจของรัสเซียในยุโรป จึงไม่พวกชอบเสรีนิยม เลยสนับสนุนให้ปรัสเซียและออสเตรียปราบปรามพวกโปลและฮังกาเรียนอย่างจริงจัง เพื่อทำให้บัลลังก์ของพระองค์มั่นคง
ด้วยความที่ท่าน้ำเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กใช้การไม่สะดวกในฤดูหนาว จึงต้องหาเรื่องกับอิหร่านจนได้จอร์เจีย, อาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจัน เป็นประตูสู่ทะเลดำ แต่ยังเหลือออตโตมันตุรกี อดีตอาณาจักรอันแข็งแกร่งที่เหลือแต่ชื่อเวลานั้น ที่ยังคุมปากทางทะเลดำสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อันไปหนทางไปสู่เอเชียและแอฟริกา ซึ่งขัดกับผู้ดูแลน่านน้ำอย่างอังกฤษ จึงก่อให้เกิดสงครามไครเมีย แต่การรบยังไม่ถึงข้อยุติ ปอดบวมจากอากาศอันหนาวเหน็บหยุดความฝันของนิกกี้เสียก่อนในปี ค.ศ. 1855
จักรพรรดินิโคลัสที่ 1
จักรพรรดินีวิกตอเรีย หรือ "วิกกี้ ฮาโนเวอร์" หลานสาวของจอร์จที่ 3 สติคลั่ง วิกกี้กำพร้าพ่อตั้งแต่หนึ่งขวบ ต้องมาปกครองอังกฤษตั้งแต่ยังสาวเพราะบรรดาลุงๆ ทั้งจอร์จที่ 4 และวิลเลียมที่ 4 ไม่มีทายาทอันชอบธรรมในการปกครอง สิทธิ์เลยมาถึงพระองค์แบบบุญหล่นทับ ด้วยความที่การบริหารงานอยู่ในมือนายกรัฐมนตรีที่ช่วยแผ่อำนาจของอังกฤษไปทั่วแอฟริกาและเอเชีย จนทำให้อังกฤษกลายเป็น "จักรวรรดิ" โดยสมบูรณ์
แต่ด้วยชาติในเอเชียหลายชาติไม่ค่อยรู้จักอังกฤษ คิดว่าเป็นคนเถื่อนบ้าง พวกนอกรีตบ้าง อังกฤษจึงพยายามเสนอตัวเองเป็นดินแดนอุตสาหกรรม ด้วยการนำผลิตภัณฑ์อย่างรถไฟและลูกโลกไปแสดงให้เห็นความทันสมัย มีเพียงสยามที่ชื่นชอบและต้อนรับด้วยการทำสนธิสัญญา ส่วนรัฐอื่นๆในอินเดีย พม่า และจีนต่างไม่ค่อยชอบของเล่นที่นำมาเสนอสักเท่าไหร่ จึงได้เรือรบ และจรวดเป็นของตอบแทน
จักรพรรดินีวิกตอเรีย
ปิดท้ายด้วย หลุยส์ ปารีส หลานชายของแนป คอร์สิกา เติบโตมาแบบฝรั่งเศสเต็มร้อย จึงต้องสร้างผลงานให้เทียบเท่าลุงแนป เป็นสาเหตุที่ต้องแข่งขันกับวิกกี้ ทำให้เหยียบเท้ากันบ้างในเอเชียและแอฟริกา และพยายามเอาใจสยามด้วยการส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์และเครื่องแบบนายทหารไปให้เพื่อเอาอกเอาใจ โชคดีที่พระปิ่นเกล้าสวรรคตในปี ค.ศ.1866 จึงไม่ได้เห็นย่อยยับของหลุยส์ ที่ไม่ได้มาจากวิกกี้ แต่มาจากวิลลี่ที่ 1 และออตโต้ สองหนุ่มจากปรัสเซียที่สร้างผลงานสยบหลุยส์จนตั้งตนเป็นเยอรมนีในอีก 5 ปีต่อมา
จักรพรรดินโปเลียนที่ 3
โฆษณา