2 ต.ค. เวลา 04:50 • ท่องเที่ยว
Victoria and Albert Museum

ค้นพบศิลปะและประวัติศาสตร์ที่พิพิธภัณฑ์ V&A

Chapter 72/7: Discovering Art and History at the V&A Museum
Blog ที่แล้วพาไปดูไดโนเสาร์มาแล้ว ใน Blog นี้เราไปดูของสวยๆ งามๆ กันมั่ง อยู่ใกล้กับ Natural History Museum สุดๆ แค่ข้ามถนน Exhibition Road มาอีกฝั่งก็จะเจอกับจุดหมายต่อไปของเรา Victoria and Albert Museum ค่ะ
Victoria and Albert Museum หรือพิพิธภัณฑ์วิกตอเรียแอนด์อัลเบิร์ต (ขออนุญาติเรียกว่า V&A นะคะ) เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะและการตกแต่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
จุดเริ่มต้นของ V&A มาจากในปี 1851 ที่ลอนดอนได้จัดงาน Great Exhibition ซึ่งเป็นงานแสดงการออกแบบและการผลิตระดับนานาชาติครั้งแรกของโลก
หลังจากงานนิทรรศการสิ้นสุดลง Prince Albert (เจ้าชายอัลเบิร์ตพระสวามีของพระราชินีวิกตอเรีย) ทรงมีวิสัยทัศน์ที่ต้องการจะพัฒนามาตรฐานอุตสาหกรรมการผลิตของอังกฤษให้มีความก้าวหน้าและสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ จึงทรงขอให้รัฐบาลนำกำไรที่ได้จากการจัดนิทรรศการไปต่อยอดในการสร้างพิพิธภัณฑ์และวิทยาลัยในเขต South Kensington เพื่อประโยชน์ในการศึกษาด้านศิลปะและวิทยาการต่อไป ซึ่ง V&A ก็เป็นสถาบันแห่งแรกที่ถูกสร้างขึ้นในปี 1852
เดิมทีพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีชื่อว่า South Kensington Museum (พิพิธภัณฑ์เซาท์เคนซิงตัน) แต่ภายหลังได้เปลี่ยนชื่อเป็น Victoria and Albert Museum ตามพระนามของสมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียและเจ้าชายอัลเบิร์ต เพื่อเป็นการรำลึกถึงบทบาทของพระองค์ในการก่อตั้งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้
V&A มีพื้นที่ขนาด 12.5 เอเคอร์ (30 ไร่) มีห้องจัดแสดงทั้งหมด 145 ห้อง และมีของสะสมมากกว่า 2.27 ล้านชิ้น ซึ่งของสะสมที่อยู่ภายใน V&A มีตั้งแต่ของโบราณที่มีอายุกว่า 5,000 ปี ไปจนถึงของร่วมสมัยยุคปัจจุบัน และถูกรวบรวมมาจากทุกทวีปทั่วโลกไม่ว่าจะเป็น ยุโรป อเมริกา แอฟริกา หรือเอเชีย
คอลเล็กชั่นที่อยู่ภายใน V&A มีทั้งเครื่องเซรามิกส์ เครื่องแก้ว เครื่องเงิน เครื่องโลหะ อัญมณี เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย และโบราณวัตถุจากยุคกลาง งานประติมากรรม ภาพเขียน และงานพิมพ์
ป.ล. V&A ก็ไม่เก็บค่าเข้าเหมือนกัน และที่นี่เป็นพิพิธภัณฑ์เดียวที่เราไม่ได้จองมาล่วงหน้าแต่ก็เข้าได้เลยเพราะคนไม่ค่อยเยอะค่ะ
เราเข้ามาทางประตูฝั่งตะวันออก เข้ามาถึงก็จะเจอกับงานประติมากรรมมากมาย
เดินดูของไปเรื่อยๆ จนมาถึงโซนที่ชื่อ Cast Courts ถึงกะต้องร้องว้าวกันเลย เพราะห้องนี้มีของจัดแสดงแน่นขนัดไปหมด
Cast Court เปิดมาตั้งแต่ปี 1873 เป็นที่จัดแสดง "งานจำลอง" ที่สร้างจากปูนปลาสเตอร์ของงานศิลปะชิ้นสำคัญๆ หลายชิ้นจากทั่วโลก ซึ่งถึงแม้ว่าชิ้นงานเหล่านี้จะเป็นแค่งานจำลองแต่ก็มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เพราะเป็นตัวแทนของผลงานจริงบางชิ้นที่ได้ถูกทำลายไปแล้ว
มาดูงานจำลองชิ้นสำคัญๆ ที่จัดแสดงในห้องนี้กันค่ะ
ชิ้นแรกชื่อ Portal เป็นงานปูนปลาสเตอร์ที่จำลองประตูหลักทางทิศตะวันตกของอาสนวิหาร Aix ในประเทศฝรั่งเศส
Portal
ซึ่งลวดลายบนประตูบานนี้จะประกอบไปด้วยรูปของพระแม่มารีและพระกุมารเยซูอยู่ตรงกลาง ครึ่งบนของประตูเป็นรูปศาสดาพยากรณ์หญิง 12 คน ส่วนครึ่งล่างเป็นรูปศาสดาพยากรณ์ชายจากพันธสัญญาเดิม 4 คน
ชิ้นต่อไปใหญ่โตมโหฬารมากชื่อ Trajan's Column
Trajan's Column
เสา Trajan ของจริงตั้งอยู่ที่กรุงโรมประเทศอิตาลี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 113 เพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิตรายานุสแห่งจักรวรรดิโรมันในการพิชิต Dacia (ปัจจุบันคือประเทศโรมาเนีย)
เสาจำลองที่อยู่ที่ V&A จะมีอยู่ 2 ต้นโดยต้นหนึ่งจะมีห้องอยู่ด้านในฐานของเสาด้วย
ห้องข้างใต้ฐานใหญ่มากขนาดเข้าไปนั่งเล่นกันได้หลายคนเลย
ถัดมาเป็น Tabernacle หรือพลับพลาที่จำลองมาจากพลับพลาในโบสถ์ Church of St. Leonard ที่กรุงบรัสเซลส์ประเทศเบลเยี่ยม สร้างขึ้นประมาณปี 1552
Tabernacle Church of St. Leonard
ชิ้นต่อไปเป็นประตูในอารามจาก The Monastery of San Juan de los Reyes ประเทศสเปน
Cloisters of the Monastery of San Juan de los Reyes
อารามแห่งนี้สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระเจ้าเฟอร์ดินานด์ที่ 2 แห่งอารากอนและพระราชินีอิซาเบลลาที่ 1 แห่งคาสตีล เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของผู้ปกครองในราชวงศ์สเปน เป็นงานแกะสลักที่แสดงให้เห็นรูปแบบอันวิจิตรบรรจงในสไตล์ของโกธิก
ชิ้นต่อไปคือ Portico de la Gloria ที่เป็นฉากในพระคัมภีร์ที่ประกอบไปด้วย ศาสดา นักบุญ และทูตสวรรค์ ถือเป็นอนุสรณ์สถานที่โดดเด่นที่สุดแห่งหนึ่งของศิลปะยุคโรมัน
Portico de la Gloria
ซุ้มประตูของจริงถูกสร้างตั้งแต่ปี 1188 เพื่อประดับทางเข้าหลักของอาสนวิหาร Santiago de Compostela ที่อยู่ในประเทศสเปน
นอกจากนั้นก็มีของอื่นๆ อีกมากมาย
มาที่ห้องฝั่งตรงข้ามกันบ้าง
เราจะได้พบกับหนึ่งในงานประติมากรรมที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปะ ที่สร้างโดย Michelangelo (ไมเคิลแองเจโล) เป็นรูปปั้นของวีรบุรุษในพระคัมภีร์ไบเบิลที่ชื่อว่า David นั่นเอง
David
รูปปั้น David ของจริงอยู่ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี ส่วนรูปปั้นจำลองที่ตั้งอยู่ที่ V&A ชิ้นนี้ทำขึ้นโดย Clemente Papi ในปี 1856 ซึ่ง Grand Duke of Tuscany ได้มอบหมายให้ Papi สร้างแบบจำลอง David ขนาดเท่าของจริงเพื่อมอบให้กับ Queen Victoria เพื่อเป็นการแสดงน้ำใจ และ Queen Victoria ก็ได้มอบรูปปั้นจำลองนี้ให้จัดแสดงที่ V&A ในเวลาต่อมา
งานชิ้นต่อไปคือ Gates of Paradise
Gates of Paradise
ของจริงอยู่ใน Baptistry of Florence Cathedral ที่เมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี สร้างโดย Lorenzo Ghiberti
ชิ้นต่อไปคือ Pulpit (ธรรมมาสน์)
Pulpit
ธรรมมาสน์นี้จำลองมาจากแท่นสำหรับเทศนาที่อยู่ในอาสนวิหารที่เมืองปิซ่า ประเทศอิตาลี ออกแบบโดย Giovanni Pisano
ถัดมาเป็น Tomb of Cardinal Ascanio Sforza สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระสันตปาปาจูเลียสที่ 2 เพื่อเป็นการรำลึกถึงอดีตศัตรูของพระองค์ Ascanio Sforza (อัสคานิโอ สฟอร์ซา)
Tomb of Cardinal Ascanio Sforza
ซึ่งหลุมศพนี้ของจริงอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี
และงานอีกมากมายที่อยู่ภายในห้องนี้
มีคนมานั่งสเก็ตช์ภาพกันในนี้ด้วย
มีของให้ดูอีกเยอะมากกก
มาเจอ Jewellery Gallery ห้องจัดแสดงเครื่องประดับที่สวยมาก เป็นห้องกระจกสีเข้มที่เต็มไปด้วยอัญมณีและเครื่องประดับมากมาย ตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ กรีก โรม จนถึงยุคปัจจุบัน
ส่วนชิ้นนี้เป็นมงกุฎแซฟไฟร์และเพชรของ Queen Victoria
Queen Victoria's Sapphire and Diamond Coronet
ด้านนอกห้องแสดงก็สวยมาก เหมือนเดินอยู่ในพระราชวังเลย
โดยเฉพาะ V&A Café ขอบอกต้องมาสวยโฮกๆ
ก็ประมาณนี้ค่ะกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะและการตกแต่ง V&A
เราชอบที่ V&A มากเลยเพราะมีของให้ดูเยอะมากๆ ถึงบางอย่างจะเป็นของจำลองแต่ก็ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นงานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์เยอะมากๆ และที่สำคัญที่นี่คนน้อยดี
หวังว่าจะชอบ Blog เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์อีกแห่งหนึ่งของเรานะคะ มาลอนดอนงวดนี้ได้เก็บ NHM และ V&A ที่ตั้งใจไว้ทั้งสองแห่งครบแล้ว คราวหน้าถ้ามีโอกาสมาอีกจะไปตระเวนหาพิพิธภัณฑ์ที่น่าสนใจมาเล่าให้ฟังอีกนะคะ
สถานีรถไฟ South Kensington ยังสวยเลย
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา