2 ต.ค. เวลา 05:45 • สุขภาพ

การกินเจ งดเนื้อสัตว์ เน้นผัก เลือกโปรตีนจากพืช ช่วยสุขภาพด้านไหนบ้าง?

เทศกาลกินเจ 2567 ประโยชน์ด้านสุขภาพที่ต้องรู้ กิน 9 วันต่อปี ช่วยลดอาการท้องผูก ขับของเสีย อวัยวะภายในแข็งแรง จิตใจผ่องใส ไม่ฟุ้งซ่าน เผยเทคนิคเริ่มกินและออกเจปรับระบบการย่อยอาหารอย่างถูกต้อง
เทศกาลกินเจ หรือ กินแจ หรือบางแห่งเรียกว่า ประเพณีถือศีลกินผัก โดยในปี2567 ตรงกับวัน พฤหัสบดีที่ 3 ถึง วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2567 (9 วัน 9 คืน) โดยคำว่า “เจ” หรือ “ไจ” แปลว่า ไม่มีของคาว ซึ่งก็คือเนื้อสัตว์ทุกชนิด รวมไปถึงพืชหรือผักที่มีกลิ่นฉุน ซึ่งในช่วงเทศกาลกินเจ จะต้องงดรับประทานอาหาร 4 ข้อดังนี้
อาหารเจ
● งดการบริโภคเนื้อสัตว์ หรือทำอันตรายสัตว์ทุกชนิด
● งดไข่ นม เนย และน้ำมันที่มาจากสัตว์
● งดอาหารรสจัด (รสเค็มมาก หวานมาก เปรี้ยวมาก และเผ็ดมาก)
● งดผักกลิ่นฉุน ได้แก่ กระเทียม หัวหอม หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ
อาหารเจนับว่าเป็นอาหารที่มีประโยชน์ และไม่มีพิษต่อร่างกาย เพราะได้โปรตีนจากถั่วต่างๆ และยังย่อยง่าย เป็นการแบ่งเบาภาระของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย ผู้ที่รับประทานเจ สามารถเลือกส่วนผสมดังต่อไปนี้มาปรุงอาหารได้ คือ ข้าวกล้อง โปรตีนเกษตร ผักสด เห็ดหอม ถั่วนานาพันธุ์ เต้าหู้ แป้งหมี่กึง และผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันทำเป็นอาหารชนิดต่างๆ ปัจจุบันมีเมนูอาหารจำนวนมาก
ซึ่งหลายเมนูทำเลียนแบบเนื้อสัตว์ได้เหมือนจริง เช่น ขาหมูเจที่ทำจากแป้ง และถั่ว
-ประโยชน์ที่ได้รับจากอาหารเจ-
● ลดอาการท้องผูก อาหารเจประกอบด้วยผัก ผลไม้และธัญพืช กากใยอาหารจะช่วยกระตุ้นให้ระบบขับถ่ายทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง ลดปัญหาท้องผูก ช่วยลดโอกาสการเป็นโรคริดสีดวงทวาร
● ลดปริมาณไขมัน ควรเลือกเมนูที่เน้นผักและผลไม้เป็นหลัก ใช้น้ำมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในการทำอาหาร และใช้น้ำมันในปริมาณน้อย
● ช่วยให้ร่างกายขับของเสีย ในผักและผลไม้มีสรรพคุณช่วยขับของเสียและสารพิษที่อยู่ในร่างกาย
● ลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็ง การกินเนื้อมากเกินไปและไม่กินผัก ทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ แต่หากปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินหันมากินผักและผลไม้ให้มากขึ้นหรือกินเจ จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายไปในทางที่ดีขึ้น
● อวัยวะภายในแข็งแรง การกินเจจะช่วยให้โลหิตถูกฟอกให้สะอาดมากขึ้น อวัยวะภายในร่างกายแข็งแรง ร่างกายสามารถต้านทานสารพิษต่างๆ ได้มากกว่าการกินเนื้อ
● ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ผัก ผลไม้และธัญพืช มีวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระ โอมาก้าและแร่ธาตุต่างๆ ที่ช่วยทำให้ผิวพรรณกระจ่างใส ทำให้ผิวมีสุขภาพดี และผิวไม่หย่อนคล้อยก่อนวัย
● สร้างภูมิคุ้มกันโรค เมนูอาหารเจโดยเฉพาะเมนูที่ทำจากเห็ด จะช่วยเพิ่มภูมิต้านทานของร่างกายและมีสารแอนติออกซิแดนต์ ทำหน้าที่ป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายหรือเสื่อมง่าย เห็ดที่มีประโยชน์ ได้แก่ เห็ดยามาบูชิตาเกะ เห็ดไมตาเกะ เห็ดหลินจือและเห็ดหอม
● จิตใจผ่องใส ไม่ฟุ้งซ่าน การกินเจควบคู่กับการถือศีลปฏิบัติธรรม งดกินเนื้อสัตว์ถือว่าเป็นการลดการฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต ไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์อื่นๆ ส่งผลให้เกิดความรู้สึกที่ดีกับตัวเรา ทำให้จิตใจดี ผ่องใสมากขึ้น
กรมอนามัยเปิดเผยว่า การกินเจติดต่อกันเป็นเวลา 9 วัน ส่งผลให้ร่างกายมีการปรับสภาพของระบบการย่อยอาหารจากที่ย่อยเนื้อสัตว์มาเป็นพืชผักเป็นหลักแทน เมื่อหลังออกเจในช่วง 2-3 วันแรก ประชาชนควรปรับสภาพร่างกายด้วยการกินอาหารอ่อน ย่อยง่ายประเภทเนื้อปลา ไข่ นมผักและผลไม้ ให้หลากหลายครบ 5 หมู่ เลือกรสไม่จัด เลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม และอาหารย่อยยากอย่างเนื้อสัตว์ติดมันเนื้อวัว เนื้อหมู เพื่อให้ร่างกายค่อยๆปรับระบบการย่อยอาหารจากพืชผักมาเป็นเนื้อสัตว์ในช่วงแรก
เพราะหากบริโภคอาหารที่ย่อยยากหรืออาหารตามปกติเลย อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด จุกเสียด แน่นท้อง และย่อยอาหารได้ไม่ดี
โดยเมนูอาหารย่อยง่าย อาทิไข่ตุ๋นทรงเครื่อง ปลานึ่งขิง แกงจืดเต้าหู้ไข่ใบตำลึง สำหรับผู้ที่ต้องการจะกลับมาดื่มนมวัวหลังออกเจ แนะนำให้เริ่มดื่มครั้งละน้อย ประมาณครึ่งแก้ว และสามารถเพิ่มเป็นครั้งละ 1 แก้วได้ในเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์ หรือดื่มนมหลังอาหารขณะที่ท้องไม่ว่าง หรือดื่มนมในช่วงสายหรือช่วงบ่าย ในมื้ออาหารว่างหรือเลือกผลิตภัณฑ์นมที่ผ่านการย่อยน้ำตาลแลคโตสบางส่วนโดยจุลินทรีย์ เช่น โยเกิร์ตหรืออาจดื่มนมถั่วเหลืองทดแทนไปก่อน
เมื่อรู้สึกว่าร่างกายสามารถปรับสภาพการย่อยอาหารกลับสู่ภาวะเดิมได้แล้วก็สามารถกินอาหารและดื่มนมได้ตามปกติ
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/health/food/5938
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา