8 ต.ค. เวลา 17:00 • ธุรกิจ

ทำไมเริ่มธุรกิจยาก?

จะพูดว่ายากได้ไม่เต็มปาก เพราะว่าสมัยนี้มีสิ่งที่เรียกว่าช่องทางออนไลน์ ทำให้การทำธุรกิจไม่ยาก แต่มีก็มีสิ่งหนึ่งที่เรียกว่าอำนาจเก่า ซิ่งทำให้คนรุ่นใหม่ที่อยากจะทำหรือเริ่มต้นทำธุรกิจอยู่ได้ไม่นานมากนัก
สมัยนี้คนส่วนใหญ่หรือนักศึกษาจบใหม่เริ่มมีความคิดที่ไม่อยากจะทำประจำกันหมด อยากจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองกันทุกคน แต่บางคนก็ไม่มีความรู้มากพอ บางคนไม่มีเงินทุน แต่บางคนก็เริ่มธุรกิจของตัวเองได้ แต่ว่าทำไปทำมากลับล้มเหลว วันนี้ทางEasy Finance เลยนำเสนอ 22 เหตุผลที่ควรรู้ว่าทำไมถึงทำไมธุรกิจไม่รุ่ง
1. ไม่มีที่ปรึกษาที่ดี
การหาที่ปรึกษาที่ดีไม่ใช่การปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือมนุษย์เงินเดือนด้วยกัน เพราะผู้อ่านก็จะได้แต่ทัศนคติและมุมมองเดิมๆ ส่วนใหญ่ที่คนทำธุรกิจแล้วล้มเหลว เพราะเลือกที่จะปรึกษาคนระดับเดียวกันที่ยังไม่เคยทำธุรกิจ เลยทำให้นอกจากจะขาดแนวทางที่ดี ยังขาดการเข้าใจปัญหาที่ถูกต้องอีกด้วย
2. เลือกคนผิด
หลายคนตัดสินใจทำธุรกิจครั้งแรกด้วยความไม่มั่นใจ เลยดึงเอาคนอื่นมาร่วมกันทำธุรกิจเพื่อเป็นหุ้นส่วน ประเด็นคือการหาหุ้นส่วนไม่ใช่เรื่องผิด แต่ที่ทำให้ล้มเหลวจริงๆ ก็คือการตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ บางคนหุ้นส่วนทิ้งงาน ทะเลาะกับลูกค้า มีความคิดเห็นขัดแย้งกันเองเป็นต้น เหมือนดั่งคบคนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิตพาไปหาผล
3. ใช้เงินคนอื่นลงทุน
ตรงนี้ขัดแย้งกับความเชื่ออันเดิมของผู้อ่านเป็นอย่างมาก หนังสือการเงินส่วนใหญ่สอนให้ใช้เงินคนอื่น แต่นี่คือสาเหตุส่วนใหญ่ที่ทำให้ธุรกิจของผู้อ่านล้มเหลว เพราะการเอาเงินคนอื่นมาลงทุน จะทำให้ผู้อ่านมองไม่เห็นคุณค่าของเงิน ไม่รู้ว่าสิ่งที่เอามาลงทุนนั้นมีมูลค่าขนาดไหน คล้ายๆกับพ่อแม่ซื้อโทรศัพท์มือถือ iPhone ให้
กับผู้อ่านเก็บตังค์เพื่อซื้อโทรศัพท์ iPhone เอง ความรัก ความภูมิใจ การถนอมธุรกิจมันแตกต่างกัน
4. อายที่จะเป็นนักขาย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ คนที่เริ่มทำธุรกิจครั้งแรกหลายคนไม่กล้าที่จะเป็นนักขาย บริษัทใหญ่จะเจริญเติบโตและมีรายได้ ได้อย่างไรถ้าไม่มีระบบการขายที่ดี ธุรกิจเล็กๆ จะรอดได้อย่างไร ถ้าการขายเป็นสิ่งที่ถูกละเลย ดังนั้นทักษะด้านการขายถือว่าสำคัญสุดๆ
5. ซ้ำจนเกร่อ
รู้ไหมครับว่าคนทำธุรกิจส่วนใหญ่แล้วล้มเหลวนั้น ส่วนใหญ่นั้นมาจากธุรกิจอะไร ธุรกิจส่วนใหญ่ที่ทำแล้วล้มเหลวเป็นจำนานมากนั้นมาจากธุรกิจขายกาแฟนั่นเอง โชคดีในยุคนี้คือกาแฟกลายเป็นของทานเล่นที่คนส่วนใหญ่โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนใช้กินกัน ร้านกาแฟไม่ใช่ไม่ดี แต่ถ้าหาจุดที่ไม่ซ้ำคนอื่นไม่ได้ โอกาสรอดก็ยาก
6. คิดว่าเงินธุรกิจคือเงินตัวเอง
ข้อนี้เป็นเรื่องที่ประหลาดใจมากๆ เพราะคนทำธุรกิจส่วนใหญ่ที่ประสบความล้มเหลวมักจะบอกว่า ทำแล้วไม่มีกำไร พอพวกเราถามถึงเรื่องต้นทุนกับการขายปรากฏว่ามีกำไรแน่ๆ และพอได้พูดคุยสอบถามกันไปสอบถามกันมา กำไรของธุรกิจ ถูกเอามาใช้กับเรื่องส่วนตัวหมด เลยทำให้กำไรเป็นขาดทุนทันที
7. หาลูกน้องดีๆ ไม่ได้
ข้อนี้สำคัญเลยทีเดียว ใครก็ตามที่เปิดร้านแล้วต้องมีคนเฝ้าร้าน ดูแลร้าน น่าประหลาดที่การหาลูกน้องเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ในยุคนี้ หลายๆร้านเจ้าของต้องลงไปทำเอง ซึ่งกำไรที่ได้ไม่คุ้มค่าตัวตัวเองแน่ๆ เลยทำให้ต้องต้องตัดสินใจปิดร้านไปโดยปริยาย บางคนได้ลูกน้อง แต่เอาลูกน้องมาดูปุ๊บยอดตก เพราะได้ลูกน้องค่าแรงถูก แต่บุคลิกหรือการพูดกับลูกค้าไม่ได้เลย บางคนหนักหน่อย โดนขโมย
8. อีโก้แรง
การเป็นมนุษย์เงินเดือนผู้อ่านจะง้อหรือไม่ง้อลูกค้าก็ได้ เพราะว่าบริษัทคือส่วนเสียหาย ไม่ใช่พนักงาน แต่การทำธุรกิจนั้นจำเป็นที่ต้องง้อลูกค้าอย่างมหาศาล ตราบใดที่รายได้ยังไม่สะพัด เพราะกำไรของธุรกิจส่วนใหญ่จะเกิดจากการซื้อซ้ำนั่นเอง
9. ขาดความมั่นใจดื้อๆ
เวลาที่ลงทุนทำอะไรแล้วไม่เป็นไปอย่างที่คิด สิ่งแรกสุดที่เราต้องทำก็คือ หาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าเพราะอะไรทุกอย่างถึงไม่เป็นไปตามความคิด แต่คนส่วนใหญ่ที่ล้มเหลว พอเจออุปสรรคที่นอกเหนือจากที่วางแผนเอาไว้ ก็ท้อใจ และขาดความมั่นใจเอาดื้อๆ ทำให้หลายๆ ครั้งปัญหาเล็กๆ กลายเป็นสวิตช์ปิดตายความสำเร็จไปเลย
10. เจอเรื่องไม่คาดฝัน
ม็อบปิดถนน คู่แข่งมาเปิดแข่ง หุ้นส่วนทะเลาะกันแล้วขอแยกยกเลิกการเป็นหุ้นส่วนกัน ลูกน้องทิ้งร้านไม่ดูแล ลูกค้าไม่พอใจแล้วโวยวาย เป็นต้น สาเหตุเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ล้วนได้ชื่อว่า เหตุการณ์ไม่คาดฝันทั้งนั้น ทำให้จำใจต้องล้มเลิกไปโดยปริยาย
11. ศรัทธา Passive Income มากจนเกินไป
จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเจ้าของไม่ลงมาทำเอง หนังสือต่างๆ มากมายรวมไปถึงนักพูดส่วนใหญ่เอา Passive Income เอามาใช้อย่างสวยหรู แน่นอน หลักประกันของ Passive Income มีสองอย่าง คือหนึ่งระบบผู้อ่านต้องแข็งแรงมาก และสอง ลูกน้องหรือผู้ร่วมธุรกิจของผู้อ่าน นั้นจะต้องรักผู้อ่านมากๆ จนไม่กล้าทำให้ผู้อ่านผิดหวัง ส่วนใหญ่ไม่มีทั้งสองทาง เลยติดกับดักของ Passive Income
12. ไม่มีเวลา
มีลูก พ่อแม่ป่วย ย้ายบ้าน ย้ายที่ทำงาน การไม่มีเวลาดูแลธุรกิจเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะทำธุรกิจเติบโตไปได้ เพราะการที่ผุ้อ่านจะประสบความสำเร็จอะไรสักหนึ่งธุรกิจนั้นได้ จะได้ใช้เวลา ศึกษา ใช้เวลาลงมือทำอย่างจริงจัง เพราะหากผุ้อ่านไม่มีเวลาให้กับธุรกิจที่ผู้อ่านจะทำขอแนะนำว่าอยู่เฉยๆจะดีกว่า
13. ดูถูกธุรกิจตัวเอง
ทัศนคติเป็นเรื่องชี้เป็นชี้ตายสำหรับธุรกิจเลยทีเดียวก็ว่าได้ หลายๆคนมักจะดูถูกสิ่งที่ตัวเองทำ บางคนเรียนสูง เปิดร้านกาแฟแต่ไม่ยอมลงมาทำเอง ไม่มาดูแลลูกค้า ศึกษาความต้องการของลูกค้า เพราะเขารู้สึกว่ามันไม่สมศํกดิ์ศรีการเรียนของเขา ความจริงคืออะไรที่หาเงินได้แล้วถูกกฎหมาย ถูกศีลธรรม มันไม่มีคำว่าเสียศักดิ์ศรี
14. ลงทุนไม่รู้จักจบจักสิ้น
การเป็นคนชอบความสมบูรณ์แบบเป็นสิ่งดี แต่หลายๆครั้ง เงินทุนและกำไรทั้งหมดเอาไปลงทุนเพื่อความสมบูรณ์แบบ ทำให้ต้นทุนของธุรกิจสูงจนน่าใจหาย สุดท้ายได้กำไรมาเท่าไหร่ ต้องหมุนเป็นเงินลงทุนหรือไม่ก็ดอกเบี้ยธนาคารทั้งสิ้น
15. คิดว่าการเริ่มต้นคือความสำเร็จ
หากคิดว่าความสำเร็จคือการเริ่มต้น นั่นเป็นความคิดที่น่ากลัวมาก หลายคนมักจะรู้สึกว่าตัวเองนั้น ประสบความสำเร็จแล้วหลังจากตัดสินใจลงมือทำธุรกิจ แต่แท้จริงแล้วคนที่เขาประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงทุกคน จะสอนหรือแนะนำเหมือนกันหมด ว่าการเริ่มต้นยากและเหนื่อยที่สุด ดังนั้นผู้อ่านต้องทำใจการเริ่มต้นคือการเริ่มเหนื่อย มันยังไม่ใช่ความสำเร็จ
16. ทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่น
การเมือง เศรษฐกิจ เพื่อนร่วมงาน หุ้นส่วน พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูงมิตรสหาย และเลวร้ายที่สุด คู่แข่ง และที่เลวร้ายที่สุด โทษ “ลูกค้า” การโทษคนอื่นเป็นการง่ายที่จะทำให้ผุ้อ่านรู้สึกว่าเราไม่ผิด แต่คนที่ประสบความสำเร็จและร่ำรวยล้วนเป็นคนที่โทษตัวเองเป็นอันดับแรกทั้งสิ้น ข้อดีของการโทษตัวเองคือมันจะได้รู้จุดที่ปรับเปลี่ยนตัวเองทัน แล้วเอาไปใช้เพื่อหาเงินหาทองครับ
17. หมดแรงก่อนถึงเป้าหมาย
อันนี้เป็นเหตุผลที่ไม่สมเหตุสมผลที่สุด ความขี้เกียจ ท้อแท้ หมดแรงเป็นศัตรูตัวร้ายอยู่ทุกวงการอยู่แล้ว หลายๆ คนทำธุรกิจด้วยความอยากทำ พอทำแล้วก็เกิดความขี้เกียจแล้วพาลไม่อยากทำ ถ้าผู้อ่านรักในสิ่งที่ผู้อ่านทำ ผู้อ่านจะไม่มีวันขี้เกียจ เหตุผลเดียวที่ผู้อ่านยังคงขี้เกียจ แสดงว่าผู้อ่านยังไม่มีเป้าหมายชีวิตที่อยากไปให้ถึงนั่นเอง
18. ทำการบ้านและศึกษาข้อมูลให้เยอะ
สิ่งที่ควรทำเมื่ออยากเริ่มต้นทำธุรกิจนั้น ผู้อ่านต้องรู้จักและเข้าใจในธุรกิจที่ผู้อ่านกำลังจะเข้าไปทำให้ดี รู้ว่าในตลาดที่ผู้อ่านกำลังลงไปเล่นนั้น ธุรกิจแข่งขันกันด้วยอะไร เพราะอะไรลูกค้าถึงต้องซื้อของผู้อ่าน ผู้อ่านสามารถสร้างข้อแตกต่างหรือข้อได้เปรียบอะไรบ้าง และเริ่มวางแผนบนกระดาษก่อนที่จะลงเงินจริง ๆ
19. ขายในสิ่งที่ “ลูกค้าต้องการ” ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อ่านต้องการ
ควรเริ่มต้นธุรกิจอย่างไร คงจะไม่มีเทคนิคไหนดีไปกว่าการที่ผู้อ่านแน่ใจว่าคุณกำลังขายในสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อ่านต้องการ เพราะถ้าสินค้าของผู้อ่านไม่ได้เป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ต่อให้ผู้อ่านตั้งใจทำขนาดไหนก็ยากที่จะมีคนซื้อ เพราะมันไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใด ๆ ให้กับลูกค้าเลย แล้วผู้อ่านจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้าต้องการอะไรจริง ๆ วิธีที่ง่ายที่สุดก็คือ อย่าคิดเองเออเองในห้องประชุมครับ ออกไปคุยกับลูกค้าจริง ๆ ไปเรียนรู้ ไปเข้าใจลูกค้า
20. เข้าใจคู่แข่งทั้งทางตรงและทางอ้อม
ทุกวันนี้สิ่งต่าง ๆ ถูกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่างเช่น การที่ผู้อ่านมีร้านอาหารอยู่ในละแวกนั้น ไม่ได้แปลว่าคู่แข่งของผู้อ่านจะต้องอยู่ในละแวกเดียวกันอย่างเดียวเท่านั้น แต่คู่แข่งของผู้อ่านอาจจะมาจากร้านที่อยู่ห่างผู้อ่านไปอีกเป็น 10 กิโล เพราะโมเดลมันเปลี่ยนไป การเกิดขึ้นของ Platform Food Delivery ทำให้มีร้านเกิดใหม่ที่เป็น Ghost Restaurant (ร้านอาหารที่ไม่มีหน้าร้าน) เกิดขึ้นมากมาย ทำให้คนมีตัวเลือกมากขึ้น
21. จ้างคนที่ควรจ้าง จ่ายในสิ่งที่ควรจ่าย
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พูดกันบ่อยมาก ๆ ว่าอย่าพยายามทำทุกอย่างด้วยตัวเอง การทำธุรกิจผู้อ่านไม่สามารถทำคนเดียวทุกอย่างได้ ผู้อ่านจะต้องมีทีมที่เก่ง ดังนั้น หากจำเป็นจริง ๆ การจ้างคนอื่นมาทำในสิ่งที่ผู้อ่านไม่ถนัดหรือทำได้ไม่ดี เป็นสิ่งที่ควรทำเมื่ออยากเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ (ถ้าไม่มีเงินจ้าง ก็อาจจะใช้วิธีหาพาร์ทเนอร์ที่เขามีความถนัดในสิ่งที่เราไม่ถนัดก็ได้)
22. เรื่องเงินเรื่องใหญ่
เรื่องเงินอันนี้เรื่องใหญ่ เพราะการเป็นเจ้าของกิจการจะต้องสามารถอธิบายที่มาที่ได้ครบทุกมิติ ชัดเจนและไม่คลุมเครือ ไล่ตั้งแต่ก่อนการเริ่มต้นทำธุรกิจ ตั้งเรื่องแหล่งเงินทุนของเราจะมาจากไหน จำนวนเท่าไหร่และต้นทุนของเงินคือเท่าไหร่
และนี่ก็คือเหตุผลทั้งหมดว่าทำไมคนส่วนใหญ่ถึงได้ทำธุรกิจแล้วล้มเหลวกันทั้งนั้น เพราะขาดเป้าหมาย ความอดทน ไม่มีเวลา และที่สำคัญขาดความรู้ ฉะนั้นก่อนจะเริ่มทำธุรกิจขอให้คิดดีๆก่อนว่าผู้อ่านรักมันจริงๆ มีความรู้มากพอ หากคิดว่าพร้อมแล้วก็ลุยเลย แล้วชีวิตผู้อ่านจะพบเจอจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลงไปสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่าเดิม!
ข้อมูลอ้างอิง
ติดต่ดงานได้ที่
อาหารเสริมบำรุงสมองและสายตา
คนที่มีชีวิตที่ดีคือคนที่สู้แล้วไม่ยอมแพ้
Easy Finance

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา