17 ต.ค. เวลา 03:18 • ประวัติศาสตร์

เรื่องเล่าวิกฤตซับไพรม์: พายุมหึมาที่พัดมาถึงไทย

ถ้าคุณนึกถึงเรื่องของ "ซับไพรม์" คุณอาจจะจำได้ว่าเหตุการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศไทย แต่มันพัดจากแดนไกลข้ามมหาสมุทรมาถึงเรา เรื่องนี้เริ่มต้นในปี 2007 เมื่อวิกฤตเศรษฐกิจในอเมริกาลุกลามไปทั่วโลก โดยเฉพาะจากความล้มเหลวของการปล่อยสินเชื่อในอเมริกาที่เรียกว่า "ซับไพรม์" จนกลายเป็นวิกฤตระดับโลก (เรื่อง The big short)
จุดเริ่มต้นของพายุซับไพรม์
เพราะกลับมาบ้านเมืองยุคนั้น อเมริกากำลังอยู่ช่วงเฟื่องฟูของตลาดบ้านที่ดิน บ้านเดี่ยวในเขตเมืองใหญ่ขายดิบขายดี ธนาคารปล่อยสินเชื่อให้คนซื้อบ้านได้อย่างง่ายดาย แม้แต่คนที่ไม่มีรายได้แน่นอนหรือมีเครดิตต่ำๆ ก็สามารถกู้เงินก้อนโตได้ คำว่า "ซับไพรม์" หมายถึงสินเชื่อที่ปล่อยให้กับลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูง เหมือนกับการเล่นกลที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าการกู้เงินเป็นเรื่องง่ายดาย เหมือนบ้านที่สร้างบนทราย เมื่อกระแสลมพัดแรงขึ้น บ้านที่ดูแข็งแรงก็เริ่มสั่นคลอน
ใช้เวลาจนถึงวันที่ราคาเริ่มร่วงลงอย่างรวดเร็ว ธนาคารก็เริ่มตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ดี หนี้สินก้อนโตกลายเป็นภาระที่หลายคนไม่สามารถจ่ายคืนได้ บางส่วนของสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลกล้มลง และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นเหมือนภาพที่ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็นในยุคสมัยนี้
ซับไพรม์กับผลกระทบที่ถึงไทย
ขณะที่พายุซับไพรม์กำลังพัดแรงในอเมริกา ประเทศไทยแม้จะอยู่ห่างไกลหลายพันไมล์ แต่หนีไม่พ้นแรงกระเพื่อมของเศรษฐกิจทั่วโลก นักลงทุนต่างชาติที่เคยมีบทบาทสำคัญในตลาดหุ้นไทยเริ่มตัดสินใจถอนตัว ตลาดหุ้นไทยจากที่เคยคึกคักเหมือนตลาดเช้ากลับกลายเป็นเงียบเหงา การส่งออกไทยชะลอตัวลง บริษัทใหญ่หลายแห่งที่เคยมีสาขาไปทั่วโลกต้องลดพนักงาน บางแห่งถึงกับปิดกิจการเพื่อเอาตัวรอด พนักงานหลายคนต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนและความกังวลในอนาคต
บทเรียนจากพายุซับไพรม์
เหตุการณ์นี้ทำให้เรารู้ว่าความเสี่ยงนั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทใหญ่หรือคนทั่วไป ธนาคารและสถาบันการเงินในไทยต่างก็ปรับตัว พวกเขาเริ่มคำนึงถึงการประเมินสินเชื่ออย่างละเอียดมากขึ้น และพยายามสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบการเงิน เพื่อป้องกันการเกิดวิกฤตซ้ำรอย
บทเรียนกลายเป็นแรงผลักดัน
แม้เหตุการณ์ซับไพรม์จะทำให้ไทยต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างยิ่ง แต่นั่นเหมือนบทเรียนหนึ่งที่ผลักดันให้ไทยเติบโตและพัฒนาได้ ทái ได้หันมาสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจภายใน พยายามไม่พึ่งพิงตลาดต่างประเทศมากเกินไป และตระหนักถึงความสำคัญของการกระจายความเสี่ยง ทุกวันนี้เราจึงได้เห็นเศรษฐกิจที่มีโครงสร้างมั่นคงมากขึ้น และความระมัดระวังที่เพิ่มขึ้นทุกด้าน
แม้พายุซับไพรม์จะผ่านไปนานแล้ว แต่มันยังคงเป็นบทเรียนที่เตือนใจให้เราระวังและพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในโลกการเงินที่ไม่เคยหยุดนิ่ง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา