24 ต.ค. เวลา 06:28 • ปรัชญา

ปรากฏการณ์ The iCON ทำให้ย้อนคิดถึงคำสอนของหลวงพ่อชา เรื่องให้โยมปฎิบัติ คิด พูด ทำ อย่างเป็น"ธรรม"

ปฏิบัติเป็น"ธรรม" คือสร้างประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาท เพราะสรรพสิ่งมีทั้งคุณและโทษ การปฏิบัติจึงต้องรู้จัก"ประมาณผล" คือต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงในการใช้สิ่งต่างๆ ไม่ให้เกิดผลในด้านที่เป็นโทษ
ปุถุชน คนมีกิเลส มักทำประโยชน์ตนโดยมุ่งเน้นประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม ลืมทำประโยชน์ตนส่วนที่เป็นนามธรรมโดย "ให้อาหารใจ" คือ การปฏิบัติศีล สมาธิ ปัญญา
หลวงพ่อชา สอนเรื่อง กิเลส ว่า ถ้าเราตามใจกิเลสตัวเอง กิเลสมันจะเติบโต การปฏิบัติเป็น"ธรรม" ต้องฝืนกิเลสเพื่อปรับจิตใจปุถุชนคนมีกิเลสเหมือนกันกับสัตว์ ให้ใจสูงกว่าสัตว์ ยกใจให้สูงขึ้นเป็น"ใจมนุษย์ผู้มีศีล"
หลวงพ่อชา สอนเรื่อง กิเลส ว่า ถ้าเราตามใจกิเลสตัวเอง กิเลสมันจะเติบโต การปฏิบัติเป็น"ธรรม" ต้องฝืนกิเลสเพื่อปรับจิตใจปุถุชนคนมีกิเลสเหมือนกันกับสัตว์ ให้ใจสูงกว่าสัตว์ ยกใจให้สูงขึ้นเป็น"ใจมนุษย์ผู้มีศีล"
หลวงพ่อชา สอนโยม เรื่องการกินมากเกิน จะทำให้ง่วง การนอนที่มากเกินจะทำให้มึนหัว โยมต้องกินนอนให้พอดีเหมาะกับโยม โดยเริ่มจากปริมาณที่น้อยแล้วเพิ่มปริมาณขึ้นให้พอดีตัว ไม่เกิดอาการง่วง อาการมึนหัว
หลวงพ่อชา สอนวิธีปรับการกินให้น้อยแต่อิ่มว่า เมื่อรู้สึกว่าอีกสองคำจะอิ่ม ให้หยุดกิน แล้วกินน้ำจะอิ่มพอดี ไม่ให้กินเพลินไปกับกิเลสความอร่อย จนกินเกินและเกิดโทษ เพราะของทุกสิ่งแม้จะเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ามากเกินไป ก็เกิดโทษ
โยม ถามหลวงพ่อชาว่า การฝืนใจแบบนี้จะขัดกับหลักการสร้างประโยชน์ตน คือจะเป็นการเบียดเบียนตนเองหรือไม่
หลวงพ่อชา ตอบว่า ไม่ใช่การเบียดเบียนตน แต่เป็นการเบียดเบียนกิเลส ทำให้กิเลสมันผอมจนไม่มีอำนาจเหนือใจเรา
โยม ถามหลวงพ่อชาว่า การฝืนใจแบบนี้จะขัดกับหลักการสร้างประโยชน์ตน คือจะเป็นการเบียดเบียนตนเองหรือไม่ หลวงพ่อชา ตอบว่า ไม่ใช่การเบียดเบียนตน แต่เป็นการเบียดเบียนกิเลส ทำให้กิเลสมันผอมจนไม่มีอำนาจเหนือใจเรา
พุทธโอวาท สุดท้ายก่อนปรินิพพาน ทรงเตือนให้สาวก ตระหนักรู้เรื่องการใช้ชีวิต สรุปใจความได้ว่า
คนเราอยู่ในโลกอนิจจังที่เวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งเป็นธรรมดา จึงไม่อาจยึดมั่นสิ่งใด คนต้องรู้จักบริหารความเสี่ยงการใช้สิ่งต่างๆเพื่อเกี่ยวข้องเฉพาะในด้านที่เป็นคุณ เพราะสรรพสิ่งมีทั้งคุณและโทษ คนจึงต้องปฏิบัติเป็นธรรมคือสร้างประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท เถิด
พุทธโอวาท สุดท้ายก่อนปรินิพพาน ทรงเตือนให้สาวก ตระหนักรู้เรื่องการใช้ชีวิต สรุปใจความได้ว่า คนเราอยู่ในโลกอนิจจังที่เวลาเปลี่ยนแปลงทุกสิ่ง จึงไม่อาจยึดมั่นสิ่งใด คนต้องรู้จักบริหารการใช้สิ่งต่างๆในด้านที่เป็นคุณ เพราะสรรพสิ่งมีทั้งคุณและโทษ คนจึงต้องปฏิบัติเป็นธรรมคือสร้างประโยชน์ตนและประโยชน์ท่านให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท เถิด
ปรากฏการณ์ The iCON ทำให้ย้อนคิดถึงคำสอนของหลวงพ่อชา เรื่องให้โยมปฎิบัติ คิด พูด ทำ อย่างเป็น"ธรรม" ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาท "เพราะคนประมาทคือคนตายแล้ว"
ทำไม บางคนประมาท
"ไม่เชื่อว่าความถูกผิดของชีวิต มีอยู่จริง"
พิจารณา เกณฑ์วัดความถูกผิดของชีวิตว่า คืออะไร?
*ชีวิตแต่ละคน ต้องเผชิญกับการเลือก ตัดสินใจ ในความถูกต้องเหมาะสมอยู่ตลอดเวลา การตัดสินเรื่องถูกผิด เป็นสิ่งสำคัญของมนุษย์ แต่ละคนมักจะมีเกณฑ์ตัดสินตามประสบการณ์สิ่งแวดล้อมที่แต่ละคนได้รับมา
ลองพิจารณา 2 เกณฑ์ตัดสินซึ่งต่างกันแบบคนละขั้ว
ลองพิจารณา 2 เกณฑ์ตัดสินซึ่งต่างกันแบบคนละขั้ว
อิมมานูเอล ค้านท์ เชื่อว่า ความถูกผิดของชีวิต “มีอยู่จริง” เป็น “สิ่งตายตัว”และ ยั้งยืน ถือเอาเจตนาและหน้าที่เป็นเกณฑ์วัดความถูกผิดของชีวิต ความถูกผิดของชีวิตเป็น “สิ่งตายตัว” การกระทำอันหนึ่ง ถ้า “ดี” ต้องดีเสมอ ไม่เลือกเวลา สถานที่ สิ่งแวดล้อมหรือตัวบุคคล เชื่อในเจตนาที่ดี เพราะถ้าเจตนาไม่ดี แม้ให้ผลลัพท์เช่นเดียวกัน แต่จะไม่ยั้งยืน
อิมมานูเอล ค้านท์ เชื่อในการทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ เพราะการทำหน้าที่เพื่อเลี้ยงชีพ เพื่อรายได้ จะเลือกปฏิบัติ แต่การทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ จะไม่เลือกปฏิบัติ
จอห์น สจ๊วต มิลล์ เชื่อว่า ความถูกผิดของชีวิต“ไม่มีอยู่จริง” เพราะเป็นสิ่ง “ไม่แน่นอน”และ ไม่ยั้งยืน เพราะขึ้นกับผลลัพธ์ในปัจจุบันและในอนาคต ประมาณว่าหาข้อสรุปไม่ได้ เช่น เดียวกับ ทฤษฏีดีลำดับที่สองที่ให้ข้อสรุปว่า “ผลลัพธ์อาจ ดี หรือ ไม่ดี ก็ได้”
จอห์น สจ๊วต มิลล์ ใช้หลัก The Greatest Happiness Principle หมายถึงการกระทำใดที่ก่อให้เกิดประโยชน์หรือความสุขมากที่สุด แก่คนจำนวนมากที่สุด ถือเป็นการกระทำที่ดี การกระทำบางอย่างอาจก่อให้เกิดทั้งทุกข์และสุข แต่เมื่อหักลบกันแล้ว ข้างสุขมากกว่าย่อมถือเป็นการกระทำที่ถูก
สังคมใต้ระบบอุปถัมภ์
สร้างวัฒนธรรม"อยู่เป็น" ใช้แบ่งแยกเพื่อสนับสนุนคนที่เป็นพวก พร้อมกับกดทับคนที่ไม่เข้าพวก
บางคนใช้ชีวิตติด"กับดักประโยชน์จูงใจ" ที่วัฒนธรรม"อยู่เป็น"มอบประโยชน์ให้
เป็นเหตุ ทำให้เป็น "คนประมาท"
"ไม่เชื่อว่าความถูกผิดของชีวิต มีอยู่จริง"
จึงประมาทต่อ"ความอยากมี อยากเป็นด้วยกิเลส"อยากได้อะไรง่ายๆ ตามใจตัวเอง
เมื่อมีความประมาท จึงหลงเข้าไปในบ่วงกิเลสมาร
เป็นเหมือนนกที่หลงเข้าไปกินเหยื่อ
จึงติดบ่วงของนายพราน
แล้ว
นายพรานเขาจะหักปีกนก
ให้ขาดอิสรภาพ ไม่สามารถบินหนี ก็ได้
นายพรานจะหักขานก
ให้ไม่สามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ ก็ได้
ปัจจุบันโลกอยู่ในยุค Great Reset Age: 2020-2030
โลกอนิจจังเปลี่ยนแปลงเร็วและรุนแรง แสดงความเป็นอนิจจังให้เห็นอย่างชัดเจน
กรณี The iCON เกิดขึ้นในช่วงเวลาสภาวะ
วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกที่เสียหายรุนแรงด้วยผลกระทบจาก COVID-19
การทำธุรกิจต้องพึ่งออนไลน์
คนที่พยายามเอาตัวรอดและฝันที่จะรวยด้วยธุรกิจออนไลน์ จึงเข้าไปอบรมโดยหลงเชื่อตามคำโฆษณาว่า ใครๆก็ทำได้
แท้จริง
คนที่ค้าขายออนไลน์แล้วประสบความสำเร็จเป็นเพียงคนส่วนน้อย คนส่วนใหญ่ไม่ประสบความสำเร็จ
บทเรียนจากกรณี The iCON เปิดให้เห็นความจริง
1. ความถูกผิดของชีวิต มีอยู่จริง พร้อมกับ
The Second Best ไม่มีอยู่จริง
คือความดีต้องดีพร้อมด้วยกระบวนการของเหตุ ปัจจัย เงื่อนไข และเวลา เพราะถ้ากระบวนการที่ไม่ดีพร้อม แม้ให้ผลดี แต่จะไม่ยั่งยืน
หลวงพ่อชา สอนให้รู้จักทรมานกิเลส เพราะถ้าตามใจกิเลส จะเหมือนให้อาหารมัน ทำให้มันเติบโต เราต้องทรมานกิเลสให้มันผอมจนไม่มีแรง
คนเราทำอะไรต้องรู้จักประมาณ คือประมาณผลที่จะเกิดตามมา ต้องปฏิบัติให้เกิดความพอดี อย่าทำสิ่งที่จะเกิดโทษตามมา
2. ระบอบเผด็จการ สร้าง วัฒนธรรม "อยู่เป็น"
วัฒนธรรม "อยู่เป็น" ทำให้คนประมาท
ระบอบเผด็จการสร้างคนให้เป็นเหมือนหุ่นยนต์โดยใช้ระบบอุปถัมภ์แบบ "นาย-ทาส" ทำให้คนปรับตัวเกิดวัฒนธรรม"อยู่เป็น" เพื่ออยู่รอดในสังคมแห่งความกลัว
ฟรอยด์บอกว่า สิ่งที่ถูกฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึก จะแสดงออกมาเป็นการกระทำ ทำให้เกิดคำถาม Free will or Robot? ว่า คนเรามีอิสระ Free will ในการ "เลือก"ที่จะกระทำหรือไม่
วัฒนธรรม "อยู่เป็น" ทำให้คนประมาท
3. ความลึกซึ้งของ "ประโยชน์ตน โดยทรมานกิเลส" ในการปฏิบัติเป็น "ธรรม"
หลวงพ่อชา สอนเรื่อง คนต้องมีความอยาก จึงจะมีข้อปฏิบัติ และความอยากเป็นบารมีของคน แต่เป็นบารมีเฉพาะคนที่อยากด้วยปัญญา เท่านั้น
ถ้าอยากด้วยกิเลส
เช่น ติด"กับดักผลประโยชน์จูงใจ"ของวัฒนธรรม"อยู่เป็น"แล้วหวังได้เป็น นาย Boss
หลวงพ่อชา สอนว่า
"คนรู้หรือไม่รู้ธรรมนั้นเป็นที่เครื่องรับ
ว่ามีความรู้พื้นฐานรองรับธรรมหรือไม่"
โลกอนิจจังทำให้ความรู้นั้นเก่าเสมอ
การใช้ชีวิต ในยุค Great Reset:2020-2030
การจะมีความรู้พื้นฐานรองรับธรรมนั้น ไม่ง่าย เลย
แม้แต่คนที่หยิบเอาใบไม้ในกำมือของพุทธะ ได้รู้จักการปฏิบัติเป็นธรรมก็ยัง หลงทำประโยชน์ตนด้วยกิเลสได้ เพราะโลกยุค Ai นักล่าสามารถเข้าถึงมือถือ หลอกเหยื่อให้ติดกับดักได้
คนไม่ประมาท
จึง "หยุดล้อเล่นกับชีวิต" รู้จักหาความรู้ที่เป็นภูมิต้านทานเพื่อหลบหลีกหรือก้าวข้ามกับดักของชีวิต
นักอ่าน จะอ่านทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เราไม่เคยสนใจอาจมีบางสิ่งที่ทำให้เรา"ฉุกคิด"และหยุดล้อเล่นกับชีวิต
นักอ่าน จะอ่านทุกอย่าง เพราะสิ่งที่เราไม่เคยสนใจอาจมีบางสิ่งที่ทำให้เรา"ฉุกคิด"และหยุดล้อเล่นกับชีวิต
โฆษณา