Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
24 ต.ค. 2024 เวลา 10:51 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 171
หยวนเซียวที่เมืองกรุง (1) ไฉจิ้นลอบเข้าวัง
เหตุการณ์ราบรื่นจนใกล้สิ้นปี วันฟ้าเริ่มสดใสไร้หิมะ มีรายงานว่าจับกุมขบวนส่งโคมประทีปจากไหลโจว 莱州 สู่เมืองกรุงได้ห่างจากค่ายไปเจ็ดแปดลี้ ขณะนี้ให้รออยู่หน้าด่าน ซ่งเจียงสั่งให้นำเข้าด่านมาโดยไม่ต้องมัดตัว ขบวนถูกนำมายังหน้าหอ ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สองนาย ช่างทำโคมแปดเก้าคน รถห้าคัน
หัวหน้าขบวนกล่าวว่า “ผู้น้อยเป็นเจ้าหน้าที่จากเมืองไหลโจว พวกนี้เป็นช่างทำโคม ทางตงจิงให้ทางเมืองทำโคมประทีปส่งมอบตามประเพณีทุกปีจำนวนสามชุด ปีนี้ให้เพิ่มอีกสองชุด นี่เป็นโคมนพมงคลหยกวิจิตร 玉棚玲珑九华灯 (วี่เผิงหลิงหลงจิ่วหัวเติง)”
ซ่งเจียงให้เลี้ยงดูสุราอาหารแก่ขบวนช่างโคมแล้วให้นำโคมหยกวิจิตรออกมาดู ช่างประกอบโคมประทีปเป็นชั้นประกอบด้วยโคมทั้งสิ้นเก้าเก้าแปดสิบเอ็ดดวง มีความสูงจากหอธรรมภักดิ์จรดพื้น
ซ่งเจียงว่า “แต่แรกข้าว่าจะเก็บโคมประทีปไว้ทั้งหมด กลัวพวกเจ้าจะเดือดร้อน เอาเป็นว่า ข้าจะเก็บเฉพาะโคมจิ่วหัวชุดนี้ ส่วนที่เหลือพวกเจ้าก็นำไปส่งมอบตามเดิม สำหรับค่าโคมนี้ ข้าชดเชยให้ยี่สิบตำลึงเงิน”
พวกช่างโคมคารวะขอบคุณแล้วพากันลงเขาไป
ซ่งเจียงให้นำโคมประทีปไปแขวนยังหอสักการะโลกบาลเฉา พอวันรุ่งขึ้นก็กล่าวกับเหล่าหัวหน้าว่า
“ข้าถือกำเนิดเติบใหญ่ในซานตง ยังไม่เคยไปเมืองกรุงเลยสักหน ได้ยินว่าเทศกาลหยวนเซียวครานี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่ร่วมฉลองกับราษฎร เริ่มประดิษฐ์โคมประทีปกันมาตั้งแต่วันตงจื้อ 冬至 (วันเหมายัน) เพิ่งจะมาแล้วเสร็จกันช่วงนี้ ข้าคิดว่าจะพาเหล่าพี่น้องจำนวนหนึ่งไปชมประทีปกันสักเที่ยว”
อู๋ย่งค้านว่า “ไม่ได้ ตงจิงขณะนี้มีข้าราชการไปชุมนุมกันอยู่จำนวนมาก หากเกิดผิดพลาดขึ้น จะทำเช่นไร”
ซ่งเจียงว่า “กลางวันข้าก็หลบอยู่ในห้องพัก ตกกลางคืนจึงออกมาชมประทีป มีอะไรต้องกังวล”
มิไยที่เหล่าพี่น้องจะท้วงติงอย่างไร ซ่งเจียงยังคงยืนกรานที่จะไป
猛虎直临丹凤阙,杀星夜犯卧牛城。
พยัคฆ์ร้ายหมายมุ่งป้อมหงส์ชาด
ดาวเพชฌฆาตวิกาลเยือนเมืองโคนอน
ซ่งเจียงแบ่งกลุ่มพวกเดินทางชมประทีป
“ข้าและไฉจิ้นไปทางหนึ่ง สื่อจิ้นและมู่หงไปทางหนึ่ง หลู่จื้อเซินและอู่ซงไปทางหนึ่ง จูถงและหลิวถังไปทางหนึ่ง แยกกันไปสี่ทาง ส่วนพี่น้องที่เหลือให้อยู่ดูแลค่าย”
หลี่ขุยว่า “เขาว่าโคมประทีปตงจิงงามนัก ข้าก็อยากไปเที่ยวชมสักครั้ง”
ซ่งเจียงว่า “เจ้าจะไปได้อย่างไร”
หลี่ขุยเป็นตายก็ต้องดันทุรังไปให้ได้
ซ่งเจียงจึงว่า “หากเจ้าจะไป ก็ห้ามก่อเรื่อง ให้แต่งตัวเป็นผู้รับใช้ติดตามข้า” แล้วก็จำต้องเรียกเอี้ยนชิงให้ไปด้วย คอยประกบหลี่ขุยเป็นการเฉพาะ
ซ่งเจียงนั้นหน้าลายด้วยรอยสักจะเข้ากรุงได้อย่างไร
หลังจากหมอเทวดาอันเต้าเฉวียนขึ้นเขามาก็ใช้พิษกัดรอยสักออกแล้วทายารักษาเหลือเป็นปานแดง จากนั้นใช้ยาขัดวันละครั้งจนสมานเป็นปกติ
ในวันนี้ให้สื่อจิ้น มู่หงแต่งตัวเป็นคนเดินทางออกนำไปก่อน วันรุ่งขึ้นให้หลู่จื้อเซิน อู่ซงในชุดนักบวชทำทีเดินธุดงค์ไปด้วยกัน วันถัดมาให้จูถง หลิวถังเป็นพ่อค้าออกเดินทาง
ซ่งเจียง และไฉจิ้น แต่งเป็นผู้ตรวจการ ให้ไต้จงแต่งเป็นพลเดินสาส์นผู้น้อย ไว้ส่งข่าวคราวคับขัน หลี่ขุย เอี้ยนชิงเป็นผู้รับใช้หาบสัมภาระ เหล่าพี่น้องตามมาส่งที่หาดทรายทอง
อู๋ย่งกำชับหลี่ขุยว่า “ปกติเจ้าลงเขาไปก็มักก่อเรื่อง ครั้งนี้ไปเที่ยวชมประทีปกับท่านพี่ที่เมืองกรุง อย่าทำตัวเหมือนเช่นเคย ระหว่างทางอย่าดื่มเหล้า สำรวมให้จงดี หากเกิดเรื่องขึ้นอาจทำให้พี่น้องยากที่จะกลับมารวมตัวกันได้”
หลี่ขุยว่า “ท่านเสธ.อย่าได้วิตก ครั้งนี้ข้าจะไม่ก่อเรื่อง”
คณะเดินทางใช้เส้นทางผ่านจี้โจว เสิ้งโจว ตันโจว เฉาโจว จนมาถึงนอกประตูว่านโซ่ว 万寿 กรุงตงจิง จึงหาโรงแรมที่พัก
ขณะนั้นเป็นวันที่สิบเอ็ดเดือนอ้าย ซ่งเจียงหารือกับไฉจิ้นว่า
“จากพรุ่งนี้ไปยามกลางวัน ข้าคงไม่ไปไหน รอจนคืนวันที่สิบสี่ผู้คนพลุกพล่านจึงค่อยเข้าเมือง”
ไฉจิ้นว่า “พรุ่งนี้ ผู้น้องจะเข้าเมืองกับเอี้ยนชิงไปสำรวจดูลู่ทางก่อน”
วันรุ่งขึ้น ไฉจิ้นกับเอี้ยนชิง ออกจากที่พัก เห็นผู้คนพลุกพล่าน ร้านรวงคึกคัก ต่างตระเตรียมงานฉลองโคมประทีปคืนหยวนเซียว เดินกันมาถึงหน้าประตูเมือง นับเป็นกรุงไกรอันโอฬาร
州名汴水,府号开封。
逶迤接吴、楚之邦,延亘连齐、鲁之境。
山河形胜,水陆要冲。
禹画为豫州,周封为郑地。
层叠卧牛之势,按上界戊己中央;
崔嵬伏虎之形,像周天二十八宿。
金明池上三春柳,小苑城边四季花。
十万里鱼龙变化之乡,四百座军州辐辏之地。
霭霭祥云笼紫阁,融融瑞气照楼台。
เปี้ยนสุ่ยนามสถาน
ไคเฟิงขานนามเมืองเขต
ลัดเลาะอู๋ฉู่ประเทศ
เลียบเขตฉีหลู่นครา
ภูผาธาราสร้างภูมิทัศน์
วารีปัถว์คละเคล้าวัฒนา
หวี่ราชวาดวี่โจวเป็นรัฏฐา
โจวสถาปนาเป็นเจิ้งธานี
เขาสลอนซ้อนซับดังโคนอน
เคียงฟ้าอมรกลางธาตุดินอู้จี่ (戊己)
ผาศิลาพยัคฆาหมอบดูที
ดาราจักรยี่สิบแปดรอบขอบฟ้า
ซานชุนหลิ่วรายสระจินหมิงตระการ
อุทยานเสี่ยวย่วนสี่ฤดูบุปผา
แหล่งหลีฮื้อมุ่งแปลงร่างเป็นมกรา
ปลายมรรคาจากสี่ร้อยจวินโจว
เมฆมังคลาคลี่คลุมวังรองเรือง
รัศมีมลังเมลืองส่องห้องหอ
(戊己 อู้จี่ คือ ธาตุดิน ตั้งอยู่กลางล้อมด้วยธาตุไฟใต้ น้ำเหนือ ไม้ตะวันออก ทองตะวันตก
金明池 จินหมิงฉือ วนอุทยานหลวงนอกเมืองไคเฟิงอันเลื่องชื่อสมัยซ่งเหนือ
军州 จวินโจว เขตปกครองระดับเมืองในสมัยซ่ง)
ไฉจิ้น เอี้ยนชิงเข้าเมืองมาแล้วเดินชมเมืองมาตามถนนราชดำเนิน 御街 จนกระทั่งถึงหน้าประตูวังตงหัว 东华门 เห็นตามร้านเหล้าร้านน้ำชามีผู้คนแต่งชุดเทศกาลหมวกลายดอกนั่งกันคับคั่ง ไฉจิ้นนำเอี้ยนชิงเข้าภัตตาคารเล็กริมถนน ขึ้นชั้นบนหาห้องนั่งแล้วพิงระเบียงมองออกไปเห็นเหล่าทหารองครักษ์ (班直 สมัยซ่ง) เดินเข้านอกออกวัง แต่ละคนแซมช่อดอกไม้ใบหยกไว้ข้างหมวกฝูโถว 幞头 (หมวกมีปีกสองเส้นด้านข้าง) ไฉจิ้นจึงเรียกเอี้ยนชิงมากระซิบกระซาบข้างหู เอี้ยนชิงเป็นคนเชาวน์ไวไม่ต้องซักรายละเอียด รีบลงจากหอทันที
พอก้าวออกจากประตูร้าน ก็พอดีพบองครักษ์ท่าทางรู้งานเข้าผู้หนึ่ง เอี้ยนชิงจึงขานคารวะ 唱喏
คนผู้นั้นว่า “ท่านดูแปลกหน้า ข้าไม่รู้สึกคุ้นเคย”
เอี้ยนชิงว่า “เจ้านายของผู้น้อยเป็นคนรู้จักของท่านกวนฉา 观察 (นายตรวจ) ใช้ให้ผู้น้อยมาเชิญท่าน”
องครักษ์ผู้นี้แซ่หวาง 王 ซึ่งเอี้ยนชิงยังไม่รู้จึงทักว่า “ใต้เท้า 足下 คือจางกวนฉา 张观察 กระมัง”
คนผู้นั้นว่า “ข้าแซ่หวาง”
เอี้ยนชิงรีบแก้ว่า “ผู้น้อยมาเชิญท่านหวางกวนฉานั่นแหละ รีบร้อนเรียกผิดไป”
หวางกวนฉาจึงตามเอี้ยนชิงขึ้นหอมา เอี้ยนชิงเลิกม่านขึ้นแล้วบอกไฉจิ้นว่า “ท่านหวางกวนฉามาแล้ว”
เอี้ยนชิงรับไม้พิธีการ 执色 มาถือไว้ ไฉจิ้นเชิญเข้ามาแล้วทำคารวะกัน
องครักษ์หวางมองดูไฉจิ้นอยู่เป็นนานก็นึกไม่ออก “ข้าน้อยตาไม่ดี นึกอย่างไรก็ไม่ออก ขอถามนามของท่าน”
ไฉจิ้นหัวเราะแล้วว่า “ผู้น้องกับใต้เท้ารู้จักกันมาแต่เด็ก ชื่อยังไม่บอก พี่ท่านนึกดูให้ดี”
แล้วจึงสั่งสุราอาหารมา เอี้ยนชิงรินสุราให้ ดื่มกินกันไปได้ครึ่งอิ่ม ไฉจิ้นถามว่า
“ช่อดอกไม้หยกบนศีรษะกวนฉาท่าน หมายถึงอะไร”
องครักษ์หวางว่า “ฮ่องเต้รัชกาลปัจจุบันร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลหยวนเซียวกับปวงราษฎร พวกเราเหล่าองครักษ์มีทั้งสิ้นยี่สิบสี่เหล่า รวมห้าพันเจ็ดแปดร้อยคน แต่ละคนได้รับพระราชทานเสื้อคลุมหนึ่งชุด ดอกไม้หยกหนึ่งช่อประดับป้ายทองขนาดเล็กสลักอักษร “ร่วมฉลองกับทวยราษฎร์ 与民同乐” เหล่าองครักษ์เข้าเวรกันอยู่บริเวณนี้ มีเสื้อและช่อดอกไม้นี้จึงสามารถเข้านอกออกในได้”
ไฉจิ้นชวนดื่มอีกหลายจอกแล้วหันมาบอกเอี้ยนชิงว่า
“เจ้าช่วยไปอุ่นเหล้ามาอีกจอก”
เพียงชั่วครู่ เอี้ยนชิงก็นำเหล้ามาให้ ไฉจิ้นลุกขึ้นชูจอกเชิญองครักษ์หวางแล้วกล่าวว่า “ใต้เท้า 足下 ดื่มเหล้าคารวะจอกนี้จากผู้น้องแล้ว จะเรียนชื่อแซ่ให้ทราบ”
องครักษ์หวางว่า “ข้าน้อยนึกไม่ออกจริงๆ เชิญท่านแจ้งชื่อด้วย”
องครักษ์หวางดื่มเหล้ารวดเดียวหมด จากนั้นน้ำลายไหลจากมุมปาก สองขาชี้ฟ้า ล้มหงายบนม้านั่ง ไฉจิ้นรีบลอกคราบหวางกวนฉานำชุดมาผัด สวมหมวกฝูโถวทัดช่อดอกไม้หยก รับไม้พิธีการมา แล้วกำชับเอี้ยนชิงว่า
“บริกรร้านมาถาม ท่านก็บอกว่ากวนฉาเมาแล้ว ส่วนท่านขุนนางยังไม่กลับ”
เอี้ยนชิงว่า “ไม่ต้องกังวล ข้ารู้วิธีพูด”
ไฉจิ้นเข้าประตูตงหัวไปถึงลานด้านใน แลเห็นพระราชวัง
祥云笼凤阙,瑞霭罩龙楼。
琉璃瓦砌鸳鸯,龟背帘垂翡翠。
正阳门径通黄道,长朝殿端拱紫垣。
浑仪台占算星辰,待漏院班分文武。
墙涂椒粉,丝丝绿柳拂飞甍,
殿绕栏楯,簇簇紫花迎步辇。
恍疑身在蓬莱岛,仿佛神游兜率天。
เมฆศรีสวัสดิ์ปกปักหอหงสา
เมฆมังคลาพิทักษ์หอมกรา
กระเบื้องเคลือบปูยวนยางคลุมหลังคา
ลอนผ้าม่านแต่งเฝ่ยชุ่ยลอยชาย
ทวารเจิ้งหยางมรรคาเหลืองผ่านทาง
ตำหนักฉางเฉากำแพงแดงล้อมราย
หอหุนหยีสังเกตุการณ์ดาราฉาย
ลานไต้โล่วถวายบังคมแบ่งเหวินหวู่
กำแพงพริกไทยทา
คานหลังคาคล้ายหลิ่วลู่
รายล้อมตำหนักอยู่
บุปผาแดงท่าราชรถ
คลับคล้ายดังอยู่ยังเกาะเผิงไหล
ดูดุจใช่สถิตสวรรค์ดุสิตา
(เฝ่ยชุ่ย 翡翠 นกมงคลคล้ายนางแอ่น ขนสีแดงเรียกเฝ่ย ขนสีเขียวเรียกชุ่ย
兜率天 สวรรค์ชั้นดุสิต ; 兜率 (โต่วซ่วย) คำทับศัพท์สันสกฤต ดุสิต)
ไฉจิ้นเดินผ่านประตูต้องห้าม อาศัยเครื่องแต่งกายที่สวมใส่จึงไม่มีใครขัดขวาง จนกระทั่งมาถึงตำหนักจื่อเฉิน 紫宸殿 เลี้ยวมายังตำหนักเหวินเต๋อ 文德殿 มีกุญแจทองคล้องอยู่เข้าไม่ได้ จึงเลี้ยวมาทางตำหนักหนิงฮุย 凝晖殿 เลียบข้างตำหนักมาแลเห็นตำหนักเล็กหลังหนึ่งมีป้ายอักษรทองเขียนว่า “ตำหนักยุ่ยซือ 睿思殿” ใช้เป็นห้องสมุดของเหล่าขุนนาง ไฉจิ้นเข้าไปเห็นมีหนังสือและเครื่องเขียน มีบังตาวาดเป็นภาพทิวทัศน์ พอเดินอ้อมหลังบังตานี้ไป มีบังตาอีกอันเป็นสีขาวมีลายพระหัตถ์จารึกรายชื่อขุนโจรแห่งแผ่นดินทั้งสี่
山东宋江 淮西王庆 河北田虎 江南方腊
ซานตงซ่งเจียง
ไหวยซีหวางชิ่ง
เหอเป่ยเถียนหู่
เจียงหนานฟางล่า
ไฉจิ้นแอบตรองว่า “บ้านเมืองถูกพวกเราก่อกวนจนต้องจารึกชื่อเอาไว้ที่นี่”
ไฉจิ้นชักอาวุธที่ซ่อนไว้นำมาเจาะเอาชื่อ ซานตงซ่งเจียง นำมาเก็บไว้ แล้วรีบออกจากตำหนักก่อนใครจะเห็น เดินผ่านอุทยานออกประตูตงหัว กลับมาถึงภัตตาคาร องครักษ์หวางยังไม่สร่างเมา ไฉจิ้นจึงถอดชุดที่ใส่ออกนำมาวางเอาไว้ แล้วใส่ชุดเดิมของตน ให้เอี้ยนชิงตามคนมาคิดเงิน ยังมีเงินทอนเหลืออยู่สิบก้วน
ไฉจิ้นมอบเงินทอนให้บริกรแล้วบอกว่า “ข้ากับหวางกวนฉาเป็นพี่น้องกัน เขาเมาหลับ ข้าจึงผัดชุดเข้าไปลงชื่อเข้างานแทน นี่ก็ยังไม่ตื่น แต่ข้าพักอยู่นอกเมืองต้องรีบกลับก่อนประตูเมืองปิด เงินนี่ให้รางวัลเจ้า ส่วนเครื่องแบบของเขายังอยู่นี่ครบ”
บริกรว่า “นายท่านวางใจ ข้าจะดูแลเอง”
ไฉจิ้น เอี้ยนชิงจึงกลับออกจากเมืองมาทางประตูว่านโซ่ว พอถึงที่พัก ไฉจิ้นนำเรื่องที่ตนลอบเข้าวังเล่าให้ซ่งเจียงฟังแล้วนำเอาอักษร “ซานตงซ่งเจียง” สี่อักษรที่ตนเจาะเก็บไว้มาให้ดู แล้วทอดถอนใจ
ตกค่ำ องครักษ์หวางตื่นขึ้นมาเห็นชุดถอดอยู่ก็แปลกใจ บริกรจึงบอกเล่าตามคำของไฉจิ้น องครักษ์หวางจึงกลับบ้านอย่างงุนงง เช้าวันรุ่งขึ้น มีรายงานว่า มีคนเจาะชื่อ ซานตงซ่งเจียง หายไปจากตำหนักยุ่ยซือ ให้เพิ่มความเข้มงวดตรวจตราการเข้าออกทุกประตู องครักษ์หวางจึงตระหนักว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ไม่กล้าพูดอะไร
ตอนก่อนหน้า : รอยร้าววันชมเบญจมาศ
https://www.blockdit.com/posts/671633071e9f2416352405df
ตอนถัดไป : หลี่ซือซือ
https://www.blockdit.com/posts/671f6d71e7cbc6c5e37427fa
บันทึก
2
1
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย