26 ต.ค. เวลา 01:41 • สุขภาพ

สำหรับโรคท้องเสียหรือท้องร่วง

ก็คือการปล่อยให้มีอาการเรื้อรังนานเกินไปจนร่างกายมีภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ หรือมีไข้สูง ซึ่งจะทำให้เกิดภาวะช็อกได้ เพราะฉะนั้น เราจึงควรทำความเข้าใจว่า อาการแบบไหนที่เรียกว่าแค่ถ่ายท้องหรือท้องเสียธรรมดาๆ และแบบไหนที่เข้าข่ายท้องเสียหนักหรือท้องเสียผิดปกติ เพื่อนำไปสู่การดูแลรักษาที่ถูกต้องเหมาะสม
ลักษณะการขับถ่ายแบบนี้…คือ “ท้องเสียผิดปกติ”
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะแยกอาการท้องเสีย กับอาการถ่ายท้องปกติได้ไม่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม อาการท้องเสียนั้นมีจุดสังเกตหลายอย่างที่แตกต่างกัน ดังต่อไปนี้
อุจจาระมีลักษณะเหลว หรือถ่ายออกเป็นน้ำ
ถ่ายท้องต่อเนื่อง มากกว่าวันละ 3 ครั้ง
มีอาการปวดท้องเกร็งที่รุนแรงกว่าปกติ
รู้สึกอ่อนเพลีย และเหมือนมีไข้อ่อน ๆ
หากผู้ป่วยมีอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณที่บอกได้ว่า คุณกำลังเผชิญกับอาการท้องเสียชนิดเฉียบพลัน ซึ่งโดยปกติแล้วจะสามารถหายได้เองภายใน 1-2 วัน แต่หากมีอาการท้องเสียต่อเนื่องนานเกินกว่า 3-14 วัน ควรพบแพทย์ เพราะอาจมีสาเหตุของโรคอื่นที่ทำให้เกิดอาการท้องเสียเรื้อรัง เพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องตรงโรคต่อไป
การป้องกันและแนวทางรักษาอาการท้องเสีย
เราสามารถป้องกันและดูแลตัวเองจากโรคท้องเสียได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ทุกครั้ง
ล้างมือก่อนรับประทานอาหาร หรือหลังทำกิจกรรมต่างๆ ทุกครั้ง
เลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทหมัก ดอง ที่ไม่มั่นใจเรื่องคุณภาพและความสะอาด เพราะอาจมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน
เมื่อเกิดอาการท้องเสียควรดื่มน้ำ หรือดื่มน้ำผสมผงน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) เพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย
รับประทานยาบรรเทาอาการท้องเสีย (Diosmectitie) ซึ่งจะช่วยยับยั้งเชื้อ แบคทีเรีย และบรรเทาอาการท้องเสียได้
รับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ซุป เลี่ยงอาหารที่มีรสจัด ของหมักดอง และอาหารที่มีไขมันสูง
โฆษณา