12 พ.ย. เวลา 10:17 • สุขภาพ

ดูแลผู้สูงวัยยังไง ไม่ให้ร่างพัง

การดูแลผู้สูงวัยหรือผู้สูงอายุในครอบครัว ‘ไม่ใช่แค่หน้าที่’ แต่เป็นการให้ความรักและการเอาใจใส่ที่สำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้คนที่เรารักมีคุณภาพชีวิตที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
จนหลายครั้งเรามักจะเผลอละเลยสุขภาพของตัวเองโดยไม่รู้ตัว บางคนได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย ปวดหลัง ปวดแขน ปวดขา บางคนมีความเหนื่อยล้าทางใจ จากการใช้เวลาดูแลต่อเนื่องยาวนานจนไม่มีเวลาพัก
.
วันนี้โอลดีจะมาแนะนำ [ วิธีดูแลผู้สูงวัยอย่างปลอดภัย เพื่อให้ลูกหลานอย่างเรา "ร่างไม่พัง" ]
[1] รู้จักเทคนิคการดูแลที่ถูกต้อง 💪
.
ผู้สูงอายุแต่ละคนมีความสามารถในการดูแลตัวเองที่แตกต่างกัน บางคนสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มาก ผู้ดูแลก็จะเหนื่อยน้อยหน่อย แต่กลับกันผู้สูงอายุบางคนช่วยเหลือตัวเองได้น้อย ก็จะทำให้ผู้ดูแลต้องใช้แรงกายมากในการดูแลช่วยเหลือในกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ
.
วิธีการรับมือกับปัญหานี้ คือ… ผู้ดูแลต้องรู้ “วิธีการ” ดูแลที่เหมาะสมกับผู้สูงอายุแต่ละคน และรู้ “หลักการ” ในการช่วยเหลือผู้สูงอายุ
.
เช่น การพยุงผู้สูงอายุมานั่งข้างเตียง ต้องให้ผู้สูงอายุพลิกตะแคงตัวมาก่อน ห้อยขาลง และจึงพานั่ง หรือการพาผู้สูงอายุยืน ต้องให้ผู้สูงอายุมีอุปกรณ์จับที่เหมาะสม อย่างไม้เท้า หรือเก้าอี้ และให้ผู้สูงอายุโน้มตัวมาทางด้านหน้าเยอะ ๆ ก็จะช่วยทุ่นแรงในการช่วยเหลือของเราไปได้มาก
[2] สร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเหมาะสม 🏡
.
สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุกับผู้สูงอายุได้อย่างมาก เช่น…
.
การปรับพื้นให้เรียบ ไม่มีสิ่งกีดขวางบริเวณทางเดิน ที่อาจทำให้สะดุด หกล้มได้ง่าย
.
การติดตั้งราวจับในห้องน้ำหรือทางเดิน ทำให้ผู้สูงอายุลุก ยืน เดินได้สะดวกมากขึ้น
.
การมีแสงสว่างที่เพียงพอในทุกพื้นที่ทำให้มองเห็นสิ่งของและทางเดินได้ง่ายขึ้น
.
การจัดวางของใช้ให้ผู้สูงอายุสามารถหยิบจับได้ง่าย
.
เรื่องเล็ก ๆ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น และช่วยลดภาระในการเฝ้าระวังของผู้ดูแล
[3] การแบ่งเบาความเหนื่อยล้า ด้วยการดูแลเป็นทีม 👭
.
การดูแลผู้สูงอายุด้วยตัวคนเดียวอย่างต่อเนื่องไปนาน ๆ อาจทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้าหรือท้อแท้ได้ การแบ่งหน้าที่การดูแลให้กับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว หรือขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น นักกายภาพบำบัด หรือผู้ดูแลเฉพาะทาง สามารถช่วยให้เรามีเวลาพักผ่อน ใช้เวลากับตัวเองได้มากขึ้น และไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป
.
การปรับการดูแลให้เป็นทีม จะช่วยให้การดูแลมีคุณภาพและมีความต่อเนื่องมากขึ้น
[4] อย่าละเลยสุขภาพกายและใจของตัวเอง 💔
.
บางครั้งผู้ดูแลมักจะทุ่มเทดูแลผู้สูงอายุจนลืมดูแลตัวเองไปเลย
.
จริง ๆ ผู้ดูแลอย่างเราแล้วควรแบ่งเวลามาดูแลตัวเองกันบ้าง อาจจะเริ่มต้นง่าย ๆ ด้วย การออกกำลังกายเบา ๆ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ เดินเล่น หรือการฝึกหายใจลึก ๆ ก็สามารถช่วยลดความเครียดได้ดี
.
หรือถ้าพอจะจัดตารางเวลาได้ ลองทำกิจกรรมที่ช่วยให้เราผ่อนคลายมากขึ้น เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง หรือพบปะกับเพื่อนๆ บ้าง
.
เมื่อสุขภาพกายและใจของตัวเองพร้อม ก็จะสามารถดูแลคนที่รักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
[5] การทำความเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับ การเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ 🤝
.
ร่างกายของผู้สูงอายุมักจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ความสามารถในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ลดลง การปรับตัวของผู้ดูแลในการให้ความช่วยเหลืออย่างเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญมาก เช่น การช่วยเหลือในระดับที่พอดี ไม่ทำแทนทั้งหมด ให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากที่สุด เพื่อให้ผู้สูงอายุยังคงรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และภูมิใจที่ได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างด้วยตัวเอง
[6] สร้างช่วงเวลาที่มีคุณค่าและความทรงจำที่ดีร่วมกัน ⏰
.
นอกจากการดูแลในชีวิตประจำวันแล้ว การใช้เวลาคุณภาพร่วมกับคนที่รัก เช่น การพูดคุย การอ่านหนังสือให้ฟัง หรือเล่นเกมที่ช่วยกระตุ้นสมองและความจำ เป็นการสร้างความผูกพันระหว่างกัน อีกทั้งยังเป็นการบำบัดจิตใจของทั้งเราและผู้สูงอายุ
.
ช่วงเวลาเหล่านี้ยังช่วยเพิ่มพูนความสุขและลดความเครียดจากการดูแลได้อย่างมาก
การดูแลผู้สูงวัยที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่การช่วยเหลือในเรื่องของการเคลื่อนไหวหรือการจัดการสิ่งแวดล้อมให้ปลอดภัยสำหรับผู้สูงวัยเท่านั้น แต่ยังต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองของผู้ดูแลด้วย
.
การดูแลที่ดีจะต้องเป็นไปในทิศทางที่ผู้ดูแลและผู้สูงวัยสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและปลอดภัย โดยไม่ต้องเสี่ยงให้ร่างกายและสุขภาพของเราทั้งสองต้อง "พัง" 😊
"การดูแลที่ดีไม่ใช่การทำแทนทุกอย่าง แต่คือการอยู่เคียงข้างอย่างเข้าใจ และดูแลกันอย่างมีความสุข"
#โอลดีกายภาพบำบัดที่บ้าน #OLDEEhome #กายภาพบำบัด #กายภาพบำบัดที่บ้าน #ผู้สูงอายุ #ผู้ป่วย #ฟื้นฟูร่างกาย #ดูแลสุขภาพ #กายภาพบำบัดผู้สูงอายุ #ดูแลผู้สูงอายุ #กายภาพบำบัดใกล้ฉัน #stroke
โฆษณา