11 พ.ย. เวลา 10:29 • ปรัชญา
ก่อนจะฝึกปฏิบัติ ควรต้องให้แจ้งในความหมายของคำว่าภาวนาก่อนค่ะ ความหมายของภาวนา คือการอบรมจิตใจให้ตั้งมั่น หรือเป็นสมาธิ เพื่อชำระล้างความลุ่มหลงไม่รู้จริงให้หมดไป ไม่รู้จริงเรื่องอะไร? ก็คือเรื่องการเกิดดับ รู้ไปเพื่ออะไร? ก็เพื่อให้เห็นถึงการดับทุกข์ในใจนั่นเอง จนกระทั่งค่อยๆ ที่จะละคลายจากความยึดข้อง ทีละเล็กละน้อย จนกว่าคุณจะตาย (อันนี้ไม่ได้หยาบคายนะคะ แต่มันคือเรื่องจริงเพื่อให้คุณไม่ประมาทเกี่ยวกับความตาย)
ภาวนามี 2 ประเภทคือ ภาวนาในสมาธิ หรือสมถภาวนา คือการทำจิตให้เป็นสมาธิ หรือเป็นฌาน ให้อยู่ในอารมณ์เดียว และการภาวนาในปัญญา หรือวิปัสนาภาวนานั่นเองค่ะ ซึ่งวิปัสนาภาวนานี้ จะต้องต่อเนื่องสืบสายมาจากอารมณ์เดียว หรืออารมณ์ณาน ที่เกิดจากสมถภาวนานั่นแหละ
ซึ่งตามหลักคำสอนในพุทธศาสนาแล้ว ไม่ใช่ว่าให้อยู่ทื่อๆ ในอารมณ์ฌาน ซึ่งเป็นอารมณ์เดียวนั้น หรือมัวแต่หลงเพลินอยู่กับ "การปรุงแต่งว่าเห็นโน่นเห็นนี่ เห็นนรกสวรรค์" แต่ให้น้อมสังเกตใคร่ครวญ ให้เห็นถึงการเกิดดับของขันธ์ 5 แยกแยะให้ละเอียดว่า นี่คือรูป (ร่างกายนี้, แขน, ขา,หัวใจ ปอด ฯลฯ) นี่คือนาม (เบื่อ, เหนื่อย, ปวด, เมื่อย, ง่วง) แล้วที่สุด "มันก็เท่านั้นเอง"
คุณอ่านแล้วอย่าคิดว่าง่ายนะคะ
เพราะตั้งแต่เรานั่งสมาธิสมถภาวนามาหลายปี
เราเข้าถึงอารมณ์ฌาณได้เพียงครั้งเดียว
แล้วก็ดันไปหลงอยู่กับ การปรุงแต่งในสิ่งที่เห็น
ทำให้หลุดออกจากการสืบสายต่อเนื่อง
เพื่อเข้าสู่วิปัสสนาภาวนาค่ะ
โฆษณา