14 พ.ย. เวลา 02:54 • ความคิดเห็น
โลก กับ ธรรม
โลกนั่น อยู่ที่ไหน ..จิต..ทุกดวงนั่นยึดถือโลก ..โลกมายาที่เกิดขึ้นที่กาย จิตอาศัยในกาย ก็ยึดหลงเชื่อในสิ่งที่ปรุงแต่งกาย ..รับรู้อารมณ์ความรู้สึกในกาย ในกายนี้ก็มีอารมณ์ มีวิญญาณทั้งหก ที่จะดึง ..หรือ ทำให้ขันธ์ห้านั้น มีการเปลี่ยนแปลงไม่หยุดนิ่งได้เลย เค้าจึงว่า กายนี้ไม่เที่ยง ขันธ์นี้ไม่เที่ยง
แต่จิตอาศัยกายนี้ ..ก็ไม่สามารถหลุดพ้นกาย พ้นอารมณ์นึกคิดไปได้ กลับหลงเขื่ออารมณ์ในตัวตน ..อารมณ์ก็บรรยาย เอาเรื่องนั้นเรื่องนี้มายึด ..จะว่าเขียนตำราเป็นเล่มเกวียน..ก็คัดเอ้าท์อารมณ์ออกไปจากจิตจากกายไม่ได้เลย ..เพราะจิตนั้นไม่รู้ว่าจะคัดเอ้าท์ ตัดขาดอารมณ์ได้อย่างไร ตัดขาดความทุกข์ที่หลงเขื่ออารมณ์ในตัวตนไปได้ ..ส่วนผู้ที่ตัดขาดได้ ท่านก็ปฏิบัติ คัดเอ้าท์อารมณ์ เห็นอารมณ์นั่นเป็นกรรม ก็ทิ้งมันไป ทิ้งมันได้ กายก็เบา จิตก็เบา ..จึงมีคำว่า ..รู้แล้วละ จิตจะเป็นพระ ..
1
คำว่า รู้แล้วละ จิตจะเป็นพระ ..คำพูดง่ายๆ แต่ก็ใช้เวลาเป็นอสงไขย นับชาติไม่ได้เลย .เพราะรู้นั้น ..มันรู้ไม่จริง รู้ในสิ่งที่โลกเค้าหลอก ยังรู้ที่ประกอบด้วยมายา ผู้ที่ที่รู้จริง ..ท่านเข้าไปอยู่ป่า ไปทิ้งสิ่งที่หลงไหล .ในป่า ไปนั่งเป็นตุ๊กตา ..อยู่ในป่า .เมื่อกายเป็นตุ๊กตาได้ ..จิตนั้นก็นิ่ง ปราศจากอารมณ์ ..จิตนั้นก็แข็งอะไรก็ตีไม่แตก ..มายาต่างๆก็สลายหายไป กายเป็นธรรม จิตเป็นธรรม .
โฆษณา