คุ้มค่าการรอคิวเกือบ 4 ชั่วโมงกับร้านแฮมเบิร์กส่งตรงจากญี่ปุ่นอย่าง ‘Hikiniku to come’

สวัสดีค่ะ ห่างหายกันไปนาน พอดีไปเจอร้านอาหารเปิดใหม่ที่ถูกใจมากก เลยแวะเอารีวิวมาฝากทุกคนสักหน่อยค่ะ ร้านที่ว่าก็คือร้านแฮมเบิร์กส่งตรงจากญี่ปุ่นที่มา landing ในประเทศไทยสาขาแรกที่เซ็นทรัลเวิลด์ อย่างร้าน 'Hikiniku to come' นั่นเอง
1
สวัสดีเมืองไทย
เปิดแรก ๆ คนก็จะเยอะ คิวก็จะนานนิดนึง แต่ระบบการจองคิวถือว่าค่อนข้างดีนะคะ เราไปถึงร้านตอน 10 โมงครึ่งในวันธรรมดา ได้คิวรอบ 13:00 น. - 13:30 น. ซึ่งเป็นคิวสำหรับให้มาต่อแถวหน้าร้านอีกทีนึงนะ ไม่ใช่คิวเข้าร้านค่ะ
พูดง่าย ๆ ก็คือมารับบัตรคิว 10 โมงครึ่ง เพื่อได้คิวมาต่อแถวหน้าร้านตอนบ่ายโมง และต่อแถวรอหน้าร้านอีกประมาณ 1 ชั่วโมงถึงจะได้เข้าไปกินในร้าน รวมเวลาทั้งหมดเกือบ 4 ชั่วโมงพอดีค่ะ
บัตรคิว
ถึงคิวแล้วไม่ต้องคิดเยอะค่ะ เพราะร้านเค้ามีแค่เมนูเดียวให้สั่งคือเซ็ตแฮมเบิร์ก (590+THB) โดยเซ็ตแฮมเบิร์กทางร้านบังคับสั่ง 1 คน/ 1 เซ็ตนะคะ ถ้าไปหลายคนจะไม่สามารถสั่งมาแชร์กันได้
ซึ่งนอกจากเซ็ตแฮมเบิร์กแล้ว เราสั่งเครื่องเคียงเป็นกิมจิสด (50+THB) กับเครื่องดื่มเป็น Ginger Ale (90+THB) มาด้วย
เตาย่างแฮมเบิร์ก
จุดเด่นอีกอย่างของร้าน คือจะย่างแฮมเบิร์กให้เห็นกันตรงหน้าเลย น่ากินและหอมสุด ๆ
เครื่องเคียง 8 อย่าง
ใน 1 เซ็ต เราจะได้แฮมเบิร์กมา 3 ชิ้น เมื่อย่างเสร็จแล้วเค้าจะเอามาวางไว้ตรงหน้าเราทีละชิ้น และทั้ง 3 ชิ้นจะมีวิธีกินที่แตกต่างกัน โดยสามารถกินคู่กับเครื่องเคียงที่ร้านได้ ซึ่งมีเครื่องเคียงให้เลือกถึง 8 อย่าง
แฮมเบิร์กเสิร์ฟทีละชิ้น
มาเริ่มกันที่ชิ้นแรก ชิ้นนี้ร้านแนะนำให้กินแค่แฮมเบิร์กอย่างเดียว กัดคำแรกคือตาลุกวาว เนื้อเค้าย่างมาได้ดีมากกก ด้านในคือนุ่มและฉ่ำน้ำสุด ๆ
หลังจากกัดคำแรกแล้ว ให้เอาเนื้อที่เหลือไปวางไว้บนข้าว วางสักพักเพื่อให้น้ำฉ่ำ ๆ ด้านในไหลลงไปรวมกับข้าว อื้อหือ อร่อยเป็นลมค่า
แฮมเบิร์กชิ้นที่ 2
ส่วนชิ้นที่ 2 จะเสิร์ฟมาพร้อมกับซอนพอนสึและหัวไชเท้าขูด วิธีกินก็ง่ายมาก โปะหัวไชเท้าขูดลงบนเนื้อ และราดซอนพอนสึลงไป
หัวไชเท้ากับความเปรี้ยวเล็ก ๆ ของพอนสึ สามารถเพิ่มรสชาติแฮมเบิร์กได้ดี แต่ความเป็นแฮมเบิร์กยังอยู่ครบไม่โดนกลบเลย อร่อยอีกเช่นกันค่ะ
แฮมเบิร์กชิ้นที่ 3
ชิ้นสุดท้าย จะเสิร์ฟมาพร้อมไข่ดิบเกรดดี วิธีกินคือให้ตอกไข่ลงชาม และเอาเฉพาะส่วนที่เป็นไข่แดงมากินคู่กับเนื้อและข้าว ไข่แดงดิบคือเพิ่มความหอมของเนื้อให้ทวีคูณเข้าไปอีก เป็นอีกวิธีที่อร่อยสุด ๆ
ข้าวจากจังหวัดนีงาตะ
ที่ประทับใจและเราว่าเป็นพระเอกไม่แพ้แฮมเบิร์กเลยคือตัวข้าวค่ะ ทางร้านใช้ข้าวญี่ปุ่นจากจังหวัดนีงาตะ ซึ่งเป็นหนึ่งในข้าวที่หอมอร่อยที่สุดในชีวิตสำหรับเราเลย
1
โดยข้าวสามารถเติมได้ไม่อั้น และแน่นอนว่าอร่อยจนเราเติมไป 2 ชาม
กิมจิสดและ Ginger ale
ปิดท้ายด้วยรีวิวเครื่องเคียงกับเครื่องดื่มที่เราสั่งเพิ่มในตอนแรกกันบ้าง กิมจิสดคือผักกรอบมาก รสชาติก็ช่วยตัดเลี่ยนได้ดี ในส่วนของ Ginger Ale คือเป็นโฮมเมดน้ำขิงที่เข้มข้นเลย ใครที่ไม่ชอบน้ำขิงอาจจะไม่แนะนำค่า เพราะน่าจะกลบรสชาติอาหารพอสมควรค่ะ
3
สรุปคือยกให้เป็นหนึ่งในร้านที่เราชอบที่สุดในปีนี้ไปเลย ให้กลับไปรออีก 4 ชั่วโมงก็ยอม ถามเพื่อนที่เคยไปกินร้านนี้ที่ญี่ปุ่น เพื่อนบอกว่ารสชาติไม่ต่างกันและราคาก็แรงกว่ากันไม่มาก ใครมีเวลามาเลยค่ะ แนะนำสุด ๆ ค่า
ฝากกดไลก์ กดแชร์ และหากไม่อยากพลาดบทความต่อไป สามารถกดติดตามได้ที่ https://www.blockdit.com/eattention
แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ :)
โฆษณา