Blockdit Logo (Mobile)
PPTVHD36
ยืนยันแล้ว
•
15 พ.ย. เวลา 05:45 • สุขภาพ

ลอยกระทง 2567 ชวนรู้จักสารพัดประโยชน์ของ “ต้นกล้วย” ตั้งแต่ใบยันราก

ต้นกล้วย อีกหนึ่งต้นไม้ที่นิยมปลูกไว้ในบ้าน และอยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งนับว่าเป็นสัญลักษณ์ของวันลอยกระทงเลยก็ว่าได้ เผยประโยชน์และสรรพคุณตั้งแต่ใบยันราก!
เทศกาลวันลอยกระทง จัดขึ้นเป็นเป็นประจำทุกปีในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งในปีนี้ ตรบกับวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เป็นเทศกาลที่จัดขึ้นเพื่อให้ประชาชนร่วมสืบสานประเพณีที่ดีงามของไทย ซึ่งมีการรณรงค์ใช้กระทงจากธรรมชาติเพื่อลดขยะในแม่น้ำลำคลอง และสิ่งแรกที่เหมือนเป็นตัวแทนของงานลอยกระทง คือ ต้นกล้วยที่นับเป็นพืชที่อยู่คู่คนไทยมาช้านานตั้งแต่สมัยโบราณอีกทั้งยังมีประโยชน์สุขภาพอีกหลากหลาย
กล้วย
ประโยชน์ของต้นกล้วย
● ในกล้วยน้ำว้า 1 ผลเล็ก (40 กรัม) มีพลังงาน 59 กิโลแคลอรี ประกอบด้วย คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินและเกลือแร่ อุดมไปด้วยโพแทสเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ กลุ่มวิตามินบี วิตามินซี
● กล้วยดิบ มีรสฝาด แก้ท้องเสีย สมานแผลในลำไส้ และที่สามารถแก้ท้องเสียได้เนื่องจากมีสารแทนนิน กล้วยห่าม รสฝาดออกหวาน บำรุงร่างกาย กล้วยสุก รสหวาน บำรุงร่างกายทำให้สดชื่น แก้โรคท้องผูก ช่วยในการขับถ่าย
● กล้วยสุกงอม รสหวานจัด บำรุงร่างกายเพิ่มพลังงาน สาเหตุที่กล้วยสามารถช่วยในขับถ่ายได้นั้น เนื่องจากมีสารสำคัญ คือ เพคติน ซึ่งเป็นสารประกอบจำพวกคาร์โบไฮเดรตโมเลกุลใหญ่ และยังมีคุณสมบัติเป็นกากใย เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยเพคตินได้ จึงเป็นกากใยช่วยในการขับถ่าย
● หัวปลี นำมาประกอบกินเป็นเครื่องเคียงกับอาหารต่างๆ ได้ เช่น กะปิ ผัดไทย หรือจะทำเป็นเมนู ยำหัวปลี ก็ได้อีกเช่นกัน
● ก้านกล้วย นำมาฝานเป็นเส้นๆ ก็สามารถนำไปมัดของได้ หรือจะทำม้าก้านกล้วยเป็นของเล่นให้เด็กๆ ได้เล่นก็ได้อีกเช่นกัน
● ใบกล้วย ใช้ห่ออาหารและขนมต่างๆ ทั้ง ห่อหมก ข้าวต้มมัด ฯลฯ หรือประดิษฐ์ทำกระทง , บายศรี ก็ได้อีกเช่นกัน
● ลำต้นเทียมหรือกาบลำต้น สามารถนำมาทำเส้นใย ทำเชือกทอผ้า ทำอาหารให้สัตว์ แล้วก็เป็นอาหารให้กับเราได้อีกด้วย เช่น เมนูแกงหยวกกล้วย
● รากและลำต้นหรือหยวกกล้วย นำมาต้มก็ช่วยดับกระหายได้ หรือนำลำต้นมาทำสมุนไพรแผนโบราณและยังนิยมนำมาทำฐานกระทง ตกแต่งด้วยกลีบของใบตองให้สวยงามได้อีกด้วย
สำหรับยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ คือ ยากล้วยชนิดผง มีตัวยาสำคัญ ได้แก่ ผงกล้วยน้ำว้าชนิดแก่ หรือกล้วยหักมุกชนิดแก่จัด สามารถใช้รักษาแผลในกระเพาะอาหาร บรรเทาอาการท้องเสีย มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เช่น อุจจาระ ไม่เป็นมูก หรือมีเลือดปน วิธีใช้ให้รับประทานครั้งละ 10 กรัม ชงน้ำร้อน 120 - 200 มิลลิลิตร วันละ 3 ครั้ง ก่อนอาหาร สำหรับข้อควรระวังไม่ควรใช้กับผู้ที่มีอาการท้องผูกและการรับประทานยานี้ติดต่อกันนาน ๆ อาจทำให้ท้องอืดได้
ทั้งนี้หากจะใช้เพื่อการรักษาควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้ง ในปีนี้หากต้องการลอยกระทงขอความร่วมมือ งดใช้กระทงโฟม กระทงขนมปัง ปักธูปปักเทียนในกระทง เพื่อป้องกันอันตรายกับสัตว์น้ำและเพื่อการรักษ์โลก ถนอมแม่น้ำลำคลองไปด้วยกัน ขอแนะนำว่าไปเดินเที่ยวงานให้สนุกช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และกลับมาลอยออนไลน์ก็ดีเหมือนกันนะคะ ขอให้มีความสุขกับเทศกาลลอยกระทง 2567 นะคะ ^^
ขอบคุณข้อมูลจาก : กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก และ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/health/food/6116
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 : https://www.facebook.com/PPTVHD36
โฆษณา