22 พ.ย. เวลา 06:13 • ท่องเที่ยว
ฮอยอัน

มนต์เสน่ห์ฮอยอัน เมืองมรดกโลกแห่งเวียดนาม

Chapter 75/2: Charming Hoi An, Vietnam's World Heritage Town
เห็นโคมไฟสีสันสดใสสะดุดตาแบบนี้ มันจะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจากฮอยอัน (Hoi An) เมืองมรดกโลกที่ผสมผสานเรื่องราวของอดีตเข้ากับความร่วมสมัยของปัจจุบันได้เป็นอย่างดี จนเป็นเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากจะมาเยือนให้ได้ซักครั้ง
ฮอยอัน (Hoi An) หรือที่คนเวียดนามเรียกว่า "โฮยอาน" เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่บนฝั่งแม่น้ำทูโบน (Thu Bon) ใกล้กับเมืองดานัง
 
ในสมัยศตวรรษที่ 16-17 ฮอยอันเคยเป็นเมืองศูนย์กลางทางการค้ามาก่อนมีชาวต่างชาติเข้ามาค้าขายและตั้งถิ่นฐานในเมืองนี้กันเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นชาวจีน ญี่ปุ่น ดัตช์ และอินเดีย
ต่อมาปากแม่น้ำทูโบนเริ่มตื้นเขินขึ้นจนเรือเข้ามายังท่าเรือฮอยอันไม่ได้ประกอบกับแม่น้ำเปลี่ยนทิศทาง จึงมีการสร้างท่าเรือที่ดานังขึ้นมาแทนที่ ทำให้ดานังกลายเป็นเมืองท่าที่สำคัญแทนจนถึงปัจจุบัน
และถึงแม้จะมีการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอดีต แต่ฮอยอันก็ยังรักษาขนบธรรมเนียมวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบดั้งเดิมของตน
จนในปี 1999 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนเขตเมืองเก่าของฮอยอันให้เป็นมรดกโลก เพราะฮอยอันเป็นเมืองที่มีการผสมผสานศิลปะและสถาปัตยกรรมทั้งของท้องถิ่นและของต่างชาติไว้ได้อย่างมีเอกลักษณ์ รวมถึงอาคารต่างๆ ที่ได้รับการอนุรักษ์ให้อยู่ในสภาพเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี
ยิ่งได้ฟังประวัติแล้วยิ่งรู้สึกอยากมาเห็นกับตาเลยเนอะ
จากบานาฮิลล์มาฮอยอันใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงครึ่งเท่านั้นค่ะ
 
เราเริ่มกิจกรรมสนุกๆ ของวันนี้ด้วยการไปนั่งเรือกระด้งที่หมู่บ้านกั๊มทานกันก่อนค่ะ (Cam Thanh Water Coconut Village)
เรือกระด้งหรือ Basket Boat เป็นพาหนะที่คนเวียดนามใช้กันมานานแล้ว มันทำจากไม้ไผ่สานเป็นรูปทรงกลมแล้วใช้น้ำมันสนเคลือบตัวเรือทั้งลำเพื่อกันน้ำเข้า ซึ่งเวลาพายต้องใช้ความชำนาญรู้วิธีพาย ไม่อย่างนั้นจะทำให้กระด้งหมุนวนไปมาแทนที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
แล้วสงสัยมั้ยว่าทำไมคนเวียดนามเค้าถึงไม่ใช้เรือรูปร่างปกติไปเลยล่ะ พายก็ง่ายกว่าแถมน่าจะไปได้เร็วกว่าด้วย ???
เรื่องมันก็มาจากสมัยที่เวียดนามถูกปกครองโดยฝรั่งเศสซึ่งในสมัยนั้นมีการเก็บภาษีเรือ คนเวียดนามที่ต้องใช้เรือเป็นพาหนะและเครื่องมือทำมาหากินก็เลยดัดแปลงเรือให้มีรูปร่างแบบกระด้งแทนเพื่อที่จะได้ไม่ต้องเสียภาษีเรือ และเชื่อมั้ยกระด้งรูปร่างแบบนี้แต่มันมีความคล่องตัวใช้ขนถ่ายสินค้าจากเรือลำใหญ่มาสู่ชายฝั่งได้สะดวกและสามารถรับน้ำหนักได้มากเป็นตันเลยทีเดียว
และใครจะไปรู้ว่าในอนาคตต่อมาเรือกระด้งจะกลายเป็น Soft Power ทำให้หมู่บ้านนี้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่งของเวียดนามไปเลย
ใส่พร๊อพแปลงกายเป็นสาวเวียดนามแพร๊บ
เรือกระด้งที่เราจะนั่งกันบรรทุกคนได้กระด้งละ 3 คน มี 1 คนพายและ 2 คนนั่งใช้เวลาล่องเรือประมาณ 30 นาทีค่ะ
คนพายก็จะพาเราล่องไปตามแม่น้ำได้เห็นทัศนียภาพสองข้างทางของแม่น้ำที่เป็นบ้านเรือนของคนเวียดนามสลับกับวิวของป่าชายเลนดูเหมือนกับบ้านเราเลย
ล่องเรือเข้ามาในป่าชายเลนที่มีต้นจากเต็ม 2 ข้างทางเลย
ล่องไปเรื่อยๆ ก็จะมาเจอกับนี่ค่ะ
ด้งเธคสุดเร้าใจ
มันคือ…ด้งเธค !!! (เราตั้งชื่อเองนะ 😁)
เรือกระด้งทุกลำจะถูกพายมารวมกันที่นี่เพื่อชมพี่คนนี้เค้าซิ่งด้งให้ดู (นี่ต้องสกิลขั้นเทพเลยนะถึงจะประคองให้กระด้งไม่คว่ำ 😮) เค้าจะเปิดเพลงที่เป็นภาษาของนักท่องเที่ยวที่มากระจุกกันอยู่ตรงจุดนี้ เช่นก่อนหน้าเราจะเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี เค้าก็จะเปิดเพลงเกาหลีแล้วพี่คนนี้เค้าก็จะโชว์ลีลาหมุนกระด้งอย่างเมามัน พอถึงรอบพวกเราเค้าก็จะเปลี่ยนเป็นเพลงไทยแล้วก็หมุนกระด้งต่อไป เห็นละยังเวียนหัวแทน 😵‍💫 จบโชว์รับทิปไปจ้า
จากนั้นพวกเราก็จะถูกพาไปยังกลุ่มด้งถัดไปซึ่งเป็น
ด้งเกะสุดมันส์
ด้งเกะค่าาา !!! (ตั้งชื่อเองอีกละนะ)
กระด้งจะถูกต้อนไปเป็นกลุ่มๆ ไปยังซุ้มกระด้งที่พี่อีกคนนึงแกรออยู่แล้วเพื่อเอ็นเตอร์เทนนักท่องเที่ยวด้วยการร้องเพลง บางซุ้มนี่มันส์มากถึงขนาดเจ้าของภาษาต้องขึ้นไปแจมด้วย
ของเราพี่แกเปิดเพลง "ขอใจเธอแลกเบอร์โทร" และแกก็ร้องอย่างสนุกสนานมาก (นี่ต้องห้ามใจตัวเองไม่ให้ขึ้นไปแจมเลย 😂)
สกิลขั้นเทพ ร้องได้ทุกภาษาเลยมั้งเนี่ย 😆
และไม่ว่าจะร้องผิดร้องถูกแต่ก็ดูออกเลยว่าเค้าพยายามมากๆ ในการสร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะให้กับทุกคน และแน่นอนรับทิปจากนักท่องเที่ยวไปค่า
จากนั้นคนพายก็จะพาเรากลับเข้าฝั่งแล้วค่ะ สิริรวมใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมง ก็เป็นครึ่งชั่วโมงที่สนุกดีนะ ได้นั่งเรือกระด้งเปิดประสบการณ์ใหม่
จากเรือกระด้งเราก็กลับเข้าเมืองฮอยอันไปเดินเล่นที่เมืองเก่ากันค่ะ
เมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An Ancient Town)
ถนนคนเดินในเมืองเก่าฮอยอัน (Hoi An Ancient Town) เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวยอดนิยมที่ไม่ควรพลาดค่ะ
ป.ล. ที่นี่เก็บค่าเข้าคนละ 120,000 ดอง หรือประมาณ 185 บาทค่ะ
รถรับส่งนักท่องเที่ยวยังเก๋
อาคารบ้านเรือนในเมืองเก่าได้รับการอนุรักษ์ไว้ตามรูปแบบเดิมในอดีต แต่ภายในตัวอาคารอาจมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน ซึ่งตอนนี้ก็กลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร บาร์ และอินเตอร์เน็ตคาเฟ่มากมาย
Nagasaki Red Seal Ship Model
ตรงทางเข้าเมืองเก่าจะมีเรือสำเภาสีแดงลำหนึ่งตั้งอยู่ เรือลำนี้จำลองมาจากเรือที่ญี่ปุ่นใช้เพื่อเดินทางติดต่อค้าขายกับต่างประเทศเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน สร้างโดยรัฐบาลญี่ปุ่นและมอบให้กับประเทศเวียดนามเพื่อแสดงถึงความสัมพันธ์ทางการค้าที่ดีของทั้งสองเมืองระหว่างฮอยอันและนางาซากิ
ร้านขายโคมไฟสีสันสดใสที่จะเห็นได้ทั่วไปบนถนนเส้นนี้
ในเมืองเก่าจะเป็นที่รวมของร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ และร้านขายของมากมาย ซึ่งทุกร้านก็จะยังรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเวียดนามไว้อย่างดี
เดินไปไหนก็จะเจอร้านขายโคมไฟสวยๆ ให้ถ่ายรูปตลอด
นอกจากร้านค้าในนี้ก็ยังมีพิพิธภัณฑ์บ้านเก่าที่จัดแสดงวิถีความเป็นอยู่ของคนฮานอยในอดีตให้ได้ชมกันด้วย
ส่วนของหน้าบ้านและห้องรับแขก
ขึ้นมาที่ชั้นสอง มีร้านของของด้วยแฮะ
เพดานค่อนบ้านข้างเตี้ย เพราะคนเวียดนามในสมัยก่อนตัวเล็ก
อันนี้เค้าวางไม้ที่ทำเป็นช่องไว้บนพื้นชั้นสองมองลงไปเห็นชั้นล่างด้วย ไม่รู้ใช้ทำอะไร
ออกจากบ้านโบราณเดินไปอีกนิดจะเจอกับสะพานที่รู้จักกันในชื่อของ "สะพานญี่ปุ่น" ซึ่งในภาษาเวียดนามจะเรียกว่า Lai Vien Kieu แปลว่า สะพานแห่งมิตรไมตรี สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1593
สะพาน Lai Vien Kieu
ในอดีตเมืองฮอยอันถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่งได้แก่เขตชุมชนชาวเวียดนาม และเขตชุมชนชาวญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งรกรากในเวียดนาม โดยใช้สะพาน Lai Vien Kieu นี้เป็นตัวแบ่งอาณาเขต และสะพานนี้ก็เป็นอีกหนึ่ง Highlight ของเมืองฮอยอันด้วย
ด้านในของสะพานจะมีศาลเจ้าด้วย
นักท่องเที่ยวเยอะมากๆ
เดินข้ามสะพานมาอีกฝั่ง
เดินมาเจอวัดเก่าแห่งนึงสวยดี คนมาไหว้พระกันเยอะเลย
นักท่องเที่ยวทั้งนั้น 😆
สีสันสดใสที่เค้าใช้ทาและตกแต่งอาคารบ้านเรือนทำให้ถนนสายนี้ดูมีชีวิตชีวาและเก๋ขึ้นไปอีก
อากาศค่อนข้างอบอ้าว ได้น้ำอันนี้มาดื่มเย็นๆ ชื่นใจดี
น้ำอะไรไม่รู้ รสชาติคล้ายชามะนาวแต่จะออกเฝื่อนๆ หน่อย ดื่มแล้วชุ่มคอชื่นใจดี
แผงขายหนังสือนะเนี่ย สวยจัง
มีสามล้อถีบพาชมเมืองด้วย
เสียดายว่าวันนี้อากาศอบอ้าวไปหน่อย ทำให้เดินแล้วรู้สึกเหนื่อยๆ บ้าง แต่โดยรวม ได้เห็นบ้านเรือนที่ดูสวยแปลกตาแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกเพลินมากๆ
ได้เวลาพลบค่ำ สิ่งที่เราอยากทำกันอีกอย่างคือล่องเรือ (คราวนี้เป็นเรือจริงๆ นะ) ไปปล่อยโคมไฟกระดาษกันค่ะ
เรือที่เห็นเป็นร้อยๆ ลำ รอต้อนรับนักท่องเที่ยวเพื่อไปลอยโคมไฟกระดาษกันกลางแม่น้ำ เป็นบรรยากาศที่ดีมากเลย นี่ถ้ามาเป็นคู่ก็ดูโรแมนติกไปอีกแบบนะ
บรรยากาศตอนกลางคืนสวยมาก
อ่ะ…โมแรนติกกันพอละ หิวข้าว !!! ไปกินข้าวกันค่ะ
มื้อเย็นเราไปกินที่ร้าน Morning Glory ที่อยู่ริมแม่น้ำนี่เอง เป็นร้านที่สวยและค่อนข้างใหญ่เลย
Morning Glory
อาหารที่กินกันคืนนี้ก็ยังคงเป็นอาหารพื้นเมืองของเวียดนามที่มีความคล้ายอาหารไทยมาก รสชาติถือว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ
จากถนนคนเดินของเมืองเก่าฮอยอันเราก็มุ่งหน้าไปโรงแรมกัน ซึ่งคืนนี้เราจะพักกันที่โรงแรม TMS Hotel ที่อยู่ในเมืองดานังค่ะ
วิวจากโรงแรม
เป็นโรงแรมที่ดูใหม่ สะอาด ห้องใหญ่มากกกก โรงแรมอยู่ติดหาดเลยค่ะ ได้เห็นวิวทะเลด้วย (ติดหาดแบบมีถนนกั้นนะ)
Blog นี้ขอตัวไปพักผ่อนก่อน ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊 แล้วพบกันใน Blog หน้าซึ่งเราจะพาไปเที่ยวเมืองดานังเป็นที่สุดท้ายแล้วค่ะ
โฆษณา