วันนี้ เวลา 03:30 • การเมือง

สาเหตุของการรัฐประหารในซีเรีย

ประวัติศาสตร์มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายด้านทั้งในและต่างประเทศ โดยสามารถวิเคราะห์ได้ดังนี้:
1. ความขัดแย้งทางการเมืองภายใน
ความไม่มั่นคงทางการเมือง: ซีเรียเผชิญกับความไม่มั่นคงทางการเมืองตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 1946 รัฐบาลในช่วงแรกมีความอ่อนแอและไม่สามารถควบคุมกองทัพหรือสร้างความเชื่อมั่นในสังคมได้
ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนา: ซีเรียมีประชากรที่ประกอบด้วยกลุ่มชาติพันธุ์และศาสนาที่หลากหลาย เช่น ชาวอาหรับ, ชาวเคิร์ด, และชุมชนมุสลิมหลายนิกาย ความแตกแยกเหล่านี้นำไปสู่การต่อสู้เพื่ออำนาจ
บทบาทของกองทัพ: กองทัพซีเรียเป็นสถาบันที่มีอิทธิพลทางการเมืองสูง และมักถูกใช้เป็นเครื่องมือในการแย่งชิงอำนาจ
2. ปัจจัยเศรษฐกิจและสังคม
ความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจ: การกระจายทรัพยากรอย่างไม่เป็นธรรมและปัญหาความยากจนทำให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชน
การปฏิรูปที่ล้มเหลว: รัฐบาลบางยุคพยายามปฏิรูปเศรษฐกิจและสังคม แต่กลับล้มเหลวหรือถูกต่อต้านโดยกลุ่มผู้มีอำนาจ
3. แรงกดดันจากภายนอก
อิทธิพลของมหาอำนาจ: ซีเรียในช่วงสงครามเย็นกลายเป็นสนามแข่งขันของมหาอำนาจ เช่น สหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียต ที่พยายามสนับสนุนกลุ่มการเมืองหรือบุคคลที่สนองผลประโยชน์ของตน
ผลกระทบจากประเทศเพื่อนบ้าน: ความขัดแย้งกับอิสราเอล รวมถึงบทบาทของอิรัก อียิปต์ และจอร์แดน มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในซีเรีย
4. ความทะเยอทะยานของผู้นำ
การแย่งชิงอำนาจในหมู่ผู้นำ: ผู้นำหลายคนในซีเรียมีความทะเยอทะยานในการครองอำนาจ ซึ่งนำไปสู่การใช้กองทัพหรือกลุ่มสนับสนุนในการทำรัฐประหาร
ตัวอย่างการรัฐประหารที่สำคัญ:
1. รัฐประหารปี 1949: การรัฐประหารครั้งแรกในซีเรียที่นำโดยนายพลฮุสนี อัล-ซาอีม เกิดจากความไม่พอใจต่อรัฐบาลพลเรือน
2. รัฐประหารปี 1963: นำโดยพรรคบาธ (Ba'ath Party) ที่พยายามเปลี่ยนแปลงประเทศตามอุดมการณ์ชาตินิยมอาหรับและสังคมนิยม
3. รัฐประหารปี 1970: พลเอกฮาเฟซ อัล-อัสซาด (Hafez al-Assad) เข้ายึดอำนาจและปกครองประเทศในลักษณะเผด็จการ
สรุป
การรัฐประหารในซีเรียมักเกิดจากปัจจัยภายในที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงแรงกดดันจากมหาอำนาจและความทะเยอทะยานส่วนบุคคล ทั้งนี้ การรัฐประหารเหล่านี้สะท้อนถึงโครงสร้างทางการเมืองที่ไม่มั่นคงของซีเรียในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา.
โฆษณา