7 ชั่วโมงที่แล้ว • ความคิดเห็น

“สติ” เป็นสิ่งสำคัญ

ไม่กี่วันก่อน...ผมดูละครย้อนหลัง “รักฉุดใจนายฉุกเฉิน : My Ambulance” ละครแนว Romantic fantasy ออกอากาศปลายปี 2562 (2019) นอกจากปาฏิหาริย์และมุกตลกแล้ว ยังได้เห็นชีวิตและการทำงานของคณะแพทย์ในห้องฉุกเฉิน ER (Emergency Room) ที่สอดแทรกอยู่ภายในเนื้อเรื่องอีกด้วย
แต่...คิดไม่ถึงว่า อีกไม่กี่วันถัดมา ผมจะได้เข้ามาใช้บริการ #ห้องฉุกเฉิน จริงๆ
หากใครมีผู้สูงอายุอยู่ในความดูแล คุณอาจต้องเตรียมตัวไว้นะครับ ค่ำวันหนึ่งแม่ผมเกิดอาหารมึนหัว (แกบอก “บ้านหมุน”) หลังตรวจวัดระดับความดัน ปรากฏว่าความดันขึ้นสูงกว่า 200 ถือเป็นระดับที่รุนแรง (ความดันปกติของ #ผู้สูงอายุ เกิน 65 ปีขึ้นไป ไม่ควรเกิน 160/90 มิลลิเมตรปรอท)
เป้าหมายคือแผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งแม่มีประวัติคนไข้อยู่ (แม่เป็นคนไข้ประจำของ รพ. แห่งนี้ ปกติจะมีใบนัดหมอประจำทุกๆ 3 เดือน และได้ยามากินตลอด) สิ่งสำคัญก่อนออกจากบ้านคือ เตรียมเอกสารที่จำเป็นและบัตรประชาชนของผู้ป่วยให้พร้อม พกสตางค์ติดตัวไปพอสมควร เนื่องจากเป็นเวลานอกเวลาราชการ สิทธิบัตรทองจึงไม่ถูกใช้ เพราะต้องมีใบส่งตัว
หลังจอดรถหน้าแผนกฉุกเฉิน ผมช่วยพยุงแขนพาแกเดิน เพราะกลัวจะล้ม บุรุษพยาบาลเข็นเตียงคนไข้มารับ ผมช่วยพยุงแม่ขึ้นไปนอนบนเตียง แต่...สิ่งที่พบเห็นภายในแผนกฉุกเฉิน กลับมีผู้ป่วยกว่า 20 ชีวิต รอคิวอยู่ก่อนหน้าเราแล้ว (ส่วนใหญ่เป็นคนชรา เด็กๆ พอมีบ้างแต่น้อย) จากนั้นผมตรงไปที่เคาน์เตอร์ ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ทำบัตรคิว
รออยู่ราวชั่วโมงเศษ ถึงได้คิวเรียกไปตรวจประวัติ วัดความดัน หลังจากนั้นเตียงแม่จึงถูกเข็นเข้าไปยังห้องฉุกเฉิน หมอตรวจดูอาการแล้วเอาใบสั่งยาให้ผม ให้ไปซื้อยาที่แผนกยา รอคิวสักพักผมได้ยามา จึงเอาไปให้หมอในห้องฉุกเฉินอีกรอบ หมอแกะห่อยาที่รับจากผม เตรียมฉีดยาให้แม่ แล้วแจ้งให้ญาติออกไปรอข้างนอกก่อน หลังออกมารอนอกห้องฉุกเฉิน ผมไม่รู้ว่า...ต้องดำเนินการอะไรต่อ จึงสอบถามที่เคาน์เตอร์ตรวจประวัติคนไข้ พยาบาลแจ้งให้ผมหาที่นั่ง เพื่อรอประกาศเรียกชื่อออกไมค์ตามคิวต่อไป
หากไม่นับผู้ป่วยที่กำลังรอคิวตรวจ (มีทั้งนั่งรถเข็น และนอนอยู่บนเตียง) เฉพาะญาติๆ ที่กำลังนั่งรอคนไข้แบบผม คะเนจากสายตาน่าจะเกิน 60 คนได้ ระหว่างนั้น...ยังมีผู้ป่วยทยอยมาที่แผนกฉุกเฉินอีกเป็นระยะๆ
ผมเห็นรถกู้ภัยคันหนึ่งจอดเทียบหน้าประตูทางเข้าแผนกฉุกเฉิน ผู้บาดเจ็บเป็นชายวัยกลางคนผิวเข้ม เนื้อตัวมอมแมมมีรอยเลือดเปรอะเปื้อนเต็มเสื้อ กำลังก้าวเท้าออกจากรถกู้ภัย บุรุษพยาบาลจัดรถเข็นให้ผู้บาดเจ็บนั่ง แล้วเข็นมารอคิวตรวจ ดูสภาพคงบาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน แต่...กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้นมาดี มีรอยทำแผลบนหัวที่แตก กับผ้าก๊อซปิดบาดแผลสด ที่เกิดตามแขนตามขาหลายจุด
คืนนั้นระหว่างรอแม่ออกจากห้องฉุกเฉิน ผมเห็นรถกู้ภัยมาส่งผู้บาดเจ็บเพียงคันเดียว คิดว่า...ดีแล้ว ที่จะไม่ได้เห็นภาพอะไรๆ ที่น่ากลัวไปกว่านั้น
เวลานั้นผมยังไม่รู้ว่า...แม่ต้อง Admit เป็นผู้ป่วยใน หรือหมอให้กลับบ้านได้ หลังรออีกครู่ใหญ่ ก็ถึงคิวเรียกชื่อแม่ของผม ผมจึงได้เข้าไปในห้องฉุกเฉินอีกครั้ง พบกับคุณหมอสาวคนเดิม (เท่าที่สังเกตวันนั้น ดูจะมีแต่คุณหมอหนุ่มสาว กำลังตรวจคนไข้วุ่นอยู่ ผมคิดเอาเองว่าอาจเป็นหมอจบใหม่ ที่ทำงานใช้ทุนกระมัง) คุณหมอแจ้งว่า...อาการคนไข้ดีขึ้นหลังฉีดยา และให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้
คุณหมอย้ำว่า ต่อไปให้คุณยายลุกนั่งช้าๆ อย่าลุกพรวดพราด แล้วให้งดกินอาหารรสเค็ม (อืม...ของโปรดแม่ผมซะด้วย) แล้วยังเตือนว่า...อย่าลืมโทรแจ้งหมอประจำ เพื่อขอเลื่อนนัดให้เร็วขึ้น เพื่อจะได้วินิจฉัยใหม่ แล้วปรับยาให้ตรงกับอาการในครั้งต่อไป
เบ็ดเสร็จตั้งแต่ไปถึงแผนกฉุกเฉิน รอคิวตรวจ จนกลับบ้านได้ ใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง กลับถึงบ้านกว่าจะได้นอนก็ใกล้ตีหนึ่ง ถือเป็นประสบการณ์ตรงครั้งแรกที่พาแม่ไปห้องฉุกเฉิน
แต่ใช่ว่า...ผมจะไม่เคยใช้บริการห้องฉุกเฉินเลยนะครับ มีครั้งหนึ่งนานหลายปีแล้ว ผมเกิดอุบัติเหตุสะดุดล้มจนหัวฟาดกับขอบบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้า BTS ใกล้แยกมาบุญครอง (สี่แยกปทุมวัน) ผลคือหน้าผากเหนือคิ้วข้างซ้ายแตก จนเลือดสดๆ ไหลอาบเปรอะเปื้อนเต็มหน้าลามลงมาจนถึงอกเสื้อ แต่ผมยังมีสติดี พาตัวเองขึ้น taxi ไปแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งใกล้ที่สุดในบริเวณนั้น เรื่องของเรื่องคือเคยพาตัวเองไป แต่ยังไม่เคยพาคนอื่นไปนี่แหละครับ
อยากฝากว่า #สติ เป็นสิ่งสำคัญในทุกสถานการณ์ พอทราบว่าแม่เกิดอาการความดันสูงกะทันหัน ผมยอมรับว่าเกิดอาการ “รน” และรีบ...จนลืมคล้องกุญแจบ้าน
ถึงแม้โรงพยาบาลจะเป็นที่พึ่งสำคัญยามเจ็บป่วย แต่เชื่อว่า...คงไม่มีใครชอบไปโรงพยาบาลกันหรอกนะครับ ปกติทุกคนต่างรู้ดีว่า “ชีวิตคนเราทั้งยาก และไม่ยืนยาวอย่างที่คิด” เผลอแผล็บเดียวความตายอาจมาจ่อ...รออยู่ตรงหน้าก็ได้
ใครมีประสบการณ์ตรงเกี่ยวกับห้องฉุกเฉิน แชร์กันได้ครับ
จิด.ตระ.ธานี: #เล่าสู่กันฟังนะครับ
#Jitdrathanee

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา