เมื่อวาน เวลา 15:03 • ความคิดเห็น
เวลาที่เราได้ยินเสียงคนตีกัน ทะเลาะ ..มันไปอารมณ์ของคนโกรธโมโห .บางทีก็ทำให้..เหมือนว่า จิตเราไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ก็ไปรับคลื่น ..คลื่นของอารมณ์ ที่เค้าโกรธโมโห .เข้าา ที่ว่า ตากระทบรูป หูได้ยินเสียง ก็ส่องเป็นคลื่นให้สมอง สมองส่งเป็นคลื่นลงไปที่จิต จิตส่งต่อให้ธาตุทั้งสี่ ..ธาตุทั้งสี่ก็ปลดปล่อยอารมณ์นั้นกลับมา ขึ้นไปที่จิต ส่งต่อไปที่สมิง เป็นอารมณ์
..คราวนี้มันมีสิ่งหนึ่ง ที่เก็บสะสมมา ..เวลาเห็นคนตีกัน ทะเลาะกัน ..มันเกิดอารมณ์ไม่ชอบใจ อารมณ์กวดวิตก ..อารมณ์กลัว ว่าอย่างนั้น จะเป็นอย่างนี้อย่างนั้น ..มันเกิดขึ้น อารมณ์ที่..ต่างๆที่เกิดขึ้น .มันก็ทำให้ลมหายใจเราไม่ปกติ ..เส้นเลือดก็บีบรัด ..เลือดลมนั้นก็เป็นสีดำ .. กายมันก็เหมือนเกร็งขึ้นมา จิตเรามันที่อาศัยอยู่ในกาย มันก็เหมือนถูกอารมณ์นั้นบีบรัด รับทุกขเวทนาของกายที่อารมณ์มันเกิดขึ้น .
เรื่องลมหายใจ ที่ว่า มีลมเข้าลมออก ..เช่น อารมณ์ไม่ชอบใจ เกิดขึ้น..ลมที่เจ้าที่ออก มันก็เป็นอารมณ์ไม่ชอบใจ อารมณ์โกรธเกิดขึ้น ลมหายใจเข้าออกก็เป็นอารมณ์โกรธ ..สติของเราก็ตามอารมณ์โกรธ พูดจาก็ด้วยอารมณ์โกรธ .. นั่นก็คือ อารมณ์อะไร ก็แล้วแต่ มันเกิดขึ้น มันก็คลุมทั้งกาย ทั้งลมหายใจ ทั้งสมอง..ก็นึดคิดไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น
บางคนพอมีอารมณ์ไม่ชอบใจ..ไม่พอใจ ชอบโมโหย่อยๆ ..มันก็มีพิษของอารมณ์เกิดขึ้น แพนิคปวดหัว เวียนหัว มึนงง เบลอ อ่อนเรียวแรง ..แต่ละคน ก็แสดงอาการที่กายไม่เหมือนกัน คล้ายว่า สะสมกรรมมาไม่เหมือนกัน
เรื่องลมหายใจ คนที่เค้า ฝึกสติ..ดูลมหานใจเข้าออก เค้าก็ปรับจิตมาอยู่ที่สมหายใจ ..เอาจิตมาอยู่กับพระ ไม่นึกคิดอะไร ภาวนาพุทโธขึ้น ..เพื่อไม่ไห้จิตไปยึดอารมณ์ ..สติก็อยู่ที่ลมหายใจ ปรับอารมณ์นั้นมาอยู่กับพระ ไม่นึกคิดอะไรทั้งนั้น แต่นั้นแหละ จิตเราไม่มีความขันติ ที่อยู่นิ่งๆ กายก็นิ่ง จิตนิ่ง ไม่มีอารมณ์..หรือ ว่า ไม่ไปยึดอารมณ์ที่เกิดขึ้น ..อารมณ์มันมา ..เดี๋ยวมันก็ผ่านไป
โฆษณา