29 ม.ค. เวลา 08:35 • ข่าวรอบโลก

คดีอื้อฉาววงการแพทย์ 2017: ฝันร้ายโอปิออยด์แห่งอเมริกา

ตอนที่ 3: ผลกระทบและเสียงสะท้อนจากสังคม
บทนำ: แผลเป็นที่หลงเหลือจากวิกฤตโอปิออยด์
การเปิดโปงเครือข่ายฉ้อโกงทางการแพทย์และบริษัทยาในปี 2017 นำไปสู่ ความสูญเสียมหาศาลทางสังคมและเศรษฐกิจ ผู้ติดยาโอปิออยด์จำนวนมากเผชิญกับปัญหาสุขภาพเรื้อรัง ครอบครัวของพวกเขาต้องรับภาระหนัก และรัฐบาลต้องลงทุนอย่างมหาศาลเพื่อจัดการกับผลกระทบของวิกฤตนี้
กราฟแสดงแนวโน้มอัตราการเสียชีวิตจากการใช้โอปิออยด์เกินขนาดในสหรัฐฯ (2000-2017) ที่เกี่ยวข้องกับโอปิออยด์ประเภทต่างๆ โดย โอปิออยด์สังเคราะห์ (เช่น เฟนทานิล) มีอัตราเพิ่มขึ้นสูงสุดหลังปี 2013 ขณะที่ เฮโรอีน และโอปิออยด์ที่สั่งจ่ายโดยแพทย์ ก็มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ผลกระทบต่อผู้ป่วยและครอบครัว
การใช้โอปิออยด์โดยไม่มีการควบคุมส่งผลให้มีผู้ติดยาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว บางรายเริ่มต้นจากการใช้ยาตามใบสั่งแพทย์ ก่อนจะพัฒนาไปสู่การใช้เฮโรอีนหรือเฟนทานิล ผู้ป่วยจำนวนมากเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด ขณะที่ครอบครัวของพวกเขาต้องเผชิญกับความสูญเสียอย่างหนัก นอกจากนี้ การติดยาในชุมชนยังทำให้เกิด อาชญากรรมและปัญหาทางสังคมเพิ่มขึ้น
สมาชิกครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากโอปิออยด์รวมตัวกันด้านนอกศาลสูงสุด ในระหว่างการประท้วงที่กรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2023
ผลกระทบทางเศรษฐกิจและต้นทุนทางสังคม
สหรัฐฯ สูญเสียเม็ดเงินหลายพันล้านดอลลาร์จากวิกฤตโอปิออยด์ ทั้งในแง่ของค่ารักษาพยาบาล, ค่าใช้จ่ายในกระบวนการยุติธรรม และการสูญเสียแรงงาน รายงานจาก CDC ระบุว่า ในปี 2017 เพียงปีเดียว วิกฤตโอปิออยด์มีต้นทุนทางเศรษฐกิจสูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่เมืองต่างๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมากในการช่วยเหลือผู้ติดยาและปราบปรามการค้ายาผิดกฎหมาย
กราฟแสดงค่าใช้จ่ายจากปัญหาการใช้โอปิออยด์และการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด โดยในปี 2020 ค่าใช้จ่ายพุ่งสูงถึง 1.47 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 400,000 ล้านดอลลาร์ จากปี 2017 ซึ่งสะท้อนถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจที่รุนแรงของวิกฤตโอปิออยด์ในสหรัฐฯ
การเปลี่ยนแปลงในนโยบายภาครัฐ
หลังจากการเปิดโปงคดีนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ เริ่มออกมาตรการควบคุมยาโอปิออยด์ที่เข้มงวดขึ้น มีการกำหนดให้แพทย์ต้องผ่านการฝึกอบรมเกี่ยวกับการใช้โอปิออยด์อย่างถูกต้อง รัฐบาลยังได้ให้ทุนสนับสนุนโครงการบำบัดผู้ติดยา และเร่งพัฒนายาต้านโอปิออยด์ เช่น นาโลโซน (Naloxone) เพื่อลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด
แสดงประเภทของยาที่ใช้ในการบำบัดโอปิออยด์ ได้แก่ Methadone, Naltrexone, Buprenorphine เพื่อลดอาการอยากยา, Lofexidine สำหรับบรรเทาอาการถอนยา และ Naloxone, Nalmefene สำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อแก้พิษจากการใช้ยาเกินขนาด
ความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยา
หลังจากบริษัทยาหลายแห่งถูกฟ้องร้อง บริษัทผู้ผลิตยาเริ่มปรับเปลี่ยนนโยบายและการตลาดของตน บริษัทยาหลายแห่งตกลงจ่ายเงินชดเชยหลายพันล้านดอลลาร์ และต้องปรับปรุงกระบวนการตรวจสอบการสั่งจ่ายยาให้เข้มงวดขึ้น นอกจากนี้ องค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ได้กำหนดมาตรฐานใหม่ในการควบคุมยากลุ่มโอปิออยด์เพื่อป้องกันการระบาดอีกครั้ง
สำนักงาน FDA ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์ของสหรัฐฯ มีบทบาทสำคัญในการควบคุมยา อาหาร และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ รวมถึงการออกมาตรการเกี่ยวกับโอปิออยด์
สังคมและการตระหนักรู้เกี่ยวกับโอปิออยด์
คดีนี้ทำให้สังคมอเมริกันตื่นตัวเกี่ยวกับอันตรายของโอปิออยด์ มีการรณรงค์เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบของยา และเพิ่มการสนับสนุนให้กับครอบครัวของผู้ที่ได้รับผลกระทบ องค์กรไม่แสวงหากำไรและกลุ่มผู้รอดชีวิตจากการติดยาเริ่มทำงานร่วมกับภาครัฐ เพื่อช่วยสร้างมาตรการป้องกันและบำบัดผู้ติดยาอย่างมีประสิทธิภาพ
โปสเตอร์รณรงค์ลดอันตรายจากการใช้ยาเกินขนาด ระบุว่า ทุกๆ 5.5 นาที มีผู้เสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด และทุกการสูญเสียสามารถป้องกันได้ ส่งเสริมให้มีการเข้าถึง นาโลโซน (Naloxone), การรักษาด้วยเมทาโดน (Methadone) และบูพรีนอร์ฟีน (Buprenorphine) เพื่อช่วยชีวิต
ติดตามในตอนต่อไป ที่จะพาคุณไปสำรวจว่าประเทศต่างๆ มีมาตรการอย่างไรในการควบคุมโอปิออยด์และป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดนี้
📚 References
ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวิกฤตโอปิออยด์:
บทความนี้ให้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับวิกฤตโอปิออยด์ในสหรัฐฯ รวมถึงสถิติการเสียชีวิตและการใช้ยาเกินขนาด
การลดลงของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในปี 2023:
รายงานนี้กล่าวถึงการลดลงของการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดในปี 2023 และความกังวลเกี่ยวกับนโยบายในอนาคต
การตอบสนองของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อวิกฤตโอปิออยด์:
บทความนี้วิจารณ์การขาดการพูดถึงวิกฤตโอปิออยด์อย่างจริงจังจากผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี
การฟ้องร้อง Purdue Pharma เกี่ยวกับการตลาด OxyContin:
บทความนี้กล่าวถึงการฟ้องร้องบริษัท Purdue Pharma โดยรัฐต่างๆ ในสหรัฐฯ เกี่ยวกับการตลาดที่ทำให้เข้าใจผิดของยา OxyContin
การตอบสนองของรัฐบาลต่อวิกฤตโอปิออยด์:
บทความนี้กล่าวถึงการตอบสนองของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อวิกฤตโอปิออยด์ รวมถึงการประกาศภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข
โฆษณา