29 ม.ค. เวลา 10:50 • ข่าวรอบโลก

คดีอื้อฉาววงการแพทย์ 2017: ฝันร้ายโอปิออยด์แห่งอเมริกา

ตอนที่ 4: เครือข่ายความร่วมมือระดับโลกในการต่อสู้กับโอปิออยด์
บทนำ: การแพร่ระบาดของโอปิออยด์ในระดับสากล
แม้ว่าวิกฤตโอปิออยด์จะเป็นปัญหาร้ายแรงในสหรัฐอเมริกา แต่ผลกระทบของมันได้แผ่ขยายไปยังหลายประเทศทั่วโลก การลักลอบผลิตและค้าขายโอปิออยด์ผิดกฎหมาย การใช้โอปิออยด์ในทางที่ผิด และการพึ่งพาเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ ทำให้วิกฤตนี้เป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องการความร่วมมือจากหลายฝ่าย
แสดงจำนวนผู้เสียชีวิตจากการใช้โอปิออยด์ผิดกฎหมายในปี 2019 โดย สหรัฐฯ มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากกว่าประเทศอื่นๆ รวมกัน จุดวงกลมขนาดใหญ่แสดงถึงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด
การค้าขายและลักลอบนำเข้าโอปิออยด์ผิดกฎหมาย
ตลาดมืดของยาโอปิออยด์เติบโตขึ้นจากการลักลอบผลิตใน จีน เม็กซิโก และแคนาดา ซึ่งเป็นแหล่งผลิตสารตั้งต้นของเฟนทานิล (Fentanyl) หนึ่งในโอปิออยด์สังเคราะห์ที่มีฤทธิ์แรงที่สุด หน่วยงานศุลกากรของสหรัฐฯ พบว่าเฟนทานิลจำนวนมากถูกลักลอบนำเข้าทางพัสดุไปรษณีย์หรือซ่อนมาในสินค้าส่งออกจากจีนและเม็กซิโก ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจสอบและสกัดกั้น
เส้นทางการลักลอบนำเข้าเฟนทานิลสู่สหรัฐฯ ปี 2019 แสดงแหล่งที่มาหลักของเฟนทานิลจาก จีน อินเดีย และเม็กซิโก ที่ถูกลักลอบส่งเข้า สหรัฐฯ และแคนาดา ผ่าน ไปรษณีย์ การขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย และการลำเลียงข้ามพรมแดนทางใต้ โดยมักถูกนำไปผสมกับเฮโรอีนหรืออัดเป็นยาเม็ดปลอมเพื่อจำหน่ายในตลาดมืด
ความร่วมมือระหว่างประเทศในการปราบปรามยาเสพติด
รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ร่วมมือกับ จีน เม็กซิโก แคนาดา และสหภาพยุโรป เพื่อควบคุมการผลิตและส่งออกเฟนทานิล รวมถึงเพิ่มมาตรการตรวจสอบทางศุลกากร นอกจากนี้ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย เช่น DEA (Drug Enforcement Administration) ของสหรัฐฯ และ INTERPOL ได้ทำงานร่วมกับตำรวจนานาชาติเพื่อปิดเครือข่ายค้ายาผิดกฎหมายที่ดำเนินการผ่าน Dark Web และตลาดออนไลน์เถื่อน
เจ้าหน้าที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ แถลงข่าว Operation DisrupTor ปฏิบัติการระดับนานาชาติที่นำไปสู่การจับกุม 170 ราย และยึด ยาเสพติด อาวุธ และเงินสดกว่า 6.5 ล้านดอลลาร์ เพื่อต่อต้านเครือข่ายค้ายาโอปิออยด์บน Darknet
มาตรการขององค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ
องค์การอนามัยโลก (WHO) และสำนักงานป้องกันยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) ได้ออกแนวทางปฏิบัติสำหรับประเทศสมาชิกในการ ควบคุมการสั่งจ่ายยาโอปิออยด์และการจัดการกับยาเสพติดผิดกฎหมาย โดยมุ่งเน้นที่การ เพิ่มความโปร่งใสในการผลิตยา ลดการสั่งจ่ายที่เกินความจำเป็น และให้การบำบัดแก่ผู้ที่ติดยา
การประชุมเปิดตัวปฏิบัติการ CRIMJUST Operation Azure ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ ยุทธศาสตร์ต่อต้านโอปิออยด์ของ UNODC มุ่งเน้นการ คาดการณ์ ป้องกัน และปกป้อง เพื่อลดการลักลอบค้ายาโอปิออยด์ในละตินอเมริกา แคริบเบียน และแอฟริกา
การพัฒนาแนวทางการรักษาและบำบัดในระดับโลก
หลายประเทศได้นำแนวทางของสหรัฐฯ ไปใช้ในการบำบัดผู้ติดโอปิออยด์ เช่น การใช้ยาเมทาโดน (Methadone) และบูพรีนอร์ฟีน (Buprenorphine) เพื่อลดอาการถอนยา และโครงการแลกเปลี่ยนเข็มฉีดยาเพื่อลดการแพร่กระจายของโรคติดต่อ ในสหราชอาณาจักรและแคนาดา ยังมีการเปิด ศูนย์ฉีดยาปลอดภัย (Supervised Injection Sites) เพื่อให้ผู้เสพสามารถใช้ยาได้อย่างปลอดภัยและได้รับคำแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์
ศูนย์ฉีดยาปลอดภัยแห่งแรกของแคนาดา ดำเนินงานมา 20 ปี โดยมีบทบาทสำคัญในการ ลดอัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาด และให้การดูแลทางการแพทย์แก่ผู้ติดยาเสพติดในชุมชน
อนาคตของการต่อสู้กับโอปิออยด์ในระดับโลก
แม้จะมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้น แต่ปัญหาโอปิออยด์ยังคงเป็นภัยคุกคามต่อสาธารณสุขในหลายประเทศ ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ อุตสาหกรรมยา และองค์กรด้านสาธารณสุขมีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดผลกระทบของโอปิออยด์ ในอนาคต อาจมีการพัฒนาแนวทางการรักษาใหม่ๆ เทคโนโลยีการติดตามและควบคุมการสั่งจ่ายยา และกฎหมายที่เข้มงวดขึ้นเพื่อลดการแพร่ระบาดของโอปิออยด์ทั่วโลก
อุปกรณ์ฉีดสารแก้พิษอัตโนมัติ (A2D2) สำหรับภาวะโอปิออยด์โอเวอร์โดส ซึ่งตรวจจับอัตราการหายใจด้วย เซ็นเซอร์ ECG แบบสวมใส่ เพื่อเฝ้าระวังภาวะโอเวอร์โดส เมื่อมีสัญญาณผิดปกติ แคปซูลฉีดยาใต้ผิวหนัง จะถูกกระตุ้นโดย การให้ความร้อนแบบเหนี่ยวนำ ทำให้ปล่อยสารแก้พิษโดยอัตโนมัติ
ติดตามในตอนต่อไป ที่จะเปิดเผยบทบาทของภาคอุตสาหกรรมและบุคลากรทางการแพทย์ในการแก้ไขปัญหานี้
📚 References
การตอบสนองต่อวิกฤตโอปิออยด์:
สหประชาชาติเปิดตัวกลยุทธ์โอปิออยด์ในปี 2018 เพื่อสนับสนุนประเทศต่างๆ ในการจัดการกับวิกฤตนี้
การต่อสู้กับวิกฤตโอปิออยด์: การใช้ประโยชน์จากความร่วมมือระหว่างประเทศ
การพิจารณาของวุฒิสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างประเทศและความพยายามของ DEA ในการต่อสู้กับวิกฤตโอปิออยด์
การต่อสู้กับวิกฤตโอปิออยด์:
หน่วยงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ (ICE) เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือกับพันธมิตรระหว่างประเทศในการควบคุมการไหลเข้าของโอปิออยด์
การฟอกเงินจากเฟนทานิลและโอปิออยด์สังเคราะห์:
กลุ่มอาชญากรรมที่จัดตั้งขึ้นกำลังส่งเสริมวิกฤตโอปิออยด์สังเคราะห์ ซึ่งนำไปสู่การเสียชีวิตจากการใช้ยาเกินขนาดหลายแสนรายในทศวรรษที่ผ่านมา
ปฏิบัติการ DisrupTor:
การสืบสวนระดับนานาชาติที่มุ่งเป้าไปที่ผู้ค้ายาบนดาร์กเว็บ ส่งผลให้มีการจับกุม 179 รายทั่วโลก และยึดเงินสดและสกุลเงินดิจิทัลมูลค่า 6.5 ล้านดอลลาร์ รวมถึงยา 500 กิโลกรัม
จีนกำหนดข้อจำกัดในการผลิตสารเคมีเฟนทานิลหลังจากได้รับแรงกดดันจากสหรัฐฯ:
จีนประกาศว่าจะควบคุมการผลิตสารเคมีสำคัญสามชนิดที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสหรัฐฯ
จีนแสวงหาความร่วมมือระหว่างประเทศที่มากขึ้นในการควบคุมยาเสพติด:
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงสาธารณะของจีนให้คำมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมยาเสพติด โดยเน้นถึงความสำคัญของการกำจัดปัจจัยที่ก่อให้เกิดปัญหายาเสพติด
จีนเริ่มดำเนินการเกี่ยวกับวิกฤตเฟนทานิลในสหรัฐฯ:
จีนได้เริ่มดำเนินการเพื่อขัดขวางห่วงโซ่อุปทานที่ส่งผลต่อวิกฤตโอปิออยด์ในสหรัฐฯ โดยปิดตัวผู้ขายสารเคมีตั้งต้นที่ใช้ในการผลิตเฟนทานิล และกำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่สำหรับสารเคมีเพิ่มเติม
สนธิสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ:
สนธิสัญญาระหว่างประเทศที่มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมการผลิตและการค้ายาเสพติด โดยกำหนดให้มีการควบคุมอย่างเข้มงวดสำหรับสารเสพติดหลายประเภท รวมถึงโอปิออยด์
สงครามยาเสพติด:
ความพยายามระดับโลกในการต่อสู้กับการผลิต การจำหน่าย และการใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย โดยมีการดำเนินการและความร่วมมือระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อควบคุมปัญหานี้
โฆษณา