Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
29 ม.ค. เวลา 10:59 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 203 ประลองค่ายกลพยุหะ
อู้หยันหยันโซ่วชักม้าขึ้นมาหน้าค่าย ตะโกนเสียงดังว่า
“ท่านตั้งค่ายกลจิ่วกงปากว้า 九宫八卦 ตบตาใครได้ ค่ายกลของข้า ท่านรู้จักหรือไม่”
ซ่งเจียงฟังแม่ทัพเถื่อนท้าทายเรื่องค่ายกล จึงให้ตั้งหอบันไดเมฆ 云梯 แล้วปีนขึ้นไปดูกระบวนพยุหะกับอู๋ย่ง จูอู่ เห็นตั้งเป็นสามกระบวนเชื่อมต่อกัน ซ้ายขวาช่วยกันถึง
จูอู่รู้จัก จึงบอกซ่งเจียงว่า “นี่คือพยุหะไท่อี่ซานไฉ 太乙三才”
ซ่งเจียงปล่อยอู๋ย่ง จูอู่ไว้บนบันได ตนเองเดินลงมาขึ้นม้าขี่มาหน้าค่าย เอาแส้ม้าชี้หน้าแม่ทัพเหลียว ตวาดว่า
“ค่ายไท่อี่ซานไฉของท่าน มีอะไรพิสดาร”
แม่ทัพน้อยอู้หยันว่า “ท่านรู้จักค่ายนี้ เช่นนั้นดูข้าแปรกระบวนให้ท่านไม่รู้จัก”
อู้หยันหยันโซ่วชักม้าเข้าค่าย ขึ้นหอบัญชาการโบกธงสัญญานแปรรูปกระบวนพยุหะใหม่ อู๋ย่ง จูอู่มองดูรู้ว่าแปรเป็นพยุหะเหอล่อสื้อเสี้ยง 河洛四象 จึงให้คนลงมาแจ้งแก่ซ่งเจียง
แม่ทัพน้อยอู้หยันออกจากค่ายมาถามว่า “รู้จักกระบวนนี้ของข้าหรือไม่”
ซ่งเจียงตอบว่า “แปรเป็นค่ายกลเหอล่อสื้อเสี้ยง”
แม่ทัพน้อยอู้หยันส่ายหัวยิ้มหยัน ขี่ม้ากลับเข้าค่ายขี้นหอโบกธงแปรพยุหะใหม่
อู๋ย่ง จูอู่สังเกตจากบนหอ จูอู่ว่า “นี่แปรเป็นค่ายกลสวินหวนปากว้า 循环八卦” จึงให้คนลงมาแจ้งแก่ซ่งเจียง
แม่ทัพน้อยอู้หยันออกจากค่ายมาถามว่า “แล้วกระบวนนี้ของข้า รู้จักหรือไม่”
ซ่งเจียงหัวเราะแล้วว่า “แค่เพียงค่ายกลสวินหวนปากว้า มีอะไรพิสดาร”
พอแม่ทัพน้อยได้ฟังจึงตรองว่า “ค่ายกลพยุหะหลายกระบวนนี้ ถ่ายทอดเป็นเคล็ดลับ คนผู้นี้กลับรู้จัก ในทัพซ่ง ต้องมีผู้เชี่ยวชาญ”
แม่ทัพน้อยอู้หยันขี่ม้ากลับเข้าค่ายขี้นหอโบกธงแปรขบวนพยุหะใหม่ เป็นพยุหะไร้ประตู ด้านในซ่อนกองทหารม้า แปดแปดหกสิบสี่กอง
จูอู่ขึ้นบันไดเมฆสังเกตดูแล้วบอกอู๋ย่งว่า “นี่คือค่ายกลปาเจิ้นถูของท่านอู่โห้ว (ขงเบ้ง) 武侯八阵图 ที่ซ่อนหัวซ่อนท้าย คนทั่วไปไม่รู้จัก”
จึงให้คนไปเชิญซ่งกงหมิงเข้าค่ายขึ้นบันไดเมฆมาชมกระบวนพยุหะ
จูอู่ว่า “มิอาจดูแคลนทหารเหลียว ค่ายกลเหล่านี้ถ่ายทอดกันเฉพาะในสำนักหนึ่ง เริ่มจากไท่อี่ซานไฉสามอำนาจ แปรเป็นเหอล่อสื้อเสี้ยงสี่สัญลักษณ์ สี่สัญลักษณ์กำเนิดสวินหวนปากว้าแปดเหลี่ยม แปดเหลี่ยมกำเนิดแปดแปดหกสิบสี่เหลี่ยม แล้วแปรเป็นปาเจิ้นถูพยุหะทั้งแปด เป็นวัฏฏะแปรผัน นับเป็นวิชาพยุหะขั้นสูง”
ซ่งเจียงลงจากหอขึ้นม้าขี่มาหน้าค่าย แม่ทัพน้อยยืนม้าถือทวนตะโกนถามมาว่า “รู้จักค่ายกลนี้หรือไม่”
ซ่งเจียงตวาดตอบว่า “แม่ทัพอย่างเจ้าอายุยังน้อยด้อยปัญญา เหมือนกบก้นบ่อ รู้จักค่ายกลพวกนี้ก็ลำพองว่ายอดเยี่ยมแล้ว ค่ายกลปาเจิ้นถูซ่อนหัวนี้หลอกคนอื่นได้ หลอกเด็กต้าซ่งเรายังหลอกไม่ได้เลย”
แม่ทัพน้อยอู้หยันว่า “เมื่อท่านรู้จักค่ายกลของข้า ก็ลองวางกระบวนที่พิศดารกว่านี้มาให้ชมสักหน่อย”
ซ่งเจียงตวาดกลับว่า “เพียงค่ายกลจิ่วกงปากว้าของเรานี้ ที่เจ้าปรามาสว่าธรรมดา กล้าลองตีไหมเล่า”
แม่ทัพน้อยหัวเราะลั่น “แค่ค่ายกลเล็กๆ เช่นนี้ตีไม่ยาก อย่าแอบซุ่มธนูดักยิงก็แล้วกัน ข้าจะตีค่ายกลกระจอกงอกง่อยนี้ให้ดู”
แม่ทัพน้อยอู้หยันสั่งการให้ราชบุตรเขยไท่เจิน หลี่จินอู๋จัดทหารคนละหนึ่งพันนาย “รอข้าตีทะลวงตลอดค่ายแล้ว พวกท่านก็มาช่วยหนุน” สั่งการเสร็จก็สั่งให้ลั่นกลองศึก
ทางด้านซ่งเจียงสั่งการให้ลั่นกลองศึกสามคำรบ แล้วธงประตูค่ายก็แหวกออก ปล่อยให้แม่ทัพน้อยนำทหารเข้าตีค่ายกล
แม่ทัพน้อยอู้หยันนำขุนพลชั้นโทยี่สิบกว่านาย ทหารม้าหุ้มเกราะหนึ่งพันนาย ใช้นิ้วมือจับยามคำนวณตกวันอัคคี ไม่เข้าตีตำแหน่งทิศใต้ นำทหารเลี้ยวไปทางขวาเปลี่ยนเข้าตีทางตะวันตก ธงขาวโบกเปิด บุกเข้าไปในค่ายกลได้ครึ่งหนึ่ง ทหารอีกครึ่งถูกธนูยิงสกัดเอาไว้ จำต้องถอยกลับ
แม่ทัพน้อยเข้าไปถึงกลางค่ายพยุหะ แลเห็นเสมือนผนังเหล็กกำแพงเงินขาววาววับเข้ามาล้อมทัพตนไว้ อู้หยันหยันโซ่วตกใจหน้าซีดเผือด แอบรำพึงว่า “ทำไมจึงมีปราการลักษณะนี้อยู่ในค่าย” จึงสั่งให้ทหารถอยฝ่ากลับทางเก่า
พอเหล่าทหารหันหลังกลับ พลันแลเห็นผืนน้ำขาวโพลนราวทะเลเงินยวง ได้ยินแต่เสียงคลื่นน้ำซัด ไม่เห็นมีทางข้าม แม่ทัพน้อยตะลีตะลานนำทัพเปลี่ยนมาทางประตูทิศใต้ ก็แลเห็นลูกไฟใหญ่นับพันลูก เมฆแดงนับหมื่นริ้วกลิ้งกันมาบนพื้น มองไม่เห็นทหารฝ่ายตนข้ามแม้สักคน
ประตูทิศใต้ไปไม่ได้เสียแล้ว จึงเบนมาทางประตูทิศตะวันออก กลับมีแต่ต้นไม้ใหญ่กิ่งใบรกทึบขึ้นแน่นขนัด อีกทั้งมีขวากเขากวางจุกช่อง ไม่มีทางเข้าไปได้ จึงวนมาทางประตูทิศเหนือ มีไอดำคลุมฟ้า เมฆดำบังตะวัน เหยียดมือออกไปมองไม่เห็นฝ่ามือ มืดมิดปานขุมนรก
แม่ทัพน้อยอู้หยันติดอยู่ในค่ายกลไร้ทางออกทั้งสี่ทิศ พลางคิดสงสัยว่า “ซ่งเจียงต้องใช้มนต์ดำเป็นแน่ ป่วยการคิด จำต้องเสี่ยงตายฝ่าออกไปให้ได้ก่อน”
แล้วจึงกล่าวปลุกขวัญทหาร เหล่าทหารโห่ร้องขานรับ พร้อมจะบุกออกไป
ขุนพลใหญ่ผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นตวาดก้อง “แม่ทัพเด็กน้อย จะหนีไปไหน”
แม่ทัพน้อยอู้หยันไม่ทันตั้งตัว มีกระบองฟาดใส่กระหม่อม ดีที่ยังตาไว รีบยกทวนฟางเทียนจี่ขึ้นรับ คราวนี้ กระบองคู่ฟาดลงมาพร้อมกันจนด้ามทวนหักเป็นสองท่อน แม่ทัพน้อยดิ้นรนหนี อีกฝ่ายโผเข้ามาใช้แขนดังวานรโอบเอวกระชากตัวข้ามไป เหล่าทหารมะงุมมะงาหราอยู่ในความมืด จึงพากันลงม้ายอมจำนน
ผู้ที่จับเป็นแม่ทัพน้อยคือ ขุนพลพยัคฆ์กระบองคู่ฮูหยันจว๋อ กงซุนเสิ้งกำลังร่ายเวทอยู่กลางค่าย พอได้รับรายงานว่าจับตัวแม่ทัพน้อยได้แล้วก็หยุดร่าย ภาพลวงตาสลายไป ฟ้าสดใสดังเดิม
ทางด้านราชบุตรเขยไท่เจิน และหลี่จินอู๋นำทัพนายละพัน พร้อมหนุนอยู่นอกค่ายกล ไม่เห็นมีความเคลื่อนไหวใดจึงยังสงบรออยู่ ซ่งเจียงขี่ม้าออกมาหน้าค่ายตะโกนลั่นว่า “พวกท่านทั้งสองรีบยอมจำนนเสีย อย่ามัวรีรอ แม่ทัพน้อยอู้หยันถูกจับตัวไว้แล้ว”
แล้วให้เพชฌฆาตกุมตัวออกมาหน้าค่าย
หลี่จินอู๋เห็นดังนั้นจึงควบม้ารำทวนจะเข้ามาช่วย อสนีบาตฉินหมิงใช้กระบองเขี้ยวเข้ารับมือ ทหารสองฝ่ายโห่ร้องสร้างขวัญ หลี่จินอู๋ตกเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ ฉินหมิงใช้กระบองเขี้ยวหวดใส่ศีรษะถูกหมวกเกราะแหลกละเอียด หลี่จินอู๋ตกม้าตาย
ราชบุตรเขยไท่เจินเห็นหลี่จินอู๋ปราชัย จึงสั่งทหารถอยหนี ซ่งเจียงเร่งทหารตามตี ยึดม้าศึกได้สามพันกว่าตัวอาวุธและธงทิวเกลื่อนกลาดหุบเขาลำธาร ซ่งเจียงเห็นเป็นจังหวะจึงเดินทัพมุ่งหน้าต่อหวังเข้ายึดกรุงเอี้ยนจิง 燕京 กวาดล้างให้เสร็จสิ้น
ทางด้านทหารเหลียวแตกยับเยินหนีกลับถึงกรุง รายงานแก่ผู้บัญชาการอู้หยันว่า แม่ทัพน้อยอู้หยันเข้าตีค่ายกลเสียทีถูกจับเป็นเชลย ขุนพลรองล้วนยอมจำนน หลี่จินอู๋ถูกฟาดด้วยกระบองตาย ราชบุตรเขยไท่เจินหนีหายไปไม่รู้อยู่หนไหน
อู้หยันถ่งจวินตกตะลึงแล้วว่า “บุตรชายข้าศึกษาค่ายกลมาแต่เล็ก พอรู้อยู่ไม่น้อย ซ่งเจียงใช้ค่ายกลใดจึงจับตัวไปได้”
ทหารว่า “ใช้ค่ายกลจิ่วกงปากว้า ไม่ใช่ค่ายพิสดารใด ท่านแม่ทัพน้อยตั้งค่ายกลสี่ค่าย ฝ่ายนั้นต่างรู้จักหมด แล้วท้าให้ตีค่ายจิ่วกงปากว้า ท่านแม่ทัพน้อยนำทหารม้าหนึ่งพันเข้าตีทางประตูตะวันตก ทหารเข้าไปได้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งถูกธนูยิงสกัด แต่ไม่รู้สาเหตุใดจึงถูกจับเป็นเชลยได้”
อู้หยันถ่งจวินว่า “ค่ายจิ่วกงปากว้า พยุหะทั่วไปไม่ยากอันใด มีการแปรรูปใด”
เหล่าทหารว่า “พวกข้าดูอยู่บนหอ เห็นกลางค่ายไม่มีการเคลื่อนกำลัง ไม่โบกธงทิว แต่เหนือค่ายมีเมฆดำกลุ่มใหญ่คลุมเฉพาะกลางค่าย”
อู้หยันถ่งจวินว่า “เช่นนั้นคงเป็นมนต์ดำ ข้าไม่ยกทัพไป พวกมันก็มาเอง หากข้าชนะมันไม่ได้ ขอเชือดคอตายเอง ใครจะอาสาเป็นแม่ทัพหน้าไปกับข้า”
ขุนพลสองนายก้าวออกมา “พวกข้าทั้งสองขออาสานำทัพหน้า”
นายหนึ่งชื่อว่า ฉยงเยาน่าหยัน 琼妖纳延 ส่วนอีกนายหนึ่งชื่อ โค่วเจิ้นหย่วน 寇镇远
อู้หยันถ่งจวินยินดียิ่งนักสั่งการว่า “ท่านทั้งสองนำพลหนึ่งหมื่นเป็นทัพหน้า พบเขาให้เปิดทาง พบน้ำให้สร้างสะพาน ข้าจะนำทัพหลวงติดตามไป”
ตอนก่อนหน้า : ศึกเมืองอิวโจว
https://www.blockdit.com/posts/679762ad894789768fed303e
ตอนถัดไป : กองทัพดาว
https://www.blockdit.com/posts/679ca4d9f8e97cd5e2efbbae
บันทึก
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย