27 ม.ค. เวลา 10:40 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 202 ศึกเมืองอิวโจว

เห้อจ้งเป่าถอยกลับมาถึงเมือง กลัดกลุ้มยิ่งด้วยเสียพี่น้องไปสองคน ยิ่งม้าเร็วมาแจ้งว่า “ซ่งเจียงกำลังยกทัพมาตีอิวโจว” ก็ยิ่งเครียดหนัก
ทหารรักษาการณ์บนกำแพงเมือง เห็นทัพธงแดงยกมาทางตะวันออกเฉียงเหนือทัพหนึ่ง และมีอีกทัพธงเขียวยกมาทางตะวันตกเฉียงเหนือ ทั้งสองทัพมุ่งหน้ามาอิวโจว จึงรีบลงมารายงานเห้อถ่งจวิน
เห้อถ่งจวินได้ฟังก็สะดุ้ง รีบขึ้นมาบนกำแพงด้วยตัวเอง พอเห็นก็จำธงทิวได้ว่าเป็นของเมืองเหลียว จึงดีใจยิ่ง ทัพธงแดงอักษรเงินเป็นของราชบุตรเขยแห่งต้าเหลียว ไท่เจินซวีชิ่ง 太真胥庆 มีกำลังพลห้าพัน ทัพธงเขียวอักษรทอง ปักหางไก่ฟ้า เป็นทัพของแม่ทัพใหญ่หลี่จินอู๋ 李金吾大将
หลี่จินอู๋ผู้นี้คือ หวงเหมินสื้อหลาง 黄门侍郎 แม่ทัพใหญ่จื๋อจินอู๋ซ้าย 左执金吾上将军 แซ่หลี่ 李 ชื่อจี๋ 集 เรียกขานกันว่า หลี่จินอู๋ 李金吾 เป็นเชื้อสายของหลี่หลิง 李陵 (แม่ทัพใหญ่สมัยพระเจ้าฮั่นอู่ตี้ 汉武帝) จึงรับตำแหน่งสืบทอดประจำตระกูลว่า จินอู๋ 金吾 ประจำการอยู่ที่สยงโจว 雄州 มีทหารในสังกัดหนึ่งหมื่นกว่านาย เป็นกองกำลังที่รุกรานชายแดนซ่งเป็นประจำ พอรู้ข่าวเจ้าฟ้าเหลียวเสียเมืองจึงรีบยกทัพมาช่วย
เห้อถ่งจวินจึงใช้คนออกไปแจ้งแก่ทัพทั้งสองว่า “อย่าเพิ่งเข้าเมือง ให้ไปซุ่มกำลังที่หลังเขา ข้าจะนำทัพมารอรับทัพซ่งเจียงที่นอกเมือง เมื่อมาถึงให้ยกเข้าตีกระหนาบ”
พอสั่งการเสร็จ เห้อถ่งจวินก็นำทัพออกไปตั้งนอกเมือง
ทางด้านซ่งเจียงเดินทัพมาใกล้ถึงอิวโจว อู๋ย่งจึงว่า
“หากข้าศึกปิดประตูเมืองไม่ออกมา แสดงว่ายังไม่ได้เตรียมตัว แต่หากนำทัพมาตั้งรับนอกเมือง คงมีการซุ่มกำลังไว้ เราจะแบ่งทัพเป็นสามกอง กองหนึ่งตรงไปอิวโจวสู้กับทัพที่มาตั้งรับ อีกสองกองเป็นปีกซ้ายขวาป้องกันทัพซุ่ม”
ซ่งเจียงสั่งการให้กวนเสิ้งนำ เซวียนจ้าน เห่าซือเหวินเป็นปีกซ้าย ให้ฮูหยันจว๋อนำ ซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อเป็นปีกขวา กำลังทัพละหนึ่งหมื่น ค่อยๆ เดินทัพมาตามทางภูเขา ซ่งเจียงนำทัพใหญ่ตรงมายังอิวโจว
ทัพซ่งเจียงมาประจันหน้ากับทัพของเห้อถ่งจวิน หลินชงเข้ารบกับเห้อถ่งจวินได้ไม่ถึงห้าเพลง เห้อถ่งจวินชักม้าหนี ซ่งเจียงให้ทหารไล่ตาม เห้อถ่งจวินไม่หนีเข้าเมืองอิวโจว แต่ทัพอ้อมตัวเมืองแยกเป็นสองทาง
อู๋ย่งจึงตะโกนสั่งการ “อย่าตาม”
ทางด้านซ้าย ราชบุตรเขยไท่เจิน 太真驸马 ยกทัพมาตีกระหนาบ กวนเสิ้งนำทัพเข้าสกัด ทางด้านขวาเป็นทัพของหลี่จินอู๋ ฮูหยันจว๋อตรงเข้าประกบ ทัพทั้งสามส่วนรบกันเลือดนอง ซากศพเกลื่อนกลาด
เห้อถ่งจวินเห็นท่าไม่ดี คิดหนีเข้าเมือง ฮวาหยง ฉินหมิงรบสกัดไว้ จึงหนีอ้อมมาเข้าประตูตะวันตก พบขุนพลทวนคู่ต่งผิงขวางไว้ รบกันพักใหญ่ ก็หนีมาเข้าทางประตูใต้ ปะจูถง รบกันอีกพัก เห็นว่าเข้าเมืองไม่ได้จึงหนีตามทางใหญ่ไปทางทิศเหนือ
ระหว่างทาง พบควบสามเขาหวงซิ่นควบม้ารำง้าวเข้าหา เห้อถ่งจวินไม่ทันตั้งตัว หวงซิ่นฟันใส่หัวม้าล้ม เห้อถ่งจวินทิ้งม้าวิ่งหนี ด้านข้างมีหยางสยง สือสิ้ววิ่งเข้ามาพร้อมกัน ทำเอาเห้อถ่งจวินล้มกองกับพื้น ซ่งว่านถือทวนวิ่งมาช่วยซ้ำ คนละทวนคนละดาบฟันแทงเห้อถ่งจวินตายคาที่ ทหารเหลียวต่างหนีเอาตัวรอด
ทางราชบุตรเขยไท่เจินมองเห็นธงแม่ทัพของถ่งจวินล้ม ทหารแตกหนี รู้ว่าพลาดท่าแล้วจึงนำทัพธงแดงหนีไปทางหลังเขา หลี่จินอู๋รบอยู่เห็นทัพธงแดงหายไป ก็รู้สถานการณ์ นำทัพธงเขียวหนีไปทางหลังเขาเช่นกัน
ซ่งเจียงเห็นข้าศึกแตกถอยไปทั้งสามทัพ จึงยกทัพเข้ายึดเมืองอิวโจวได้โดยง่าย ซ่งเจียงออกประกาศปลอบขวัญราษฎร ทำรายงานไปยังถานโจว เชิญเจ้าซูมี่ขึ้นมารักษาการณ์ที่เมืองจี้โจว พร้อมทั้งขอให้ส่งทัพเรือขึ้นมาที่อิวโจว ให้รองแม่ทัพหน้าหลูจวิ้นอี้แบ่งกำลังไปรักษาป้าโจว ทั้งสิ้นยึดได้แล้วสี่มณฑลใหญ่
เจ้าอันฝู่ 赵安抚 พอได้รับรายงาน ยินดียิ่งนัก ทำรายงานไปยังราชสำนัก แล้วขึ้นมารักษาเมืองจี้โจว ป้าโจว และให้แม่ทัพเรือนำทัพเรือมายังอิวโจว
ทางด้านเจ้าฟ้าต้าเหลียวออกว่าราชการยังท้องพระโรง มีเสนาบดีซ้ายอิวซีเป้ยจิ่น 幽西孛瑾 เสนาบดีขวาราชครูฉู่เจียน 太师褚坚 ผู้บัญชาการทหารใหญ่นำข้าราชการเข้าเฝ้า ทรงตรัสปรึกษาข้อราชการว่า
“ซ่งเจียงบุกรุกแผ่นดินเรายึดไปได้สี่มณฑลใหญ่ ช้าเร็วย่อมต้องรุกมายังเมืองหลวง กรุงเอี้ยนจิงนี้มีภัย เห้อถ่งจวินสามพี่น้องต่างพลีชีพไปแล้ว พวกท่านเหล่าขุนนางมีความเห็นใดไปรับมือ”
ผู้บัญชาการทหารอู้หยันกวง 兀颜光 ทูลว่า
“หลางจู่โปรดอย่าทรงกังวล กระหม่อมเคยขอนำทัพออกไปหลายครั้ง แต่ถูกคนทัดทาน จึงได้เกิดเภทภัยให้โจรลำพองใจ ขอทรงมีพระบัญชาให้กระหม่อมได้นำทัพไปจับกุมพวกซ่งเจียง และชิงมณฑลที่เสียไปกลับคืน”
หลางจู่ทรงมีพระบรมราชานุญาต พระราชทานตราพยัคฆ์ประดับมุก ป้ายทองราชโองการ ขวานเหลืองธงขาว ตุงแดงฉัตรดำแก่อู้หยันกวง
“ไม่ว่าจะเป็นเชื้อพระวงศ์ หรือพระญาติสายใด กองทหารหน่วยไหน สุดแต่ท่านจะเรียกใช้ จงรีบนำทัพออกทำศึก”
ผู้บัญชาการอู้หยันรับพระราชโองการ แล้วมายังลานฝึกทหารสั่งการนัดประชุมเหล่าขุนทหารเพื่อคัดตัวไปปฏิบัติหน้าที่
พอสั่งการเสร็จ อู้หยันหยันโซว่ 兀颜延寿 บุตรชายคนโตของตนก็เข้ามายังลานประลองแล้วเรียนว่า
“ระหว่างที่บิดากำลังจัดทัพใหญ่อยู่นี้ ผู้บุตรขอนำขุนพลจำนวนหนึ่งไปสมทบกับท่านราชบุตรเขยไท่เจิน และท่านขุนพลหลี่จินอู๋ ยกทัพไปอิวโจวก่อน สังหารพวกทัพคนเถื่อนเสียก่อนสักแปดส่วน พอบิดาไปถึงจะได้กวาดล้างทหารซ่งได้เหมือนจับตะพาบในไห”
อู้หยันกวงว่า “บุตรเรากล่าวถูกต้อง เจ้าจงนำทหารม้าห้าพัน ทหารกล้าสองหมื่น เป็นทัพหน้า ไปสมทบกับราชบุตรเขยไท่เจิน และท่านหลี่จินอู๋ หากว่าได้ชัย ก็จงรีบรายงานกลับมา”
ขุนพลน้อยรับบัญชา จัดทัพมุ่งหน้ามาอิวโจว
万马奔驰天地怕,千军踊跃鬼神愁。
หมื่นอาชาห้อตะบึงฟ้าดินขยาด
พันพลฉกาจโลดทะยานภูตเทพคร้าม
อู้หยันหยันโซว่นำทหารราบและทหารม้าสองหมื่นห้าพันนายมาสมทบทัพราชบุตรเขยไท่เจินและหลี่จินอู๋ รวมแล้วเป็นสามหมื่นห้าพันนาย ออกเดินทัพมายังอิวโจว หน่วยสอดแนมรีบกลับมารายงานแก่ซ่งเจียง
ซ่งเจียงเชิญเสธ.อู๋ย่งมาหารือ “ทหารเหลียวพ่ายแพ้ไปหลายครั้ง คราวนี้คงเกณฑ์ทหารกล้าขุนพลแกร่งมาเป็นแน่ จะรับมือกันอย่างไรดี”
อู๋ย่งว่า “จัดทัพยกไปตั้งค่ายพยุหะนอกเมืองก่อน รอทัพเหลียวมาถึง ก็ค่อยๆ ท้ารบ หากไม่แน่จริง คงถอยไปเอง”
ซ่งเจียงจัดทัพยกออกไปตั้งห่างจากเมืองสิบลี้ที่ชัยภูมินามว่า เขาเหลี่ยม 方山 (ฟางซาน) เป็นพื้นที่ราบอิงเขาและน้ำ ตั้งค่ายพยุหะเก้าตำหนักแปดเหลี่ยม 九宫八卦阵
ทางด้านทัพเหลียวยกมาเป็นสามกองทัพ ทัพขุนพลน้อยอู้หยันใช้ธงดำ ราชบุตรเขยไท่เจินธงแดง หลี่จินอู๋ธงเขียว มาถึงสนามรบเห็นทัพซ่งเจียงตั้งค่ายพยุหะไว้ อู้หยันหยันโซ่วติดตามบิดาทำการรบ ได้ศึกษาค่ายกลพยุหะ เคยฝึกตั้งค่ายมาช่ำชอง จึงให้ทัพธงเขียวธงแดงตั้งค่ายซ้ายขวา ตนเองอยู่กลางตั้งหอบันไดเมฆ 云梯 แล้วปีนขึ้นไปดูสภาพการตั้งค่ายของซ่งเจียงเห็นว่าเป็นค่ายพยุหะเก้าตำหนักแปดเหลี่ยม
พอลงบันไดมายังยิ้มหยันไม่หยุด รองแม่ทัพถามว่า “ท่านแม่ทัพยิ้มทำไม”
อู้หยันหยันโซ่วว่า “แค่ค่ายพยุหะเก้าตำหนักแปดเหลี่ยม ใครก็รู้จัก ตั้งค่ายกลนี้มา ข้าจะตีสั่งสอน”
แล้วจึงสั่งให้รัวกลองสามคำรบ ตั้งหอบัญชาหาร นำธงบัญชาการสองเล่มขึ้นไปโบกซ้ายโบกขวาตั้งค่ายพยุหะเสร็จ ก้าวลงจากหอ ขึ้นม้า นำเหล่าขุนทหารเอกมายืนม้าหน้าค่าย
戴一顶三叉如意紫金冠,穿一件蜀锦团花白银铠。
足穿四缝鹰嘴抹绿靴,腰系双环龙角黄鞓带。
蚪螭吞首打将鞭,霜雪裁锋杀人剑。
左悬金画宝雕弓,右插银嵌狼牙箭。
使一枝画杆方天戟,骑一匹铁脚枣骝马。
ทองจื่อจินสามยอดทรงมงกุฎ
ชุดแพรสู่สวนดอก เกราะเงินขาว
หนังสี่แผ่นเย็บจงอยทรงรองเท้า
เข็มขัดเหลืองเขามังกรสองห่วงคล้อง
มังกรชือขดกลืนแส้แม่ทัพ
กระบี่วับวาวหิมะริปูสยอง
ซ้ายแขวนธนูอินทรีเขียนลายทอง
ขวาซองดอกศรเขี้ยวหมาป่าเงิน
ถือทวนด้ามลายเขียนฟางเทียนจี่
อาชาขี่สีแดงม้าเจ่าหลิว
(แพรสู่ 蜀锦 แดนสู่มีชื่อเสียงเรื่องผ้าแพร
ชือ 螭 มังกรไร้เขาใช้ตกแต่งในศิลปะจีน
ม้าเจ่าหลิว 枣骝马 ม้าพันธุ์ดีสีแดง)
ตอนก่อนหน้า : แก้ไขกิเลน
ตอนถัดไป : ประลองค่ายกลพยุหะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา