ท่านเปาบุ้นจิ้น
“เปาบุ้นจิ้น” เป็นชื่อในภาษาจีนฮกเกี้ยน เกิดในยุคในสมัยของจักรพรรดิซ่งเหรินจง ซึ่งเป็นยุคที่ฮ่องเต้อ่อนแอ กังฉินเรืองอำนาจ
โดยตลอดเวลา 25 ปีที่รับราชการนั้น เปาบุ้นจิ้นได้รับการจารึกว่าเป็นสุจริตชน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคำว่า “ตงฉิน” ตัดสินคดีอย่างยุติธรรม จนเป็นที่เลื่องลือมาถึงปัจจุบัน ทั้งยังได้รับฉายาว่า เปาชิงเทียน (แปลว่า เปาผู้ทำให้ฟ้ากระจ่าง)
ประวัติ
เปาเจิ้ง เกิดเมื่อพ.ศ.1542 เกิดในครอบครัวบัณฑิตแห่งหลูโจว เมื่อยังเป็นเด็กครอบครัวยากจน มารดาของเขาต้องสะสมทุนรอนด้วยการขึ้นไปบนภูเขาเก็บฟืนมาขาย เพื่อส่งเสียให้ลูกได้เรียนเขียนอ่าน เติบโตขึ้นในท่ามกลางสังคมชั้นล่างซึ่งเป็นพลเมืองหลักของประเทศที่ยากจนข้นแค้น
เมื่ออายุได้ 29 ปี เขาสอบผ่าน “จิ้นซื่อ” ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ว่าการเทศมณฑลจิ้นชาง
เปาบุ้นจิ้น กตัญญูต่อบิดามารดาเป็นเลิศ เขาขอเลื่อนการทำงานออกไปก่อน เพื่อขอดูแลบิดามารดาที่ชราภาพ หลังบิดามารดาเสียชีวิตเปาจิ้นยังคงเฝ้าเคารพศพ หากแต่ได้รับการร้องขอให้มารับราชการรับใช้แผ่นดิน
เริ่มแรกเขาได้เป็นผู้ว่าการนครเทียนฉาง ซึ่งไม่ไกลจากหลูโจว บ้านเกิด และด้วยความเก่งและสุจริตจึงก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว จนได้เป็นรองอัครมหาเสนาบดี ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายตรวจสอบการปฏิบัติราชการของขุนนางทั้งแผ่นดิน
พ.ศ.1583 ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้ว่าการเมืองตวันโจว ซึ่งเป็นแหล่งขึ้นชื่อด้านผลิต “จานฝนหมึก” ซึ่งผู้ว่าการคนก่อนๆ มักขูดรีด “จานฝนหมึก” จำนวนมากจากราษฎร เขาจึงประกาศใช้จานฝนหมึกเพียงอันเดียว
พ.ศ.1586 เขาต้องย้ายไปท้องที่อื่น ประชาชนจึงนำจานฝนหมึกมามอบให้เป็นของขวัญ แต่เขาไม่ได้รับไว้เลย
พ.ศ.1600 ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการนครหลวงไคฟง ซึ่งเวลานั้นเรียกว่า เปี้ยนเหลียง ในช่วงเวลาไม่ถึง 1 ปีแห่งการดำรงตำแหน่งดังกล่าว เปาบุ้นจิ้นได้ปฏิรูปการปกครองเพื่อให้ราษฎรสามารถเข้าถึงผู้ว่าการได้โดยตรง โดยเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ร้องเรียนเมื่อเกิดความไม่ยุติธรรม
หากใครมีเรื่องทุกข์ร้อนต้องการความยุติธรรมจากท่านเปา แค่เดินทางไปยังศาลไคฟง ตีกลองร้องทุกข์ จากนั้นท่านเปาก็จะสั่งให้เปิดศาลรับเรื่องพิจารณา
การพิพากษาของท่านเปา ถือเป็นที่สุด ผู้ต้องหาไม่มีสิทธิในการโต้แย้งคำพิพากษาด้วยการยื่นอุทธรณ์ หรือฎีกาได้เลย จึงมีขุนนางไปถวายฎีกา หากแต่ ซ่งเหรินจง ฮ่องเต้ ถือเป็นกษัตริย์ประเสริฐพระองค์หนึ่ง เพียงตักเตือนเปาบุ้นจิ้นเท่านั้น
ถึงแม้จะมีตำแหน่งสูงในวงราชการ แต่ท่านเปากลับใช้ชีวิตเรียบง่ายจนเป็นที่เลื่องลือ เขายังมีชื่อเสียงในการตรวจสอบการทุจริต กับทั้งอุปนิสัยที่เข้มงวด
เปาบุ้นจิ้น มี “อาญาสิทธิ์” คือ สิทธิที่จะใช้เครื่องประหารต่อผู้กระทำผิดได้ทันทีโดยไม่ต้องขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตก่อนตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพียงรายงานตามหลังเท่านั้น จึงเป็นที่มาของสำนวนที่ว่า “ฆ่าก่อน รายงานทีหลัง”
เปาบุ้นจิ้นถึงแก่กรรมเมื่อ พ.ศ. 1605 อายุ 63 ปี ภายหลังได้รับพระราชทานสมัญญาว่า “เซี่ยวซู่-ผู้เคร่งขรึมกตัญญู” (สุสานของเปาบุ้นจิ้นอยู่ที่อำเภอเหอเฝย มณฑลอานฮุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งของจีน)
เมื่อเอามาเล่นเป็นละคร ท่านเปา ต้องมีบุคลิกเคร่งขรึมหน้าตายและนิสัยซื่อตรงไม่เห็นแก่หน้าใครทั้งนั้น
เมื่อแสดงงิ้ว…ต้องใช้ “สีดำ” ทาหน้าผู้แสดง เพราะสีดำเป็นสีแห่งความซื่อตรง และแสดงถึงหน้าเคร่งขรึม จึงเป็นที่มาของตำนาน “เปาบุ้นจิ้นหน้าดำ”
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
