10 ก.พ. เวลา 16:31 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

กรณีศึกษา : เหตุใดเทพปกรณัมจีนจึงยังสร้าง “ตำนาน” อยู่

การผสมผสานอย่างลึกซึ้งระหว่างวัฒนธรรมดั้งเดิมของจีนและจิตวิญญาณแห่งยุคเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่ได้ก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่น่าสนใจมากมาย เช่น กรณีของอนิเมชันเรื่อง “นาจา 2 : เด็กปีศาจกวนมหาสมุทร《哪吒之魔童闹海》” อันเป็นภาคต่อของ “นาจา《哪吒之魔童降世》” เมื่อปี 2019 และเกมดังระดับ 3A เกมแรกของจีนเมื่อปี 2024 อย่าง “ตำนานทมิฬ《黑神话:悟空》”
จากตัวอย่างข้างต้นได้พิสูจน์ผลงานทางการตลาดเหล่านี้ว่า การพึ่งพาความมั่งคั่งมรดกทางเทพปกรณัมจีนทำให้ทรัพย์สินทางปัญญาของวัฒนธรรมดั้งเดิมได้รับความนิยมและกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งผ่านนวัตกรรมเทคโนโลยีและระบบการผลิตในอุตสาหกรรม
ความลับความสำเร็จของผลงานทั้งสองนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบหลัก 3 ประการ
1. ใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนในการสร้างภาพและเสียง ทีมงานมากกว่า 4000 ชีวิตใช้เวลาหลายปีทุ่มเทไปกับการสร้างมาตรฐานการผลิตระดับอุตสาหกรรมจนประสบความสำเร็จ โดยภาพที่ใช้เอฟเฟกต์พิเศษคิดเป็นเกือบ 80%
2. การตีความเนื้อหาจากวรรณกรรมคลาสสิกอย่างสร้างสรรค์ โดยผสมผสานแกนหลักทางจิตวิญญาณแบบดั้งเดิม เช่น ในแอนิเมชันเรื่อง "นาจา《哪吒之魔童降世》" จะมีประโยคหนึ่งที่นาจาพูดว่า “ชีวิตข้า ข้ากำหนด ไม่ใช่ฟ้าลิขิต(我命由我不由天)” ซึ่งสอดคล้องกับปัญหาการเติบโตของเยาวชนในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ดังนั้น จึงเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสะท้อนข้ามวัฒนธรรม
3. การส่งเสริมการแสดงออกทางศิลปะด้วยเทคโนโลยี โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น การจับภาพเคลื่อนไหว การเรนเดอร์ด้วย AI และเอนจินที่ไหลลื่น เพื่อให้โลกแห่งเทพนิยายมีภาพที่ดูมีชีวิตชีวาและสอดคล้องกับสุนทรียศาสตร์สมัยใหม่
สิ่งเหล่านี้บ่งชี้ว่า อุตสาหกรรมวัฒนธรรมจีนได้สำรวจเส้นทางนวัตกรรมที่สะท้อนระหว่างประเพณีดั้งเดิมและความทันสมัย ซึ่งเปิดช่องทางใหม่ให้ผู้ชมทั่วโลกรับรู้ถึงการมีอยู่ของอารยธรรมจีน นอกจากนี้ยังแสดงให้เห็นอีกว่าการเพิ่มพูนความมั่นใจในวัฒนธรรมของตนและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้การเผยแพร่เรื่องราวเกี่ยวกับจีนกำลังสร้างความเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด
สามารถสนับสนุนเพจเพื่อเป็นทุนการศึกษาได้ที่
💵PromptPay: 0954289757
ติดตามและอ่านเพิ่มเติมได้ที่
VPN ดีๆ ต้อง BullVPN❗
อ้างอิง|参考
โฆษณา