22 ก.พ. เวลา 04:00 • สุขภาพ

เรื่องไข้หวัดใหญ่ที่ใหญ่จริง

ใช่ครับ มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับผู้ปกครองเด็กเล็กจนถึงชั้นประถมหรือผู้สูงวัยที่กำลังปวดหัวกับโรคนี้
ติดกันงอมแงมแบบยกชั้นจนข้ามห้อง แล้วไปจบที่ชั้นปีเดียวกัน ปัจจุบันก็ข้ามชั้นไปเรียบร้อยแทบยกโรงเรียนแล้ว
แฟนผมถึงกับโทรไปคุยกับธุรการจนถึงผอ.ขอความเห็นพร้อมหาวิธีแก้ไข
โรงเรียนก็ดูจะใจเย็นเกินสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีการขยับ มีแต่มาตรการปกติทั่วไป ไม่ได้เข้มข้นอย่างสมัยโควิด
เมื่อไม่มีอะไรขยับ กลุ่มผู้ปกครองจึงได้แต่คุยปรึกษากันเอง มีจุดพลุเพื่อกระทุ้งให้โรงเรียนขยับตัวมากขึ้น แต่สุดท้ายก็ได้แต่จุดพลุอย่างเดียว
มันไม่ปังครับ
ว่ากันตามจริงบ้านเราดูจะคุ้นเคยกับไข้หวัดใหญ่ ประมาณว่าเป็นเรื่องปกติเพราะพบเจอได้บ่อยๆ
ตัวที่ระบาดอยู่ช่วงนี้เป็นสายพันธุ์A มี2สายพันธุ์ย่อยคือH1N1หรือไข้หวัด2009(กำลังระบาดคือตัวนี้) กับH3N2 ส่วนสายพันธุ์บBกับCนั้นพบเจอไม่บ่อยนักแถมยังแพร่ระบาดได้ไม่มาก อาการก็น้อยกว่าสายพันธุ์A
การแพร่ระบาดมาจากละอองฝอยสารคัดหลั่งไอจามจากผู้ป่วย เชื้อจะลอยละลิ่วหรือมาตกในพื้นที่ต่างๆแล้วมีการสัมผัสกับคนอื่นๆ ระยะฟักตัวอยู่ที่1-3วัน ระยะแพร่เชื้อ5-7วันนับตั้งแต่วันแรกที่มีอาการ หมดระยะแพร่เชื้อชัวร์ๆที่5-7วันนับตั้งแต่วันแรกที่มีอาการเช่นกัน
แต่ในบางรายที่ยังมีอาการไอหลังหมดระยะแพร่เชื้อ(หรือที่ว่าเชื้อลงปอด) หมอว่ายังแพร่เชื้อแบคทีเรียได้อีกด้วยต้องใส่หน้ากากอนามัยกันไปก่อนชั่วคราวสักหลายวัน
ส่วนใหญ่เมื่อหายป่วยแล้วจะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นั้นเป็นระยะเวลาหนึ่ง แต่ถ้าเป็นซ้ำให้สันนิษฐานว่าเป็นสายพันธุ์อื่นมากกว่าตัวเดิม
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าเป็นไข้หวัดใหญ่แล้ว?
ง่ายสุดคือดูก่อนครับว่าคนในบ้านมีใครเป็นหรือเปล่า ถ้าไม่มีแต่ดันมีอาการขึ้นมาแล้วสงสัย ให้ไปพบแพทย์ตามคลินิกหรือโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจโดยการสว้อปจมูก แต่ถ้ามีใครในบ้านเป็นอยู่แล้ว หมอจะไม่สว้อปนะครับ หมอจะจ่ายยามาให้เลยเป็นการลดขั้นตอน แต่ถ้ายังสงสัยอยู่ก็สว้อปได้ครับ อ้อ อาจตรวจพร้อมไปกับโควิดก็ได้แต่ค่าใช้จ่ายมันก็พอสมควร
ส่วนอาการมาตรฐานคือมีไข้สูงขึ้นมาเฉยๆ ปวดเมื่อยตามร่างกายแบบผิดปกติ ปวดหัวหนักๆเจ็บคอบ้างเหมือนเป็นหวัดทั่วไป บางคนก็ท้องเสียอาเจียนจนต้องเข้าแอดมิท(ค่อนข้างอันตรายจากไข้สูงพร้อมเสียน้ำอันจะนำไปสู่การชักได้)
ส่วนอาการแทรกซ้อนก็จะเป็นพวกไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบรวมไปถึงอาการปอดบวม อันนี้อันตรายมากกับเด็กเล็กจนถึงผู้สูงวัยหรือผู้มีโรคประจำตัว
cr.โรงพยาบาลไทยนครินทร์
การรักษาก็จะรักษาไปตามอาการ ผู้ป่วยอาการไม่มากก็กินยาแก้ไข้ เช็ดตัว กินยาต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ ส่วนที่อาการหนักก็จะให้ยาทางสายน้ำเกลือ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้ไข้สูงบวกกับเช็ดตัว ถ้ามีอาการไอก็พ่นยาร่วมด้วย
ถ้าอาการหนักกว่านั้นก็ตามแต่หมอจะจัดให้ล่ะครับ
แล้วมันต่างจากไข้เลือดออกตรงไหนล่ะ ไข้เลือดออกก็มีไข้สูง กินพาราก็ไม่ลดเหมือนกัน?
ตรงนี้สิครับสำคัญจริง
โดยมากจะพิจารณาด้วยการตรวจจากการเจาะเลือดเป็นที่ตั้ง แต่ส่วนตัวพอแยกออกได้คร่าวๆจากประสบการณ์ที่เป็นมาทั้ง2อย่างแล้ว
ไข้หวัดใหญ่โดยมากจะมีไข้สูง ปวดเมื่อยตามตัว ปวดหัวหนักๆ แต่พอได้ยาแล้วอาการจะลดลงอย่างรวดเร็วและหายได้ในเวลาไม่นาน เว้นแต่จะมีอาการแทรกซ้อนตามที่บอกไว้
ส่วนไข้เลือดออกจะนำมาก่อนด้วยอาการคล้ายเป็นหวัดธรรมดา แต่พอได้เวลาสัก2-3วันก็จะเริ่มมีไข้สูงติดต่อกันแบบกินพาราไข้ก็ไม่ลด อาเจียน กินอาหารไม่ได้ บางรายมีจุดเลือดออกที่ผิวหนังพอให้สังเกตได้ ถ้าถึงตอนนั้นควรแอดมิทครับเพราะอันตรายแล้ว หมอจะเจาะเลือดเพื่อตรวจนับเกล็ดเลือดดูค่าว่าต่ำเกินไปจนเป็นอันตรายหรือไม่ แล้วให้ยาตามอาการ แต่บางรายก็ทนไหวนะครับ เคยเจอว่าไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลก็มี
cr. โรงพยาบาลกระบี่นครินทร์
ข้อดีของการเป็นไข้เลือดออกแล้วคือจะไม่เป็นซ้ำในสายพันธุ์เดิมอีกนานเว้นแต่จะเป็นสายพันธุ์อื่น ส่วนตัวเป็นมาแล้ว2-3หน เหนื่อยมาก แต่ไข้หวัดใหญ่จะไม่เป็นซ้ำในสายพันธุ์เดิมในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นตามที่บอกไว้ข้างต้น
ทั้ง2โรคแตกต่างกันแต่เหมือนกันคืออันตรายต่อชีวิตทั้งคู่หากเกิดอาการแทรกซ้อนที่ไม่พึงประสงค์
ตอนนี้การป้องกันไข้หวัดใหญ่ทำได้คือเว้นจากการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ ไม่ก็ต้องป้องกันด้วยการใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ ใช้แอลกอฮอล์ฉีดพ่นล้างทำความสะอาดก็ดีครับ ส่วนไข้เลือดออกป้องกันด้วยการจัดการยุงพาหะนำโรคในบริเวณที่เราสงสัยด้วยยากำจัดแมลงต่างๆหรือใช้ทรายอะเบทกำจัดลูกน้ำซะจะได้หมดปัญหาไปเปลาะหนึ่ง
ในเรื่องวัคซีนป้องกันนั้นไข้หวัดใหญ่จะมีวัคซีนฉีดป้องกันอยู่แล้วแต่ต้องฉีดอยู่เรื่อยๆเพราะสายพันธุ์เปลี่ยนไปมา ส่วนไข้เลือดออกมีวัคซีนเหมือนกัน เห็นเชียร์ให้ฉีดกันบ่อยๆ
cr. google
กลับมาว่ากันต่อที่เรื่องโรงเรียนครับ
แฟนผมถามหมอว่าทำไมถึงไม่เหมือนตอนไข้เลือดออกล่ะ ตอนนั้นจำได้ว่าทางเขตติดต่อมาที่โรงเรียนเพื่อฉีดพ่นยาให้ ส่วนที่บ้านเนื่องจากไม่สะดวกกับไม่มีพื้นที่มากนักทางเขตได้แต่ให้ทรายอะเบทมาแทน
อ๋อ ไข้เลือดออกเป็นเรื่องใหญ่กว่าค่ะ อาการหนักกว่ามากและมันมาจากยุงกับสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัย เมื่อมีคนไข้เด็กเล็กแอดมิทด้วยโรคนี้ ทางโรงพยาบาลจะแจ้งไปทางเขตให้มาดูแลตามระเบียบปฏิบัติ ส่วนไข้หวัดใหญ่ไม่มีระเบียบปฏิบัติในเรื่องนี้ค่ะ
อ้อ เป็นงี้นี่เอง
...
ผู้ปกครองหลายคนคุยกันผ่านไลน์เพื่อสอบถามความเป็นไปต่างๆ เราจึงรู้ว่าไข้หวัดใหญ่ในโรงเรียนระบาดมานานพอสมควร เด็กขาดเรียนกันเยอะแต่น่าจะอาการไม่มาก พอได้รับยาอาการดีขึ้น ไม่กี่วันก็กลับมาเรียน
เดี๋ยว เธอ นี่มันยังไม่พ้นระยะแพร่เชื้อนี่นา
ใช่แล้วล่ะคุณ เด็กๆเลยแพร่เชื้อกันไปเรื่อยเพราะมาเรียนทั้งที่ยังแพร่เขื้อได้ เจ้าคนเล็กเลยแจ็คพอตเพราะไปเล่นกับคนเพิ่งหายป่วย เห็นว่าเป็นยกแก๊งค์เลย
ทำไมไม่พักให้พ้นระยะแพร่เชื้อล่ะ
อ้าว คุณ บางคนเขาต้องไปทำงานนอกบ้านนะ ไม่มีเวลามาดูแลมากนัก พอค่อยยังชั่วไปเรียนได้ก็ปล่อยไปเรียน ไม่งั้นใครจะดูแล
อย่างนี้เด็กๆก็ติดกันไปหมดสิ
ทำไงได้ล่ะคุณ นี่มีผู้ปกครองคนหนึ่งเป็นแม่เลี้ยงเดี๋ยวต้องทำงาน ปล่อยลูกอยู่บ้านคนเดียว กินยากินข้าวแล้วอาเจียนก็ต้องปล่อยไว้อย่างนั้น ดีที่อาการไม่มาก พออาการดีขึ้นก็ต้องกลับไปเรียนแล้ว
เอ้อเหอ
ฉันถึงบอกไงว่าไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก แต่จะหาใครมาข่วยกันล่ะ ขนาดเราทำงานอยู่บ้านคุณยังต้องเก็บร้านเร็วไปรับเจ้าคนโต แม่บ้านป่วยคุณก็ต้องวิ่งหาข้าวหาน้ำหยูกยามาให้อีก ฉันก็ต้องเฝ้าเจ้าคนเล็กที่โรงพยาบาล ไม่มีใครมาช่วยนะจ๊ะ อยู่กันเอง
ปัญหาโลกแตกจริง
ถึงจะไม่ชอบใจแต่ก็อดเห็นใจไม่ได้
ตัวใครตัวมันกันจริงยุคนี้
ไม่ต้องยุคนี้หรอก ยุคไหนๆก็เหมือนกัน เพียงแต่ยุคนี้เชื้อโรคเหมือนมันร้ายกาจกว่าแต่ก่อนน่ะ แต่ก็แปลกนะ หลายโรงเรียนเท่าที่ถามดูก็ไม่ระบาดนะ มีที่โรงเรียนลูกๆเรานี่ล่ะที่เยอะ
มันไม่เข้าใครออกใครหรอกเธอ ไม่เป็นน่ะดีแล้ว นึกถึงเมื่อก่อนฉันก็เป็น แต่เขาเรียกหวัด2009 จำได้ว่าไข้ขึ้นสูงเหมือนกัน ขับรถไปหาหมอ ได้ยามาก็กิน กินเสร็จขับรถกลับ ตาลายจนเกือบต้องจอดข้างทาง ดีที่ฝืนขับกลับมาไหว เช้ามายังต้องเปิดร้านทำงานอยู่เลย
ชีวิตคนจริงๆมันก็แบบนี้ล่ะคุณ
นั่นสิ
ไม่มีตัวแทน
ไม่มีสแตนด์อินจ้า
หึๆๆ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา