19 ก.พ. เวลา 15:39 • บันเทิง

ณเดชน์ 2024

ก่อนไปดูละครเวทีฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล 2024 ฉันเป็นบ้าคลั่งกับความเท่ของณเดชน์ในธี่หยด 2 มาแล้ว ซึ่งความจริงแล้วถ้าณเดชน์ไม่ประสบอุบัติเหตุจนทำให้การแสดงต้องเลื่อนออกไปอีกเป็นเดือนฉันจะต้องไปเจอณเดชน์ที่ละครเวทีก่อน สำหรับฉันมันเป็นเรื่องโชคดีมาก เพราะมันคือช่วงเวลาที่ “ชีวิตสู้กลับ” ฉันในจุดที่พีคที่สุดของปี ซึ่งผลลัพธ์การไปเจอพี่ยักษ์ก่อนไปเจอชารีฟเป็นการเรียงลำดับที่ถูกต้องมากกว่า เป็นการค่อย ๆ ดันบาร์ความคลั่งไคล้ณเดชน์จนมาปะทุที่โรงละครรัชดาลัย
ณเดชน์ในละครช่องสามสำหรับฉันไม่มีบทบาทไหนที่สร้างความประทับใจให้ฉันได้เลย ณเดชน์คือณเดชน์ แม้ความหล่อจะเป็นที่ประจักษ์ แต่...ไม่ได้รัก แม้แต่ในธี่หยดภาคแรกก็ยังไม่ได้รู้สึก ฉันดูธี่หยดเพราะเคยอ่านกระทู้นี้ในพันทิปมาก่อน แต่พออ่านไปจนถึงตอนล่าสุด (ขณะนั้น) และต้องรอเจ้าของกระทู้มาอัปเดตก็เลยไม่ได้ตามต่อ ตัวละครพี่ยักษ์ยังไม่โผล่มาด้วยซ้ำ พอเห็นว่าถูกนำมาทำเป็นภาพยนตร์แน่นอนว่าต้องดูเพราะอยากรู้ตอนจบของกระทู้ที่เคยอ่านไว้ค้างคาเมื่อสิบกว่าปีก่อน ไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่ามีณเดชน์ร่วมแสดงด้วย
แต่ในธี่หยด 2 ความเท่ ดิบ เถื่อน ของพี่ยักษ์เปล่งประกายมาก ยิ่งช่วงที่ไปล่าผีชุดดำที่ดงโขมดคือเท่...หาย แน่นอนว่าแฟนเพชรพระอุมาเห็นแล้วตาเป็นประกาย ซึ่งฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น ประโยคหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวทันที “ณเดชน์ในป่าเท่อย่างกับรพินทร์ ไพรวัลย์” แต่รพินทร์ ไพรวัลย์ ในจินตนาการของแฟนเพชรพระอุมาเป็นณเดชน์คงหล่อเกินไป แต่สำหรับฉันไม่ติดใจเลย เพราะพรานใหญ่ในใจฉันคือหล่อเท่ที่สุด จากคนที่เคยเฉย ๆ กับณเดชน์ตอนนี้เริ่มหวั่นไหว
แล้วก็มาถึง “วันที่เฝ้ารอ” ละครเวทีฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล 2024 ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองซื้อบัตรอะไรไป จนกระทั่งเดินเข้าไปนั่งในโรงละครเรียบร้อยแล้ว “เชี่ย! ใกล้มาก” นี่คือคำอุทานในหัวที่ไม่ได้พูดออกมา
สำหรับฉันความเชื่อมโยงกับฟ้าจรดทรายมีเพียงอย่างเดียวคือ...เพลง ในยูทูปมีเพลงจากละครเวทีฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล เวอร์ชั่นแรกลงไว้เต็มอัลบั้ม และยังคงอยู่มาจนบัดนี้ ถ้าพิไลแห่งกรงกรรมมีประโยคเด็ดว่า “กูรักของกูมาเป็นปี ๆ” ฉันก็มีเช่นกันว่า “กูร้องของกูมาเป็นสิบปี” ในเมื่อเป็นอย่างนั้นก็แล้วทำไมฟ้าจรดทรายกลับมารีสเตรจอีกครั้งฉันจะไม่ไปดูล่ะ?
ฉันไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าใครจะมารับบทเป็นชารีฟและมิเชล หรือตัวละครไหนก็ตาม แม้แต่ตอนที่เปิดตัวว่าณเดชน์จะมารับบทเป็นชารีฟก็ไม่ได้ตื่นเต้นอะไร ไม่เคยดูวีดีโอโปรโมทใด ๆ นักแสดงไปออกรายการไหนก็ไม่เคยดู ตั้งแต่มีบัตรแล้วก็ไม่ได้สนใจอะไรอีกเลย อาจเป็นเพราะช่วงนั้นถูกชีวิตสู้กลับจนไม่มีเวลาจะสนใจอะไรได้เลย จนกระทั่งได้ไปนั่งอยู่ในโรงละคร ได้เห็นณเดชน์ออกมาทำการแสดงแบบสด ๆ “เชี่ยยย!! หล่อมาก เท่มาก เก่ง...หายเลย”
ความรักณเดชน์ในบทพี่ยักษ์ปะทุเป็นภูเขาไฟระเบิดกับณเดชน์ในบทของชารีฟ เป็นครั้งแรกที่ณเดชน์เปล่งประกายที่สุดในใจฉัน เทียบเท่ากับพี่ติ๊กในบทของอโณทัย ซึ่งที่ตรงนั้นไม่เคยมี...ใครคนอื่น เป็นอีกครั้งที่ฉันแพ้ทุกทางให้กับบทบาทชายชาติทหารจากค่ายนี้
แต่พี่ติ๊กโชคดีกว่าตรงที่ผลงานแจ้งเกิดคือ 2499 อันธพาลครองเมือง ภาพจำแดง ไบเล่ มีความสำคัญตรงที่แม้แต่ชายแท้ก็มองพี่ติ๊กด้วยความชื่นชม ไม่ใช่แค่ละอ่อนหน้าหล่อ ถ้าณเดชน์แจ้งเกิดกับบทพี่ยักษ์ในธี่หยดเช่นกัน...คิดว่าคงมีคนรักเขามากกว่านี้ พวกผู้ชายจะมองเห็น และพูดถึงณเดชน์ในอีกแบบหนึ่ง เหมือนที่พี่ติ๊กได้รับ ทั้งที่แดง ไบเล่ เป็นครั้งเดียวที่พี่ติ๊กเล่นบทดิบเถื่อนขนาดนั้น แต่เป็นภาพจำตลอดกาล
หลังจากการไปดูละครเวทีฟ้าจรดทราย และฟังเพลงซ้ำไปซ้ำมาเกินสิบรอบ ดูคลิปในยูทูปเท่าที่พอจะหาได้แล้ว ฉันลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าคุณบอยตัดสินใจรีสเตรจฟ้าจรดทรายเร็วกว่านี้...ชารีฟอาจจะเป็นคนอื่นหรือไม่?
ถ้าพี่บี้ยังโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิง อาจจะเป็นพี่บี้หรือไม่? ทั้งหน้าตาและความสามารถ ความคุ้นเคยและเป็น “คนของเรา” หรือถ้าพี่ซีออกจากช่องเจ็ด แต่ยังเอาดีด้านงานแสดง ก็อาจจะเป็นพี่ซีได้หรือไม่? ด้วยเหตุผลที่คล้ายกันกับพี่บี้ ทั้งหน้าตาและความสามารถ ซึ่งรวมถึงความสามารถด้านการร้องเพลงด้วย ถึงจะไม่คุ้นเคยและไม่ใช่ “คนของเรา” เหมือนพี่บี้ แต่คิดว่าก็คงจะง่ายกว่าการไปขอยืมตัวพระเอกเบอร์ต้นของช่องสามมาอย่างแน่นอน
แต่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามฉันก็คิดว่าอย่างไรฉันก็ซื้อตั๋วเข้าไปชมอยู่ดี แต่จะทำให้ฉันกลับไปดูซ้ำเหมือนที่ณเดชน์ทำได้หรือไม่นั้นฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน
การแสดงและการร้องเพลงของณเดชน์ดีมากแบบเกินมาตรฐาน แต่ที่สำคัญคือการใช้ภาษากายของณเดชน์ที่มันชัดเจนมากแม้คุณจะอยู่ไกลก็ยังรับรู้ได้ ทั้งอาการยั่วโมโห อาการอ้อนวอนขอร้องแบบผู้ตกเป็นเบี้ยล่าง และการแสดงความรัก แต่ถ้านั่งใกล้...โบนัสคือได้เห็นการแสดงผ่านสีหน้าและแววตาประกอบด้วย
ความประทับใจอีกอย่างหนึ่งคือฉากแอคชั่น ณเดชน์ที่ยืนอยู่เฉย ๆ ก็หล่อจะตายอยู่แล้ว แต่ณเดชน์ที่ฟันดาบไปด้วยร้องเพลงไปด้วยคือโคตรเท่! เท่...หายเลย!!
และสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือฉาก love scene โอ้มายก๊อดดด...! มันไม่ใช่แค่การที่ณเดชน์ถอดเสื้อหรอกนะ แต่มันคือทุกอย่างที่ประกอบกันขึ้นมาทำให้การถอดเสื้อของณเดชน์มันตราตรึงใจ ทั้งการแสดง และเสียงร้องของณเดชน์และแก้ม ทั้งดนตรี และเพลง ทั้งผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการออกแบบฉากนี้ โดยเฉพาะงาน lighting แสงไฟที่อาบไล้ไปบนเรือนร่างกำยำของณเดชน์ ช่างงดงามดั่งประติมากรรมชิ้นเอก มิอาจถอดถอนสายตาได้แม้เพียงเสี้ยววินาที
ปีนี้เป็นปีทองของณเดชน์ไหม? และณเดชน์วางฟ้าจรดทรายไว้เป็นผลงานชิ้นเอกหรือไม่? คงต้องไปถามเจ้าตัว แต่สำหรับฉัน ผลงานของณเดชน์ในปีนี้ทั้งธี่หยด 2 และโดยเฉพาะฟ้าจรดทราย เดอะมิวสิคัล 2024 ทำให้ฉันตกหลุมรักผู้ชายคนนี้ ยอมรับเลยว่าไม่ได้มีดีแค่หล่อ แต่เก่ง เก่งจริง ๆ พูดได้เลยว่าในนาทีนี้ณเดชน์คือเป็นเบอร์ 1
งานทั้งสามชิ้นของณเดชน์ในปีนี้น่าสนใจทุกงาน ทั้งงานแสดงภาพยนตร์ในบทบาทที่ไม่เคยมีมาก่อนในละครช่องสาม งานแสดงละครเวทีแบบมิวสิคัล และงานส่งท้ายปี งานพากย์เสียงภาพยนตร์ พร้อมการร้องเพลง เป็นปีที่รับงานได้ดี แตกต่าง ท้าทาย หลากหลาย ซึ่งณเดชน์ก็ทำผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยม
ฉันหวังว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าณเดชน์จะเป็นผู้ชายที่ “ไร้พันธนาการ” รับงานได้โดยไร้ข้อจำกัดเรื่องสังกัด เพื่อสร้างสรรค์ผลงานมาสเตอร์พีซชิ้นต่อ ๆ ไป คงมีใครหลายคนรอวันนั้นที่จะได้ร่วมงานกับคนเก่งอย่างณเดชน์ยาวเป็นหางว่าว ช่องสามอาจเคยมีวันที่รุ่งโรจน์ แต่มันกำลังจะจบลง กลับกันณเดชน์ยังคง และยังสามารถ โชติช่วงได้มากกว่านี้
เป็นการเขียนรอบสองที่โละงานเก่าทิ้งทั้งก้อน เหตุผลผลคือบทความนั้นอวยยศณเดชน์น้อยเกินไป ไม่สาแก่ใจ ฮ่า

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา