เมื่อวาน เวลา 14:59 • ความคิดเห็น
วิธีที่จะรับมือ กับอารมณ์ความรู้สึก อารมณ์ที่เราตื่นขึ้นมา ใช้กายวาจาใจ ด้วออารมณ์ อีกทั้งมีวิญญาณทั้งหก ที่ติดตามกาย .กายเคลื่อนที่ไปสถานทีใด เช่น.สถานที่อโคจร วิญญาณทั้งหกก็ไป”ปด้วย พาตาไปดูไปเห็น หูได้ยินเสียง บางก็เกิดความรสึกหงุดหงิด ไม่ขอบใจ .
เราไม่รู้จักเลยว่า ..สิ่งที่เรานนำพา วิญญาณทั้งหก ..ไปเหมือนคลุกโคลนตม มีของเสียเป็นพิษ แล่นเข้ามาเกาะกลางถนนอยู่ที่วิ่ญญาณทั่งหก ที่ว่า ตาบันทึกภาพ หูบันทึกเสียง ก็เก็บเจ้ามาในจิตในกาย เหมือนฝุ่นผงละอองทีตกลงไป ในกาย ทำอย่างนี้เรื่อยๆ ทั้งกายทั้งจิต ก็จะหนัก จิตนั้นอาศัยภายกาย ก็เหมือนแบกของหนัก .แบกเสรแบกกรรม ที่ฝุนนั้นตกลงมาในกาย
เรื่องจิตกับอารมณ์นั้น จิตของเราอ่อนแอ ต่ออารมณ์ พออารมณ์สั่งปุ๊บ .เช่น ไม่พอใจ ปุ๊บ จิตก็ร้อนปั๊บ สะเทือนไปที่ธาตุทั้งสี่ อารมณ์ไม่พอใจ ..ที่เคยสะสมมา ก็ไหลมาช่วย ..ส่งเสริม ให้หงุดหงิดโมโห เหมือนถูกไฟเผา ต้นต่อก็มาจากการใช้กายเคลื่อนที่ไป .ไปสัมผัส ไปยึดของร้อน เข้ามา จิตก็เลยร้อนไปตามอารมณ์ที่เกิดขึ้น
แล้วเรื่องราวที่จะช่วยเหลือจิตใก้มีกำลัง เข้มแข็งต่ออารมณ์ เค้าบอกว่า ให้หมั่นสร้างบุญกุศเมื่อกายมีบุญ ก็หมั่นนำกายเข้ามา ฝึกหัดมปฏิบัติธรรมขึ้น เพื่อให้เกิดสติสัมปชัญญะขึ้นมา เมื่อจิตมีความเข้มแข็งขึ้น จิตก็จะไม่มีความหวั่นไหว เหมือนตั้งขึ้นไปเสา .คลื่นลมความคิดมากระแทก มาปรุงแต่ง จิตก็เข้มแข็งต่ออารมณ์นึกคิด เหมือนเสาที่ปักลงดิน คลื่นลมอะไรมาซัด เสานั้นก็ไม่เอนเอียงไปตามคลื่นของอารมณ์
หรือจะเปรียบเทียบกายนี้เป็นเหมือนเรือ เจอเจอคลื่นแห่งอารมณ์ อารมณ์ความรู้สึกนึกคิด ก็เป็นเหมือนคลื่น พอคลื่นมา..คลื่นเล็กคลื่นน้อยๆ ก็เมาคลื่นลม เมาเรือที่โคลงเคลง ไม่สามารถจะพายเรือได้ มันก็เรือปล่อยเรือไปตามคลื่น คิดเรื่องนั้นเรื่องนี้ ..ไม่หนุดหย่อน ..เมาคลื่นลม .ไปเรื่อย จิตก็นอนมึนเมาอยู่ในลำเรือ
โฆษณา