9 มี.ค. เวลา 07:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
🎯[สรุป] RJH : OPPDAY, MD&A : Year-End 2024
📌พร้อมงบการเงินย้อนหลัง 8 ปี และ 12 ไตรมาส
🏢บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) : [RJH]
🟩โรงพยาบาลในเครือบริษัท ‘RJH’ ณ ปัจจุบัน
🏥 โรงพยาบาลราชธานี : จำนวนเตียงจดทะเบียน 253 เตียง (อ.พระนครศรีอยุธยา จ.อยุธยา)
🏥 โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ : จำนวนเตียงจดทะเบียน 100 เตียง (อ.บางปะอิน จ.อยุธยา)
🏥 โรงพยาบาลรังสีรักษาราชธานี : จำนวนเตียงจดทะเบียน 5 เตียง (อ.บางปะอิน จ.อยุธยา)
🏥 โรงพยาบาลราชธานี หนองแค : 134 เตียง (อ.หนองแค จ.สระบุรี)
🏥 โรงพยาบาลราชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล : อยู่ระหว่างการพัฒนา (ร่มเกล้า กรุงเทพฯ)
🏥 โรงพยาบาลราชธานี ศรีราชา อยู่ระหว่างการพัฒนา (อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี)
🟩งบกำไร-ขาดทุน ไตรมาสที่ 4/2024 (เปรียบเทียบ YoY)
📈รายได้จากกิจการโรงพยาบาล : 617 ล้านบาท (ลดลง 1% YoY) ทรงตัวเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แต่ลดลง 22% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ก่อนหน้า (QoQ) เนื่องจากรายได้ฝั่งประกันสังคมลดลงเยอะมาก เพราะรัฐปรับอัตราการจ่ายจากเดิมผู้ประกันตนรายละ 12,000 บาท เหลือเพียงรายละ 8,000 บาทต่อปี ส่วนรายได้จากผู้ป่วยใน (IPD) เพิ่มขึ้น 11% (YoY) คิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อวันนอน 19,600 บาท
📈ต้นทุนในการประกอบกิจการโรงพยาบาล : 518 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 22% YoY) มีต้นทุนต่อรายได้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากรายได้จากประกันสังคมลดลง
📈ค่าใช้จ่ายในการบริหาร : 116 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 57% YoY) เนื่องจากมีการตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญ 10 ล้านบาท และการปรับปรุงรายได้ทางบัญชีจากประกันสังคมในไตรมาสก่อนหน้าอีก 56 ล้านบาท (หากไม่นับผลกระทบจากสองเรื่องดังกล่าวนั้นตัวเลขก็ออกมาปกติ พอๆกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว)
📈กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา : 30 ล้านบาท (ลดลง 77% YoY) ลดลงไปเยอะมาก จากผลกระทบรายได้ประกันสังคมที่ลดลง และค่าใช้จ่ายการปรับปรุงรายได้ประกันสังคมในไตรมาสก่อนหน้า
📈ต้นทุนทางการเงิน : 14 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 29% YoY) ดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากการกู้ยืมเงินเพื่อลงทุนในโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง
📈กำไรสุทธิ : 38 ล้านบาท (ลดลง 61% YoY) มีการลงทุนเพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) จึงรับรู้รายได้ส่วนนี้เข้ามา 60 ล้านบาท ทำให้รอดการขาดทุนไปได้ในไตรมาสนี้
🟩งบกำไร-ขาดทุน ณ สิ้นปี 2024 (เปรียบเทียบเต็มปี YoY)
📈รายได้จากกิจการโรงพยาบาล : 2,739 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17% YoY) เนื่องจากรวมรายได้ประกันสังคมทั้งปีอยู่ที่ 1,302 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 24% รายได้จากทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในก็เพิ่มขึ้น รายได้ผู้ป่วยนอกต่อหัวประมาณ 2,300 บาท
🔹อัตราส่วนระหว่างรายได้ผู้ป่วยทั่วไปต่อรายได้ผู้ป่วยประกันสังคมอยู่ที่ 48 : 52
🔹อัตราส่วนรายได้ผู้ป่วยใน (IPD) ต่อรายได้ผู้ป่วยนอก (OPD) อยู่ที่ 51 : 49
📈ต้นทุนในการประกอบกิจการโรงพยาบาล : 1,897 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 17% YoY)
📈ค่าใช้จ่ายในการบริหาร : 345 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 55% YoY)
📈กำไรก่อนดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา : 675 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3% YoY)
📈ต้นทุนทางการเงิน : 53 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 57% YoY)
📈กำไรสุทธิ : 482 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 16% YoY) อัตรากำไรสุทธิ (NPM) 17.40% ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
📈สินทรัพย์รวม : 4,400 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 9% YoY) ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของที่ดิน อาคาร และอุปกรณ์ เนื่องจากการลงทุนเปิดโรงพยาบาลใหม่ 2 แห่ง คือ โรงพยาบาลรังสีรักษาราชธานี (อ.บางปะอิน จ.อยุธยา) และโรงพยาบาลราชธานี หนองแค (อ.หนองแค จ.สระบุรี) รวมถึงเงินสดลดลงเยอะจากการซื้อหุ้นคืน เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2024 เป็นจำนวน 6.5 ล้านหุ้น
📈หนี้สินรวม : 2,071 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 23% YoY) ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อลงทุนในการขยายกิจการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่
🔹ปัจจุบันโรงพยาบาลในเครือ ‘RJH’ มีเตียงจดทะเบียนรวมกันทั้งหมด 433 เตียง (อัตราการครองเตียงประมาณ 60%) ปี 2024 มีคนไข้มานอนลดลง แต่รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 60,000 บาทต่อครั้ง และมีอัตราการใช้งานห้องตรวจสำหรับผู้ป่วยนอกประมาณ 70%
🟩“Opportunity Day : การตอบคำถามและความเห็นจากผู้บริหารล่าสุด”
🔹จากงบกำไร-ขาดทุน ปี 2024 นั้นได้รับผลกระทบจากการปรับอัตราจ่ายของประกันสังคมและการตั้งสำรองหนี้สูญเกือบ 100 ล้านบาท แต่สุดท้ายในภาพรวมทั้งปีเราก็ยังสามารถเติบโตได้มากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
🔹โรงพยาบาลราชธานี หนองแค (อ.หนองแค จ.สระบุรี) เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2024 ณ ปัจจุบันมีคนไข้เข้ามาเฉลี่ยวันละ 180 คน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจ ตอนนี้ได้เปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือดมาแล้วเพียง 1 เดือน ก็มีคนไข้มาใช้บริการ 15 ราย ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ทำให้รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นมาก เพราะการรักษาในศูนย์หัวใจมีค่าใช้จ่ายสูง
🔹โรงพยาบาลราชธานี หนองแค (อ.หนองแค จ.สระบุรี) คาดว่าจะถึงจุดคุ้มทุนภายใน 2 ปีนับจากนี้ เราเพิ่งได้ AIA มาเป็นคู่สัญญากับโรงพยาบาล ซึ่งโชคดีมากเพราะปัจจุบัน AIA ไม่ค่อยเพิ่มโรงพยาบาลคู่สัญญาใหม่แล้ว เนื่องจากมีอยู่กว่า 180 แห่งแล้วที่ AIA เป็นคู่สัญญา
ตอนนี้ผู้ประกันตนที่หนองแคก็ถือประกัน AIA เป็นสัดส่วนกว่า 60-70% ส่วนเรื่องค่าเสื่อมราคาที่หนองแค ตกเดือนละ 5 ล้านบาท (อาคารตัดค่าเสื่อม 50 ปี / เครื่องมือแพทย์ตัดค่าเสื่อม 10 ปี) ในไตรมาสที่ 4/2024 ขาดทุน 40 ล้านบาท และ ‘Solar Rooftop’ ซึ่งติดตั้งที่ลานจอดรถก็เสร็จแล้ว จากนี้ค่าไฟฟ้าก็จะลดลง
🔹ประเด็นความกังวลที่คนไข้ประกันสังคมอาจลดลงเนื่องจากการย้ายฐานการผลิตของโรงงาน ‘Honda’ ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ (อยุธยา) ไปยังปราจีนบุรี อาจทำให้คนงานในโรงงานซึ่งเป็นผู้ประกันตนหลักกับ ‘RJH’ ลดลงนั้น ไม่มีอะไรน่ากังวล ผู้ประกันตนของโรงพยาบาลเราเพิ่มขึ้นตลอด ไม่ได้ลดลง เพราะ ‘Honda’ เขาไม่ได้ปิดโรงงาน (เปลี่ยนไลน์การผลิตเฉยๆ)
คนงานส่วนใหญ่ไม่อยากย้ายไปทำงานที่ปราจีนบุรีเพราะลงหลักปักฐานระยะยาวในพื้นที่ก็หางานใหม่ได้แล้ว และยังมีโรงงานจากประเทศจีนเข้ามาเปิดใหม่เพิ่มเติมภายในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะอีก เรื่องนี้ไม่มีปัญหา ไม่มีอะไรน่ากังวล
🔹ประเด็นเรื่องประกันสังคมกับการผ่าตัดกระเพาะ (โรคอ้วน) คาดการณ์ว่าช่วงกลางเดือนเมษายน 2025 รัฐจะผ่อนคลายกฎเกณฑ์ลง ซึ่งจะส่งผลในเชิงบวก ในระหว่างนี้เราก็พยายามผลักดันคนไข้ที่ไม่อยากรอ ให้ไปใช้สิทธิจ่ายเงินสดแทน และเราก็ทำได้ดี ตัวเลขเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเป็นที่น่าพอใจ
🔹ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 4/2024 ถือเป็นจุดต่ำสุดแล้ว เราคาดว่าปี 2025 ประกันสังคมจะจ่ายที่ 12,000 บาท ต่อหัวต่อปี และไม่น่าจะมีผลกระทบต่อในปีนี้
🔹‘RJH’ นั้นค่ารักษาพยาบาลเราถูกกว่าที่อื่นพอสมควร ค่ายาเราถูกที่สุด เบิกประกัน AIA ไม่เคยมีปัญหา กำลังซื้อที่อยุธยาไม่ได้ดีเท่าที่กรุงเทพฯ เราจึงมุ่งเน้นเคสที่มีการทำหัตถการ ส่วนผลกระทบเรื่องประกันสุขภาพแบบ ‘Co-Payment’ หากคนไข้ต้องจ่ายค่ารักษาเองอัตรา 30% แล้วเราคำนวณจากค่าเฉลี่ยของ ‘RJH’ ก็จะตกอยู่ที่ประมาณ 3,000 บาทต่อการเข้าเป็นผู้ป่วยใน 1 ครั้ง เราคาดการณ์ว่าคนไข้ในอยุธยายังมีกำลังจ่าย ผู้ป่วยเงินสดนั้นค่าใช้จ่ายต่อหัวเราไม่แพง
🔹โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ (อ.บางปะอิน จ.อยุธยา) ตอนนี้ยังมีรายได้จากการรักษา Covid-19 ทยอยเข้ามา ที่นี่มีหมอกระดูกเก่ง มีเคสผ่ากระดูกสันหลัง ทำกำไรได้มากขึ้น และมีเคสผ่าตัดตา ผ่าต้อกระจกมากขึ้น มีศูนย์วิทยุอุบัติเหตุ โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ จ่ายเงินปันผลให้ ‘RJH’ ทุกปี และมีกำไรสะสมประมาณ 200 กว่าล้านบาท
🔹โรงพยาบาลราชธานี หนองแค (อ.หนองแค จ.สระบุรี) ตอนนี้ยังไม่เปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ มีเตียงจดทะเบียน 100 เตียง แต่ปัจจุบันเปิดให้บริการแค่ชั้นที่ 5 จำนวน 31 เตียง เราจะไม่เสียค่าใช้จ่ายจ้างคนเพิ่มเพื่อรอคนไข้ จุดประสงค์เพื่อควบคุมค่าใช้จ่าย หากอนาคตมีคนไข้เข้ามาเพิ่มจึงค่อยขยายเพิ่ม
ตอนนี้เราได้เปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือด เปิด ‘ICU’ 8 เตียง เฉลี่ยตอนนี้มีคนไข้ 4 เตียงต่อวัน สร้างรายได้ดีมาก เริ่มรับสิทธิประกันสังคมและตรวจสุขภาพประจำปี ตอนนี้มีผู้ประกันตนประมาณ 8,000 คน ย้ายได้ตลอดปี ในเดือนมีนาคมนี้เราพยายามดันยอดผู้ประกันตนให้เพิ่มขึ้นอย่างเต็มที่ โรงงานต่างๆอำนวยความสะดวกให้เราเข้าไปตั้งโต๊ะบริการคนงานได้ถึงภายในโรงงานเลย
🔹โรงพยาบาลราชธานี หนองแค (อ.หนองแค จ.สระบุรี) การกู้เงินจากสถาบันการเงินครบแล้ว ไม่มีการกู้เงินเพิ่มอีกแล้ว ปัจจุบันมีต้นทุนคงที่เดือนละ 10 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าจ้างบุคลากร 5 ล้านบาท ค่าเสื่อมราคา 5 ล้านบาท ต่อเดือน การเติบโตของรายได้กำลังอยู่ในอัตราเร่ง เรื่องการหาแพทย์และพยาบาลก็ไม่มีปัญหา หาบุคลากรไม่ยาก เรามีบุคลากรครบทุกแผนก
🔹โรงพยาบาลราชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล (ร่มเกล้า กรุงเทพฯ) อยู่ระหว่างการรอประกาศใช้ผังเมืองใหม่ของกรุงเทพฯ ต้องรอประเมินสถานการณ์ที่เราได้ประโยชน์จากผังเมืองก่อน
🔹โรงพยาบาลราชธานี ศรีราชา (อ.บ่อวิน จ.ชลบุรี) อยู่ระหว่างการปรับแบบแปลน
🔹หากต้องเลือกระหว่างร่มเกล้ากับบ่อวิน เราจะสร้างที่ ‘บ่อวิน’ ก่อน ทั้งนี้ปัจจุบันเรามุ่งเน้นไปที่โรงพยาบาลราชธานี หนองแค (อ.หนองแค จ.สระบุรี) เพื่อให้ทำกำไรได้รวดเร็วมากที่สุดก่อน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 2 ปีนับจากนี้ หากเป็นไปได้อยากให้กำไรปี 2025 นี้เลย แล้วเราค่อยไปว่ากันเรื่องโรงพยาบาลใหม่ที่ร่มเกล้าและชลบุรี
🔹‘RJH’ ปี 2025 นี้ยังเหลือสิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) อีก 60 กว่าล้านบาท ไม่ต้องบริจาคเพิ่ม เงินบริจาค 66 ล้านบาทที่ผ่านมา ได้รับการบันทึกแล้ว ได้สิทธิประโยชน์แล้ว
🔹โรงพยาบาลรังสีรักษาราชธานี (อ.บางปะอิน จ.อยุธยา) รับผู้ป่วยได้ทุกสิทธิ เปิดให้บริการได้เพียง 1 ปี ตอนนี้รับรู้กำไรแล้ว เริ่มตัดค่าเสื่อมราคาแล้ว (ตัดค่าเสื่อม 15 ปี) โดยเมื่อเดือนมกราคม 2025 ที่ผ่านมาเริ่มรับสิทธิ สปสช. แล้วซึ่งผู้ป่วยกลุ่มนี้มีเยอะมาก เดือนกุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา ‘EBITDA’ เป็นบวกแล้ว และเดือนมีนาคม 2025 จะมีกำไรลงบรรทัดสุดท้ายเลย ปัจจุบันนี้ยังขาดทุนสะสมประมาณ 10 ล้านบาท หากรายได้เป็นเช่นนี้ก็สามารถล้างขาดทุนสะสมได้ภายในปีนี้เลย ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี (BOI) 8 ปี
🔹‘RJH’ ผู้ประกันตนสิทธิประกันสังคมใน จ.อยุธยามากกว่า 60% อยู่ที่เรา ตอนนี้ไม่มีความกังวลอะไรเป็นพิเศษ เพราะเจอทุกสถานการณ์มาหมดแล้วในอดีต หากจำเป็นต้องกังวลก็เป็นเรื่องปัจจัยภายนอกซึ่งเราควบคุมไม่ได้ เช่น นโยบายภาครัฐ เราควบคุมไม่ได้
🔹‘RJH’ ตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2025 นี้อยู่ที่ 5% จากการคาดการณ์คนไข้เงินสดที่เพิ่มขึ้นและประกันสังคมที่ไม่น่าจะทำแบบปีที่ผ่านมาอีกแล้ว รวมถึงมีการตั้งเป้าหมายสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยเงินสด 60% สิทธิประกันสังคม 40%
🔹‘RJH’ ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1/2025 ปีนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว คงไม่ได้ลดลง ทั้งๆที่ไม่มีเคสผ่าตัดกระเพาะ เพราะเราผลักดันให้คนไข้พิจารณาย้ายมาจ่ายเงินสดแทนได้ ปัจจุบันมีแพทย์ผ่าตัดกระเพาะ 3 คน
🔹‘RJH’ ส่วนใหญ่รายได้จากการตรวจสุขภาพประจำปีจากคนงานในโรงงานจะอยู่ที่ไตรมาสที่ 3 และตอนนี้เราได้ใบอนุญาตตรวจสุขภาพแรงงานต่างด้าวแล้ว
🔹‘RJH’ สิทธิประกันสังคม เราให้บริการผู้ป่วยตามมาตรฐาน ไม่ใช่ตามความคาดหวัง ไม่เช่นนั้นโรงพยาบาลจะมีค่าใช้จ่ายสูง เราให้บริการรวดเร็ว ใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการ เฉลี่ยมีผู้ป่วยนอก (OPD) ประมาณ 1,400 คนต่อวัน เข้ามาสังเกตได้เลยว่า ช่วงเช้า 8 โมง คนจะแน่น แต่ไม่เกินบ่าย 2 โมงเราเคลียร์คนได้หมด ส่วนเรื่องร้องเรียนมีน้อยมาก ใน 1 ปีมีไม่เกิน 10 ราย
🔹‘RJH’ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ‘THG’ ขายหุ้น ‘RJH’ ออกหมดแล้ว ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นเราแล้ว ส่วน ‘FIL LIMITED’ ที่มาเข้าซื้อหุ้น เราไม่รู้จัก
🔹ความร่วมมือระหว่าง ‘RJH’ และ ‘โรงพยาบาลวิภาราม’ จะเป็นการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ร่วมกัน แบ่งปันองค์ความรู้ทางการแพทย์ ข้อมูลข่าวสารเชิงการบริหาร การติดต่อประกันภัยต่างๆ
🔹‘RJH’ ปัจจุบันไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการจ่ายเงินปันผล เหตุที่เราประกาศจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นน้อยลง เพราะไตรมาสที่ 4 /2024 รายได้เราลดลง หากสถานการณ์ในอนาคตกลับสู่ภาวะปกติก็กลับไปจ่ายปันผลเหมือนเดิม ในปี 2025 นี้คิดว่าเราสามารถจ่ายเงินปันผลได้ไม่น้อยกว่าเดิมแน่นอน หากประกันสังคมไม่ทำแบบปีที่แล้ว
🔹ศูนย์โรคอ้วนใน จ.อยุธยา ปัจจุบันมีแค่ 2 แห่ง คือที่โรงพยาบาลราชธานี และโรงพยาบาลราชธานี โรจนะ
🔹‘RJH’ โครงการซื้อหุ้นคืนในปี 2025 นี้ ก็ต้องรอไปอีก 3 ปีจึงตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากราคาดี มีกำไร ก็ขายคืนตลาด หากขาดทุนก็ค่อยมาว่ากันอีกที
🔹ไม่ได้กังวลเรื่องสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ‘RJH’ มีค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลไม่แพง ปัจจุบันนี้เทรนด์มันเปลี่ยนไป เดี๋ยวนี้คนไข้ส่วนใหญ่มีประกันสุขภาพกันเยอะแล้ว ไม่มีปัญหา รายได้จากประกันสังคมเหมาจ่ายรายหัวเข้ามาไตรมาสละเกือบ 100 ล้านบาท ส่วนเรื่องคนไข้ต่างชาติตอนนี้มีโรงงานจีนในพื้นที่เพิ่มขึ้น ก็มีชาวจีนมาใช้บริการเรามากขึ้น อนาคตอาจต้องหาประชาสัมพันธ์ที่สามารถพูดภาษาจีนได้มาทำงาน ตอนนี้มีแต่ประชาสัมพันธ์ภาษาญี่ปุ่น ธุรกิจยังไปได้ดี ไม่มีอะไรน่ากังวล อัตรากำไรน่าจะมากขึ้นกว่าปีที่แล้ว
🟩“ข้อมูลเพิ่มเติม”
🔹มีการตัดหุ้นที่ซื้อคืนและลดทุน เนื่องจากโครงการซื้อหุ้นคืนเมื่อปี 2021 จำนวน 630,500 หุ้น และตัดหุ้นที่ซื้อคืนดังกล่าวพร้อมลดทุนชำระแล้ว คิดเป็น 0.21% ของทุนชำระแล้วก่อนลดทุน ส่งผลให้ปัจจุบันจากหุ้นชำระแล้วทั้งหมด 300 ล้านหุ้น คงเหลือ 299.37 ล้านหุ้น (โครงการเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ไม่ใช่โครงการล่าสุดในปี 2024)
🔹ครอบครัวประสิทธิ์หิรัญ (ผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้บริหาร) เข้าซื้อหุ้น ‘RJH’ เพิ่มในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเป็นจำนวนประมาณ 2.1 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 43 ล้านบาท
🔹นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องประกันสังคมและค่าเสื่อมราคาจากการเร่งเปิดโรงพยาบาลใหม่ กลายเป็นความเสี่ยงหลัก
🔹ประกาศจ่ายเงินปันผล 0.20 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 1.27% จากราคาหุ้น ณ วันที่ 07/03/2025 (15.70 บาท/หุ้น) Payout Ratio 34%
🔹ผู้ถือหุ้นใหญ่
ครอบครัวประสิทธิ์หิรัญ : 25% (กรรมการผู้จัดการ, กรรมการ)
กองทุนรวมไทย : 10%
โรงพยาบาลวิภาราม : 8%
นักลงทุนต่างชาติ : 4%
BBHISL NOMINEES LIMITED : 3%
ครอบครัววุฒิกุลประพันธ์ : 3% (กรรมการ)
ครอบครัวศรีโภชน์สมบูรณ์ : 3% (กรรมการ)
RJH : 2%
...
🔹XD : 10/03/2025 [จ่ายเงินปันผล : 30/04/2025]
🔹XM : 10/03/2025 [ประชุมสามัญประจำปี : 04/04/2025 : Onsite]
🟩‘RJH’ หากไม่นับช่วงสถานการณ์ ‘Covid-19’ ที่มีรายได้เพิ่มกระฉูดแบบไม่ปกติ ก็ยังถือว่ามีทั้งรายได้ กำไรขั้นต้น กำไรจากการดำเนินงาน และกำไรสุทธิ ตลอดช่วง 8 ปีย้อนหลังที่ผ่านมา เติบโตเฉลี่ยมากกว่า 10% ต่อปี (ตามภาพประกอบ) โดยเฉพาะกำไรสุทธินั้นเติบโตเฉลี่ยถึง 15% ต่อปี!! ยอดเยี่ยมไปเลยใช่ไหมล่ะ
🟩อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) เฉลี่ยสูงกว่า 30% อัตรากำไรสุทธิ (NPM) เฉลี่ยเกือบ 20% สม่ำเสมอมาโดยตลอด สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมโรงพยาบาลโดยทั่วไป
🟩กำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) เติบโตเฉลี่ย 8 ปีย้อนหลัง ถึง 13% ต่อปี!! นี่ก็ไม่ธรรมดา หายากในตลาดหุ้นไทยโดยเฉพาะอุตสาหกรรมทางการแพทย์ตอนนี้
🟩เงินปันผลก็ยังเติบโตเฉลี่ย 8 ปีย้อนหลัง ถึง 7% ต่อปี อาจลดลงในช่วงนี้เพราะมีโครงการลงทุนที่ต้องใช้เงินเยอะและได้รับผลกระทบจากประกันสังคม แต่ก็ไม่แย่
🟩“ส่วนราคาหุ้นนั้น คงไม่ต้องพูดถึง อย่างที่เรารู้กัน เจ็บหนักกันระนาว” โดยทั่วไปนักลงทุนคงทราบกันดีว่าหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลค่อนข้างปลอดภัยตามแนวคิดการลงทุนทั่วไป อุตสาหกรรมทางการแพทย์อยู่ในแนวโน้มเติบโตตามกระแสหลัก มีรายได้ประจำสม่ำเสมอ แต่อนาคตเป็นสิ่งที่ไม่มีใครคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง ‘RJH’ นั้นหากทุกอย่างเป็นไปตามที่ผู้บริหารกล่าวและกำลังลงมือทำในตอนนี้ อนาคตก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตได้อีกไกล
แต่ระหว่างทางคงมีอุปสรรคกดดันทั้งด้านธุรกิจและราคาหุ้นในตลาดอยู่บ้าง โดยเฉพาะเรื่องประกันสังคมและการสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ที่เป็นความเสี่ยงและความกังวลหลักของตลาด
แต่ราคาหุ้นในตอนนี้ก็นะ พิจารณากันเองครับ (อาจเข้ากลยุทธ์การลงทุนแบบดันโด อดทนรอคอยวันที่ตลาดเป็นใจและยอมรับในศักยภาพการเติบโต) P/E ตอนนี้ต่ำไปหรือเปล่า? อนาคตเราอาจคาดหวังได้สองทาง ทั้งผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ และการปรับ P/E ของตลาด
⚠️การลงทุนมีความเสี่ยง (โดยเฉพาะตลาดหุ้นไทย🤣) บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาแนะนำ ชักชวน เพื่อให้เกิดธุรกรรมการซื้อขายหลักทรัพย์ หรือสินทรัพย์ทางการเงินใดๆทั้งสิ้น นักลงทุนควรตัดสินใจด้วยตนเอง รับความเสี่ยงด้วยตนเอง ทั้งนี้เนื้อหาในบทความมีอคติอยู่เป็นจำนวนมาก ควรวิเคราะห์ด้วยตนเอง เพราะแอดมินมีหุ้น ฮ่าๆ 🤣
ขอให้มีความสุขกับการลงทุน ในทุกๆวันนะครับ 🙂
โฆษณา