Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
กุ้ยหลิน
•
ติดตาม
10 มี.ค. เวลา 10:10 • ประวัติศาสตร์
ขุนโจรเหลียงซาน 220 ปราชัยไสยเวท
สว่อเชา จางชิงซึ่งตั้งประชิดเมืองอยู่ที่ประตูทิศใต้ออกมาต้อนรับซ่งเจียงแล้วสมทบทัพเข้าด้วยกัน แล้วโบกธงรัวกลองศึกยกเข้าตีเมืองเจาเต๋อ
เฉียวเต้าชิงเพิ่งเข้าเมืองเจาเต๋อพบกับพวกซุนฉีขุนพลรักษาเมืองทั้งสิบ ยังไม่ทันจัดเลี้ยงต้อนรับ ทหารมารายงานว่าทัพซ่งบุกเข้าตีเมืองอีกแล้ว
เฉียวเต้าชิงโกรธว่า “เจ้าพวกนี้บังอาจ” แล้วบอกซุนฉีว่า “ข้าไปจับตัวซ่งเจียง เดี๋ยวมา”
แล้วขี้นม้านำขุนศึกสี่นายทหารม้าสามพันออกจากเมืองไปรับศึก
ซ่งเจียงเพิ่งตั้งขบวนพยุหะเสร็จเห็นฝ่ายตรงข้ามมีนักพรตนำทหารออกมาจากในเมืองจึงออกมายืนม้าหน้าขบวน ประกบด้วยแปดขุนศึกมี หลินชง สวีหนิง หลู่จื้อเซิน หลิวถังอยู่ด้านซ้าย สว่อเชา จางชิง อู่ซง ทังหลงอยู่ด้านขวา ประโคมฮว่าเจี่ยว รัวกลอง
ซ่งเจียงหัวเสียชี้หน้าเฉียวเต้าชิงว่า “โจรขบถชั่วชาติ รีบปล่อยพี่น้องข้ากับพวกห้าร้อยคนมา มิเช่นนั้น จับเจ้าได้จะสับเป็นหมื่นชิ้น”
เต้าชิงตวาดสวนกลับ “ซ่งเจียงบังอาจนัก ข้าไม่ปล่อย เจ้าจะทำอะไรได้”
ซ่งเชียงโกรธจัด ยกแส้ม้าชี้ พวกหลินชง สวีหนิง สว่อเชา จางชิง หลู่จื้อเซิน อู่ซง หลิวถังกรูเข้าไป
เฉียวเต้าชิงร่ายมนตร์แล้วใช้กระบี่ชี้ไปทางตะวันตกตวาดว่า “จี๋ 疾” พลันปรากฎทัพทหารจำนวนเหลือคณานับทางทิศตะวันตกแห่กันพุ่งเข้าหาทัพซ่งจนเกิดโกลาหล
เฉียวเต้าชิงชี้กระบี่ไปทางเหนือ บริกรรมคาถาอีกแล้วตวาดว่า “จี๋ 疾” พายุหอบกรวดทรายจนมืดฟ้ามัวดิน แผ่นสั่นสะเทือน พัดเข้าปะทะหน้าพวกหลินชงจนมองอะไรไม่เห็น รีบกลับม้ากลับมาอารักขาซ่งเจียงแล้วพาหนีมาทางเหนือ เฉียวเต้าชิงต้อนทหารเข้าไล่สังหารทัพซ่งจนแตกยับเยิน ล้มตายเกลื่อนกลาด
พวกซ่งเจียงควบม้าหนีไม่คิดชีวิตมาได้ครึ่งลี้มาทางทุ่งราบ เบื้องหน้าจู่ๆ กลับกลายเป็นท้องน้ำเวิ้งว้างกว้างใหญ่ดังสมุทรบูรพา มีปีกก็เหาะข้ามไม่พ้น ด้านหลังมีกองทัพไล่กวดมา หลู่จื้อเซิน อู่ซง หลิวถังตะโกนลั่นพร้อมกันว่า “อย่าคิดว่าจะยอมให้จับง่ายๆ” แล้วหันหลังกลับวิ่งตลุยมา
พลันเกิดเสียงอสนีบาตฟาดเปรี้ยง เทพในเกราะทองยี่สิบกว่าองค์เหาะลงมาจากฟากฟ้าใช้อาวุธไล่ตีหลู่จื้อเซิน อู่ซง หลิวถังจนล้มคว่ำ ทหารฝ่ายเหนือกรูตามมาจับตัวเป็นเชลย มีเสียงตะโกนตามมาอีกว่า
“ซ่งเจียงลงม้ามาให้จับเสียโดยดี จะเว้นชีวิตให้”
ซ่งเจียงเงยหน้ามองฟ้าถอนหายใจว่า “ซ่งเจียงตายไม่เสียดายชีวิต เพียงแต่พระคุณยังไม่ได้ทดแทน พ่อเฒ่าแม่เฒ่าไม่มีใครเลี้ยงดู พวกหลี่ขุยยังช่วยออกมาไม่ได้ มาถึงขั้นนี้ มีแต่ต้องยอมตายดีกว่าได้อายตกเป็นเชลย”
หลินชง สวีหนิง สว่อเชา จางชิง ทังหลง หลี่หยุน วี่เป่าสื้อทั้งเจ็ดห้อมล้อมซ่งเจียงอยู่ต่างว่า
“พวกข้าขอติดตามพี่ท่าน เป็นผีพยาบาทไปหักคอโจร”
วี่เป่าสื้อนั้นสะบักสะบอมเต็มที ถูกลูกธนูอยู่สองแห่ง แต่ยังคงชูธงแม่ทัพเป็นสง่าตามติดซ่งเจียงไม่มีห่าง ทหารฝ่ายเหนือเห็นธงแม่ทัพยังไม่ล้ม ไม่กล้าผลีผลามเข้ามา
พวกซ่งเจียงต่างกุมกระบี่ไว้ในมือเตรียมทำอัตวินิบาตกรรม พลันมีคนผู้หนึ่งปรากฎกายขึ้นมาห้ามเอาไว้ว่า
“อย่าทำเช่นนั้น พวกท่านอย่ากังวล ข้าคือ เว่ยจุนอู้จี่ 位尊戊己 เห็นแก่คุณธรรมของพวกท่าน จึงมาช่วยปราบปีศาจวารี ช่วยพวกท่านกลับค่าย”
ชายผู้นั้นดูประหลาดนัก บนศีรษะมีเนื้องอกอยู่สองก้อน ทั่วร่างดำคล้ำ ผมแดงเปลือยร่าง ท่อนล่างสวมกางเกงสีเหลือง ถือระฆังในมือซ้าย ก้มลงกำดินขึ้นมาแล้วโปรยไปยังผืนน้ำเบื้องหน้า พริบตานั้นกลับกลายเป็นทุ่งราบดังเดิม แล้วกล่าวว่า
“พวกท่านยังมีเคราะห์อีกหลายวัน บัดนี้ปีศาจวารีถูกกำราบ รีบกลับยังค่าย ส่งคนไปเว่ยโจว 卫州 ขอความช่วยเหลือ พวกท่านจงบากบั่นเพื่อบ้านเมือง”
กล่าวจบกลายเป็นกระแสลมหอบหายวับไปกับตา
เหล่าขุนศึกคุ้มกันซ่งเจียงมาทางทิศใต้ได้ห้าหกลี้ เห็นมีฝุ่นฟุ้งอยู่เบื้องหน้า กองทัพหนึ่งมุ่งหน้ามาจากทางทิศใต้ เป็นทัพของอู๋ย่ง หวางอิง หู้ซานเหนียง ซุนซิน กู้ต้าเส่า เซี่ยเจิน เซี่ยเป่ามีกำลังพลหนึ่งหมื่น
ซ่งเจียงกล่าวกับอู๋ย่งว่า “ข้าไม่ฟังคำน้องเรา เกือบจะไม่ได้พบหน้ากันแล้ว”
อู๋ย่งว่า “ไว้ค่อยคุยกันในค่าย”
พอมาถึงค่ายพวกที่พบเรื่องเทพประหลาดต่างเล่าสู่กันฟัง อู๋ย่งกุมมือจรดหน้าผากว่า
“เว่ยจุนอู้จี่ 位尊戊己 คือเทพปัถวี ท่านพี่ภักดีมีคุณธรรม เทพแห่งดินทรงรับรู้ ดินอาจพิฆาตน้ำ”
(อู้จี่ 戊己 : อู้ 戊 ดินหยาง จี่ 己 ดินยิน)
พวกซ่งเจียงจึงเพิ่งกระจ่าง ต่างคำนับคารวะฟ้า
เย็นวันนั้น พวกทหารแตกทัพทยอยกลับมาถึง รายงานว่าระหว่างโกลาหลอยู่นั้น พวกซุนฉีนำทัพออกจากเมืองเจาเต๋อทางประตูทิศใต้มาไล่สังหาร ตายกันจำนวนมาก ซ่งเจียงให้ตรวจนับความเสียหาย พบว่ากำลังพลล้มหายไปหนึ่งหมื่นเศษ
อู๋ย่งกล่าวกับซ่งเจียงว่า “โจรรู้จักใช้คุณไสย ได้ชัยไปสองครั้ง อาจจะมาปล้นค่าย พวกเราควรเตรียมตัวไว้ ทหารของเราตอนนี้ก็ต่างขวัญหนี เห็นเชือกเปียกน้ำคิดว่างู เห็นต้นไม้ใบหญ้ากลายเป็นทหาร เราจำต้องทิ้งค่ายนี้ปล่อยให้ว่างไว้ ผูกขาแพะปล่อยไว้ลั่นกลอง ทัพหลวงไปตั้งค่ายใหม่ห่างจากที่นี่ไปสิบลี้”
ซ่งเจียงให้ถอยไปตั้งค่ายใหม่ อู๋ย่งให้จัดวางค่ายเป็นพยุหะหกบุปผาของหลี่เย่าซือ 李药师 มีค่ายเล็กในค่ายใหญ่ สามารถช่วยเหลือกันได้ พอตั้งค่ายเสร็จ ทหารรายงานว่า ฝานยุ่ยมาจากด่านหูกวนแล้ว ฝานยุ่ยเข้าพบซ่งเจียงสอบถามถึงเฉียวเต้าชิงแล้วกล่าวว่า
“พี่ท่านโปรดวางใจ นั่นเป็นมนตร์ดำ พรุ่งนี้ ผู้แซ่ฝานจะใช้เวทจับตัวมันมา”
อู๋ย่งว่า “หากฝ่ายตรงข้ามไม่มาท้ารบ พวกเราทางนี้ให้นิ่งเฉยไว้ รอท่านกงซุนอีชิงมาถึงจึงค่อยวางแผนกันใหม่”
ซ่งเจียงสั่งการให้จางชิง หวางอิง เซี่ยเจิน เซี่ยเป่านำทหารม้าเบาห้าร้อยเร่งเดินทางไปรับตัวกงซุนเสิ้งจากเว่ยโจวมารับศึกไสยเวทนี้
กล่าวฝ่ายเฉียวเต้าชิงใช้เวทมนตร์ล้อมวงซ่งเจียงไว้แล้ว ตามมาจับตัว พอมาถึงน้ำที่เสกไว้ไม่เหลือสักหยดให้นึกสงสัยว่า
“อาคมที่ข้าใช้นี้ฉมังนัก ใครกันที่แก้อาคมได้ ในพวกซ่งเจียงคงมีมือดี”
แล้วจึงถอยกลับเข้าเมือง
พวกซุนฉีจัดเลี้ยงรับรองเสร็จแล้ว นำตัวเชลยหลู่จื้อเซิน อู่ซง หลิวถัง หลี่ขุย เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่น ถังปินมายังกระโจม ซุนฉียืนอยู่ด้านซ้ายมือของเฉียวเต้าชิง พอเห็นหน้าถังปินก็ด่าว่า
“โจรขบถ จิ้นอ๋องผิดอะไรต่อเจ้า”
ถังปินตวาดสวนมาว่า “วันตายของพวกเจ้ามาถึงแล้ว”
เฉียวเต้าชิงสั่งให้เชลยแต่ละคนประกาศชื่อแซ่ของตน หลี่ขุยถลึงตา หนวดเคราชี้ชัน ยืดอกด่าว่า
“ไอ้สันดานโจรฟังให้ดี ข้าคือเจ้าพ่อดำ พายุหมุนดำหลี่ขุย”
พอถามพวกหลู่จื้อเซิน อู่ซงบ้าง ต่างเดือดดาลพาลนิ่งเงียบไม่ปริปาก เฉียวเต้าชิงจึงให้ไปนำตัวพลทหารที่ถูกจับเป็นเชลยด้วยกันมาไต่ถามแทน จึงรู้ว่าแต่ละคนล้วนเป็นขุนพลพยัคฆ์ จึงกล่าวเกลี้ยกล่อมว่า
“หากพวกท่านยินยอมสามิภักดิ์ ข้าจะทูลต่อจิ้นอ๋องให้แต่งตั้งพวกท่านเป็นขุนนางใหญ่”
หลี่ขุยตะโกนลั่นว่า “เห็นพวกพ่อเป็นคนยังไง ผายลมนกเขา จะตัดหัวพ่อดำก็ตัด จะตัดกี่ดาบ หากพ่อขมวดคิ้วก็ไม่ใช่ลูกผู้ชาย”
พวกหลู่จื้อเซิน อู่ซง หลิวถังด่าบ้างว่า “พรตปีศาจ อย่าได้ฝัน ตัดหัวพวกข้าพี่น้องไปได้ แต่อย่าได้หวังว่าจะมีวันคุกเข่า”
เฉียวเต้าชิงโกรธจัดสั่งให้ลากตัวไปตัดหัวให้หมด หลู่จื้อเซินหัวเราะลั่นว่า
“ส่าเจียตายไปเหมือนได้กลับบ้าน ตายอย่างมีศักดิ์ศรี”
เพชฌฆาตจะนำตัวไป เฉียวเต้าชิงเปลี่ยนใจด้วยไม่เคยพบใครใจเด็ดขนาดนี้
อู่ซงด่าว่า “โจรขบถโสโครก รีบตัดหัวให้สิ้นเรื่อง”
เฉียวเต้าชิงไม่ตอบโต้กระไร สั่งให้นำทั้งหมดไปจองจำ
เฉียวเต้าชิงยังคาใจว่าเหตุใดอาคมสมาธิเทพวารี 三昧神水的法 ของตนจึงไม่ได้ผล จึงนิ่งสงบอยู่ในเมือง รอดูความเคลื่อนไหวของทัพซ่ง ทั้งสองฝ่ายจึงอยู่นิ่งไม่เคลื่อนไหวได้หกวัน ทัพหลักของเฉียวเต้าชิง ซึ่งให้เนี่ยซิน 聂新 เฝิงซี 冯舾 นำทัพตามหลังมาก็มาถึงเจาเต๋อ
เฉียวเต้าชิงเห็นทัพซ่งไม่ยอมยกรบ คาดว่าคงไร้แผนการ จึงริเริ่มเป็นฝ่ายโจมตีโดยนำพวกซุนฉี ไต้เหม่ย เนี่ยซิน เฝิงซีและพลสองหมื่นออกจากเมืองเมื่อยามห้ามาตั้งค่ายที่เขาห้ามังกร 五龙山 (อู่หลงซาน) ทางใต้ของเมือง รอฟ้าสางจะบุกโจมตี
เฉียวเต้าชิงกล่าวกับซุนฉีว่า “วันนี้ต้องจับซ่งเจียงให้ได้ ชิงด่านหูกวนกลับมา”
แล้วก็นำทหารหนึ่งหมื่นบุกลงมาจากเนิน
ทหารสอดแนมรีบมารายงานแม่ทัพซ่ง ซ่งเจียงนำฝานยุ่ย ซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อนำทัพออกรับศึก
สองทัพประจัญหน้า ต่างโบกธง รัวกลองศึกตว๋อกู่ 鼍鼓 (กลองศึกใหญ่ขึงหนังจระเข้) จนแผ่นฟ้าสั่นสะเทือน เฉียวเต้าชิงขี่ม้าลงมาจากเนินสูงประกบด้วยเหลยเจิ้น หนีหลิน เฟ่ยเจิน เซวียช่าน ทางทัพซ่งเปิดพยุหะ จอมมารป่วนโลกาฝานยุ่ยถือกระบี่ขี่ม้าออกมา ชี้หน้าเฉียวเต้าชิงแล้วด่าว่า
“พรตโจร ทำอวดกำแหง”
เฉียวเต้าชิงประเมินในใจว่า “คนผู้นี้คงรู้วิชาอาคม ต้องทดสอบดู” จึงตวาดสวนไปว่า
“ทหารขี้แพ้ มีหน้ามามากความ กล้าประลองกันไหมเล่า”
ฝานยุ่ยว่า “อยากประลอง ก็มาเจอกระบี่ข้าดู”
ทหารสองฝ่ายลั่นกลองรบ สองจอมมารควบม้าถือกระบี่เข้าห้ำหั่น ดูเหมือนสู้กันด้วยเพลงอาวุธ แต่แท้จริงใช้อาคม ไอดำสองกลุ่มฉวัดเฉวียนซ้ายขวา ปะทะกันอลหม่าน เหล่าทหารต่างตะลึงมอง
ฝานยุ่ยเห็นช่องโหว่ ฟันกระบี่ใส่แต่กลับวืดฟันอากาศ เกือบตกจากม้า แต่ที่แท้เฉียวเต้าชิงจงใจเปิดช่องโหว่ แล้วอาศัยจังหวะนั้นใช้มนตร์มังกรดำลอกคราบ หายกลับมายังหน้าขบวนทัพตน ฝานยุ่ยจึงกลับค่ายตนบ้าง
ประตูซ้ายขวาค่ายพยุหะซ่งเจียงแหวกธงเปิดออก ด้านซ้ายขุนพลทิพย์วารีซ่านถิงกุยนำพลเดินเท้าห้าร้อยนายใส่เกราะดำธงดำ มือถือโล่ และหอกบ้างสามง่ามบ้าง ด้านขวาขุนพลเทพอัคคีเว่ยติ้งกว๋อนำทหารเพลิงห้าร้อยนายใส่เกราะแดง ถือชุดไฟ เข็นรถบรรทุกไม้และฟางแห้งห้าสิบคัน หลังสะพายน้ำเต้าบรรจุกำมะถันและเชื้อปะทุ แล้วจุดไฟรถเพลิงขึ้นพร้อมกัน
ซ้ายเหมือนกลุ่มเมฆดำ ขวาเหมือนกองเพลิงใหญ่เคลื่อนเข้ามา ทหารฝ่ายเหนือแตกตื่นตั้งท่าหนี เฉียวเต้าชิงตวาดสั่ง “ใครถอยประหาร”
เฉียวเต้าชิงถือกระบี่ในมือขวา ปากพร่ำมนตรา พลันมีเมฆดำปกคลุมทั่ว เกิดพายุฟ้าคะนอง ลูกเห็บห่าใหญ่ตกลงใส่ทัพน้ำทัพไฟ รถเพลิงดับสิ้น ทหารหลบลูกเห็บที่กระแทกหัวกันจ้าละหวั่น
ซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกรีบถอยกลับค่าย ฟ้าพลันสว่างดังเดิม เห็นพื้นเต็มไปด้วยลูกเห็บใหญ่ขนาดฟองไข่ไก่ ทหารน้ำไฟที่วิ่งหนีเหยียบลื่นล้มกันระเนระนาด
เฉียวเต้าชิงโวยลั่น “ทัพซ่งใครมีฝีมือดีกว่านี้ไหม”
ฝานยุ่ยรู้สึกขายหน้า ถือกระบี่ร่ายมนตร์ เกิดพายุหอบกรวดทรายมืดฟ้ามัวดิน มีทัพทหารปรากฎขึ้นมาไล่ล่าสังหาร
เฉียวเต้าชิงหัวเราะแล้วว่า “มีวิชาเพียงแค่นี้ ทำอะไรได้”
แล้วถือกระบี่ร่ายมนตร์เกิดพายุกระหน่ำใส่ทัพซ่ง กลางฟ้าเกิดสายฟ้าฟาด ทหารเทพเหลือคณานับลงมาจากฟ้า ทหารซ่งหนีกันหัวซุกหัวซุน เฉียวเต้าชิงให้ทหารของตนเข้าไล่สังหาร
ฝานยุ่ยอาคมสู้ไม่ได้ ชักม้าควบหนี
ตอนก่อนหน้า : จอมขมังเวท
https://www.blockdit.com/posts/67cac9ca0c390533e98cf10c
ตอนถัดไป : สยบจอมขมังเวท
2 บันทึก
9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ขุนโจรเหลียงซาน
2
9
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย