7 มี.ค. เวลา 10:26 • ประวัติศาสตร์

ขุนโจรเหลียงซาน 219 จอมขมังเวท

สำนักปกครองเมืองเวยเสิ้งได้รับรายงานจากซานสื้อฉีด่านหูกวน และเถียนเปียว 田彪 เจ้าเมืองจิ้นหนิง ทูลรายงานเถียนหู่ว่าสถานการณ์ที่ด่านหูกวนและเมืองจิ้นหนิงคับขัน ด้วยว่าทัพซ่งแกร่งกล้านัก เถียนหู่ออกท้องพระโรง เรียกประชุมขุนนางหาทางรับศึก
คนผู้หนึ่งสวมมงกุฎเหลืองเสื้อคลุมขนกระเรียน 鹤氅 แบบนักพรตก้าวออกมาทูลว่า “เรียนต้าอ๋อง กระหม่อมขออาสาขับไล่ข้าศึกจากด่านหูกวน”
คนผู้นี้แซ่เฉียว 乔 ชื่อเลี่ย 冽 พื้นเพเป็นชาวเมืองจิงหยวนมณฑลส่านซี 陕西泾原 ตอนมารดาตั้งครรภ์ ฝันเห็นหมาไนมาเข้าท้องแล้วกลายร่างเป็นกวาง รู้สึกหนาวเย็น เฉียวเลี่ย 乔冽 ช่ำชองทวนกระบองตั้งแต่อายุแปดขวบ
คราหนึ่ง เฉียวเลี่ยไปท่องเที่ยวเขาคงถง 崆峒山 พบคนประหลาดผู้หนึ่งถ่ายทอดวิทยาคมให้ สามารถเรียกลมฝน ขี่เมฆหมอก
เฉียวเลี่ยเคยเดินทางไปยังเขาเอ้อเซียน จิ่วกงเสี้ยน 九宫县二仙山 เพื่อขอฝากตัวเป็นศิษย์กับหลอเจินเหยิน 罗真人 (อาจารย์ของกงซุนเสิ้ง) แต่ไม่ได้พบ หลอเจินเหยินให้กุมารมาถ่ายทอดวาจาว่า
“ท่านศึกษาไสยเวทมนต์ดำครอบงำด้วยอวิชชา หากพบธรรมมารสยบ 遇德魔降 แล้วจึงค่อยมาพบข้า”
เฉียวเลี่ยโกรธและถือดีว่ามีอาคม เที่ยวกร่างวางโตไปทั่ว เนื่องจากเชี่ยวชาญไสยเวท คนจึงเรียกขานว่า จอมขมังเวท 幻魔君 (ห้วนหมอจวิน)
ครั้งหนึ่ง เดินทางมาถึงเมืองอันติ้ง 安定州 เกิดภัยแล้ง ฝนไม่ตกแม้สักหยดมาห้าเดือน ทางการออกประกาศว่า ผู้ใดขอฝนได้ มีเงินรางวัลสามพันก้วน เฉียวเลี่ยฉีกประกาศตั้งปะรำพิธีขอฝนจนตกห่าใหญ่ ทางการเห็นว่ามีฝนตกเพียงพอแล้ว ทำเป็นเฉยไม่รีบมอบเงินรางวัลให้
ประจวบกับเป็นคราวเคราะห์ของเฉียวเลี่ย ที่เมืองนี้มีบัณฑิตคิดคดผู้หนึ่งชื่อเหอไฉ 何才 สนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ดูแลพระคลังเมือง เหอไฉมักหยิบยืมเงินพระคลังไปใช้โดยติดสินบนก้อนใหญ่อยู่เสมอ เหอไฉรู้เรื่องเงินรางวัลก้อนนี้ จึงสมคบกับพระคลังเมือง ให้พระคลังหักเงินก้อนใหญ่ให้เจ้าเมือง ที่เหลือเอามาแบ่งกัน พระคลังจัดแจงแล้วคงเหลือเงินรางวัลมอบให้เฉียวเลี่ยเพียงสามก้วน ทั้งยังบอกกับเฉียวเลี่ยว่า
“ท่านมีวิชาสูงส่งปานนี้ คงไม่เดือดร้อนกับเงินก้อนนี้ ในพระคลังเราช่วงนี้ชักหน้าไม่ถึงหลัง เงินก้อนนี้ขอยืมสำรองไว้ในท้องพระคลังก่อน วันหน้า ท่านมีความจำเป็นต้องใช้ ค่อยมาทยอยเบิกออกไป”
เฉียวเลี่ยโกรธจัดว่า “เงินรางวัลเดิมทีก็เป็นพวกเศรษฐีเมืองนี้ช่วยกันออก เจ้ายักยอกเอาตามอำเภอใจได้หรือ สมบัติในพระคลังก็ล้วนแล้วเลือดเนื้อของราษฎร เจ้าก็ยักยอกไปบำเรอตนจนอ้วนพี บ้านเมืองเสียหาย ฆ่าคนโสมมอย่างเจ้าตาย เหมือนกำจัดมอดปลวกร้ายที่กัดกินพระคลัง”
แล้วเฉียวเลี่ยก็ชูหมัด กระหน่ำชกใส่หน้า เจ้าหน้าที่พระคลังที่วันวันเอาแต่เสพสุราเคล้านารี แค่เดินยังหอบ ย่อมไม่มีทางต่อสู้ พอโดนมือเท้าเข้าไปไม่กี่ทีก็สะบักสะบอมนอนซมอยู่สี่ห้าวัน แล้วเสียชีวิต ภรรยาแจ้งความฟ้องร้องต่อทางการ ทางการออกหมายจับเฉียวเลี่ย
เฉียวเลี่ยหนีกลับจิงหยวน เก็บข้าวของแล้วพามารดาหนีมายังเวยเสิ้ง แต่งตัวเป็นนักพรตนิกายฉวนเจิน 全真 เปลี่ยนชื่อใหม่จากคำว่าเลี่ย 冽 แก้เป็นชิง 清 แล้วตั้งฉายาธรรมว่า เต้าชิง 道清
ไม่นานต่อมา เถียนหู่ก่อกบฎ รู้ว่าเต้าชิงมีวิชาอาคมจึงมาชักชวนให้เข้าร่วม ใช้วิชามารและคารมล่อลวงผู้คนช่วยเหลือเถียนหู่แย่งชิงดินแดน เถียนหู่เคารพนับถือไว้วางใจมาก อุปโลกน์ให้เป็นพรตผู้วิเศษอภิบาลประเทศ 护国灵感真人 (หู้กว๋อหลิงกั่นเจินเหยิน) เป็นเสนาธิการและเสนาบดีฝ่ายซ้าย ถึงตอนนี้จึงประกาศว่าตนแซ่เฉียว เรียกกันว่า ราชครูเฉียวเต้าชิง 国师乔道清
ในท้องพระโรง เฉียวเต้าชิงทูลเถียนหู่ว่า ตนอาสานำทัพไปแก้ไขด่านหูกวน เถียนหู่ว่า “ท่านราชครูช่วยปลดทุกข์ให้กว่าเหยิน 寡人 โดยแท้”
ซุนอัน 孙安 เตี้ยนส้วยผู้บัญชาการทหารองครักษ์ 殿帅 ทูลอาสาว่า “กระหม่อมอาสานำทัพไปช่วยเมืองจิ้นหนิง 晋宁”
เถียนหู่แต่งตั้งให้เฉียวเต้าชิง และซุนอันเป็นแม่ทัพใหญ่ปราบทักษิณ 征南大元帅 นำพลคนละสองหมื่นแยกกันไปช่วยจุดหมายทั้งสอง
เฉียวเต้าชิงทูลว่า “สถานการณ์ที่ด่านหูกวนคับขันนัก กระหม่อมจะคัดเอาทหารม้าเบาจำนวนหนึ่งล่วงหน้าไปก่อน”
เถียนหู่ชอบใจยิ่ง สั่งการให้ซูมี่ย่วนจัดเกณฑ์ทหารให้ทั้งสองเร่งออกเดินทาง
ซุนอัน เป็นชาวเมืองจิงหยวน 泾原 คนบ้านเดียวกันกับเฉียวเต้าชิง คบหากันสนิท ร่างสูงเก้าฉื่อ เอวหนา พอรู้พิชัยสงคราม พละกำลังมหาศาลเชี่ยวชาญวิทยายุทธ ใช้กระบี่คู่เป็นอาวุธ
ซุนอันฆ่าคนตายสองศพเพื่อล้างแค้นให้บิดา จึงถูกทางการออกหมายจับ ซุนอันรู้ว่าเฉียวเต้าชิงทำงานให้เถียนหู่ จึงหนีมาขอพึ่ง เฉียวเต้าชิงแนะนำซุนอันแก่เถียนหู่ ได้ช่วยทำศึกมีความชอบ เถียนหู่อุปโลกน์ให้มีตำแหน่งเตี้ยนส้วย
ในคราวนี้ เป็นแม่ทัพนำพลสองหมื่นไปช่วยเมืองจิ้นหนิง มีขุนพลโทล้วนตำแหน่งถ่งจื้อ 统制 ใต้บังคับบัญชาสิบนาย คือ เหมยวี่ 梅玉 ฉินอิง 秦英 จินเจิน 金祯 ลู่ชิง 陆清 ปี้เสิ้ง 毕胜 พานซวิ่น 潘迅 หยางฟาง 杨芳 เฝิงเซิง 冯升 หูไม่ 胡迈 ลู่ฟาง 陆芳
ทางด้านเฉียวเต้าชิง ให้ถวนเลี่ยน 团练 สองนายคือ เนี่ยซิน 聂新 เฝิงซี 冯舾 นำกำลังส่วนใหญ่เดินทัพมา เนื่องด้วยสถานการณ์คับขัน ตนจึงนำทหารม้าเบาสองพันนายล่วงหน้ามายังเจาเต๋อ 昭德 มีขุนพลโทล้วนตำแหน่งจ๋งก่วน 总管 มาด้วยสี่นายคือ เหลยเจิ้น 雷震 หนีหลิน 倪麟 เฟ่ยเจิน 费珍 เซวียช่าน 薛灿
ไม่ถึงหนึ่งวัน เฉียวเต้าชิงมาอยู่ห่างจากเมืองเจาเต๋อ สิบลี้ทางด้านเหนือ ม้าเร็วมารายงานว่า
“ด่านหูกวนถูกตีแตกเมื่อวานนี้ ขณะนี้ทัพซ่งแยกเป็นสามกองทัพมาโจมตีเจาเต๋อ”
เฉียวเต้าชิงฟังรายงานแล้วโกรธจัดว่า “เจ้าพวกนี้บังอาจนัก ต้องสั่งสอนให้รู้ฝีมือข้า”
แล้วเร่งทหารเดินทางไปช่วยกู้เมือง
ทางด้านถังปิน เกิ่งกงรับหน้าที่ตีเมืองทางทิศเหนือ ม้าเร็วรายงานว่ามีทหารม้าสองพันมุ่งหน้ามาจากทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ จึงตั้งขบวนศึกรอรับ เฉียวเต้าชิงมาถึงตั้งขบวนรบประจัญหน้า ต่างโบกธงรัวกลองเรียกขวัญ ขบวนศึกห่างกันเพียงช่วงหนึ่งลูกธนู ทัพฝ่ายเหนือมีสี่ขุนศึกขนาบพระอาจารย์รูปหนึ่ง
头戴紫金嵌宝鱼尾道冠,身穿皂沿边烈火锦鹤氅,
腰系杂色彩丝绦,足穿云头方赤舄。
仗一口锟铻铁古剑,坐一匹雪花银鬃马。
八字眉碧眼落腮胡,四方口声与钟相似。
มงกุฎพรตทองจื่อจินหางปลาแซมมณี
เสื้อคลุมกระเรียนสีแดงเพลิงขลิบดำขนัด
เอวคาดแถบหลากสีสารพัด
เกือกหัวตัดลายเมฆแดงสดสี
กระบี่โบราณคุนอู๋ถือกวัดแกว่ง
ม้าขาวหิมะแผงคอเงินขึ้นควบขี่
คิ้วเลขปา (八) นัยน์ตาเขียวคางเครามี
ปากสี่เหลี่ยมเสียงกังวานปานระฆัง
ธงดำประจำตัวพระอาจารย์ปักอักษรทองสองแถวสิบเจ็ดอักษรเขียนว่า
“护国灵感真人军师
左丞相征南大元帅乔
เสนาธิการพรตผู้วิเศษอภิบาลประเทศ
เสนาบดีซ้ายแม่ทัพใหญ่เฉียวปราบทักษิณ”
เกิ่งกงเห็นธงย่อมจำได้ ตกใจว่า “คนผู้นี้ร้ายกาจนัก”
หลี่ขุยนำกองตระเวนห้าร้อยนายมาถึงพอดี ใคร่จะขึ้นหน้าไปปะทะ เกิ่งกงว่า
“คนผู้นี้เป็นผู้มีฝีมือฉกาจเป็นหนึ่งของจิ้นอ๋อง รู้จักใช้มนตร์ดำ ร้ายกาจยิ่งนัก”
หลี่ขุยว่า “ข้าจะเข้าไปสับไอ้นกเขาหัวทู่นั่น ดูว่าจะมีมนตร์นกเขาไร”
ถังปินช่วยปรามว่า “ท่านขุนพลอย่าประมาทศัตรู”
หลี่ขุยมีหรือจะยอมฟัง ควงขวานวิ่งตลุยไป เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่นต้องนำทหารโล่ห้าร้อยตามไปด้วย
พระอาจารย์รูปนั้นหัวเราะลั่น ตวาดว่า “ไอ้หมอนี่บ้าดีเดือด” แล้วชี้กระบี่ร่ายมนตร์ตวาดว่า “จี๋ 疾”
ท้องฟ้าอันมีแดดจ้าพลันมืดมิด พายุโหมกระหน่ำ กรวดทรายคละคลุ้ง ไอดำกลุ่มหนึ่งปกคลุมพวกหลี่ขุยไว้เหมือนจับทั้งกลุ่มยัดใส่ถุงดำ มืดสนิทมองไม่เห็นแสงสว่างแม้สักนิด หูได้ยินแต่เสียงลมพายุก้อง ขยับตัวก็ไม่ได้ ทั้งห้าร้อยถูกจับเป็นเชลยสิ้น
เกิ่งกงรู้พิษสงดี ลงแส้ม้ารีบหนีไม่คิดชีวิตไปทางตะวันออก
ถังปินเห็นพวกหลี่ขุยถูกจับเป็นเชลย ทหารต่างขวัญเสีย เกิ่งกงก็มาหนี ถังปินตรองว่า
“คุณไสยของเฉียวเต้าชิงร้ายกาจนัก ถ้าหนีไม่ทันคงได้อายเป็นแน่ แต่ชายชาติทหารมิควรรักตัวกลัวตาย เป็นไรก็เป็นกัน”
จึงนำทหารบุกเข้าไป
เฉียวเต้าชิงร่ายมนตร์ ตวาดว่า “จี๋” ทรายเหลืองหอบใหญ่ม้วนตัวจากในค่ายซัดปะทะหน้าทหารของถังปินจนลืมหูลืมตาไม่ขึ้น พวกทหารตามเข้ามาไล่ฆ่าฟันทหารซ่งทั้งหนึ่งหมื่นล้มตายไปกว่าครึ่ง ถังปินถูกทวนแทงที่น่องซ้ายตกจากหลังม้าแล้วจับเป็นเชลย ดีที่ฝ่ายเหนือมีกฎว่า หากจับเป็นนายทหารได้ จะได้รางวัลเป็นเท่าทวีคูณ จึงไม่ถูกฆ่า
ซุนฉีรักษากำแพงเมืองเจาเต๋ออยู่ เห็นเฉียวเต้าชิงได้ชัย จึงเปิดประตูรับเข้าเมืองนำเชลยพวกหลี่ขุยเข้าไปด้วย
หลินชง สวีหนิงซึ่งนำทัพตีเมืองทางทิศตะวันออกได้ยินเสียงสู้รบผิดปกติทางทิศเหนือ จึงรีบนำทัพมาสังเกตการณ์ เห็นเกิ่งกงกับพวกทหารเหลือตายหนีกันมา เกิ่งกงละล่ำละลักเล่าสถานการณ์ให้ฟัง หลินชง สวีหนิงจึงรีบนำทัพกลับมารายงานซ่งเจียง ระหว่างทางพบกองทหารม้าลาดตระเวนของหวางอิง หู้ซานเหนียงจึงพากันกลับมาด้วย
ซ่งเจียงพอได้ฟังรายงานจากเกิ่งกงว่าพวกหลี่ขุยถูกจับเป็นเชลย ก็ร่ำไห้คร่ำครวญว่า “ชีวิตพวกหลี่ขุยคงจบสิ้นกันครานี้”
อู๋ย่งต้องปลอบประโลมและว่า “พวกโจรมีคุณไสย ต้องรีบไปเชิญฝานยุ่ยมาจากด่านหูกวนมารับมือ”
ซ่งเจียงจึงให้คนไปตามจอมมารป่วนโลกาฝานยุ่ยมาจากด่านหูกวน และเตรียมนำทัพไปช่วยพวกหลี่ขุย อู๋ย่งทัดทานอย่างไรก็ไม่ฟัง
ซ่งเจียงให้อู๋ย่งอยู่รักษาค่าย ส่วนตนนำพลสองหมื่นพร้อมแปดขุนพลมี หลินชง สวีหนิง หลู่จื้อเซิน อู่ซง หลิวถัง ทังหลง หลี่หยุน วี่เป่าสื้อ มุ่งมายังประตูเมืองทิศใต้ของเจาเต๋อ
ตอนก่อนหน้า : กวนเสิ้งเกลี้ยกล่อมสามขุนพล
ตอนถัดไป : ปราชัยไสยเวท

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา