ขุนโจรเหลียงซาน 218 กวนเสิ้งเกลี้ยกล่อมสามขุนพล
วันรุ่งขึ้น หลินชง จางชิงมาขออนุญาตซ่งเจียงออกไปท้ารบ ซ่งเจียงกำชับว่า
“ถึงหากรบชนะ ก็อย่ารีบร้อนเข้าด่าน”
แล้วสั่งการให้สวีหนิง สว่อเชาคอยช่วยหนุน
หลินชง จางชิงนำทหารม้าห้าพันมายืนด่าท้ารบหน้าด่านตั้งแต่เช้าจนเที่ยง ในด่านก็เงียบสงบ ไม่มีใครออกรบหรือแม้แต่ตอบโต้
หลินชง จางชิงจึงคิดจะนำทัพกลับ ในด่านมีเสียงปืนสัญญานลั่น ประตูด่านเปิดออก ซานสื้อฉี อู่ซู่ สื่อติ้ง อู๋เฉิง จ้งเหลียงนำพลสองหมื่นออกมารบ
หลินชงกล่วกับจางชิงว่า “พวกโจรคงคิดว่าเราเหนื่อยกันแล้ว พวกเราแข็งใจหน่อย”
สว่อเชา สวีหนิงอยู่แนวหลัง ขึ้นมาสบทบ สองฝ่ายตั้งค่ายพยุหะเสร็จ ไม่พูดพล่ามทำเพลง ควบม้าจับคู่เข้ารบกัน หลินชงสู้กับซู่อู่ ซานสื้อฉีขี่ม้ามา จางชิงถือทวนหลีฮวาเข้าสกัด อู๋เฉิง สื่อติ้งเข้ารุบรบสว่อเชา
ทั้งเจ็ดรบกันพัลวัน หัวเสือดาวหลินชงตวาดลั่น แทงทวนใส่อู่ซู่ตกม้าตาย
อู๋เฉิง สื่อติ้งรุมสว่อเชาแต่กลับกำลังตก พอเห็นอู่ซู่ถูกแทงตกม้า สื่อติ้งอาศัยจังหวะ ชักม้าหนีกลับค่าย อู๋เฉิงเห็นสื่อติ้งหนี จึงปัดขวานสว่อเชาแล้วจะหนีบ้าง สว่อเชาเหวี่ยงขวานสับขาดเป็นสองท่อน
ซานสื้อฉีเห็นขุนพลตายไปสองคน จึงชักม้าหนี จางชิงไล่กวดมา หยิบหินซัดไปถูกหมวกศึกเสียงสนั่น ซานสื้อฉีกลัวก้มลงกับอาน
จ้งเหลียงรีบสั่งให้ถอยทัพกลับเข้าด่าน พวกหลินชงตามตี ทหารฝ่ายเหนือเสียหายหนัก ซานสื้อฉีนำทหารเข้าด่านได้รีบปิดประตูแน่นหนา หลินชงตามตีมาถูกทุ่มหินยิงธนูใส่จนถูกธนูเข้าที่แขนซ้ายต้องถอยกลับค่าย ซ่งเจียงให้อันเต้าเฉวียนพยาบาล โชคดีที่ชุดเกราะหนาจึงไม่สาหัส
ซานสื้อฉีสำรวจดูความเสียหาย เสียทหารไปสองพันกว่า กับอีกสองขุนพล จึงส่งคนไปรายงานจิ้นอ๋อง 晋王 ที่เวยเสิ้งขอกำลังมาเสริม อีกด้านหนึ่งก็นัดขุนพลที่รักษาเขาเป้าตู๋ 抱犊山 คือ ถังปิน 唐斌 เหวินจ้งหยง 文仲容 ชุยเหย่ 崔野 นำทหารมาทางตะวันออกเข้าโจมตีทัพซ่งจากด้านหลัง โดยนัดหมายวัน แล้วยิงปืนใหญ่เป็นอาณัติสัญญาน
“ในด่านจะนำทัพบุกออกไปกระหนาบสังหาร ย่อมต้องได้ชัย” กำหนดแผนแล้ว ก็รอคำตอบกลับจากถังปิน
ทางด้านซ่งเจียงตั้งค่ายอยู่ครึ่งเดือนกว่าแล้วยังไม่อาจหักด่านหูกวนได้ กำลังเคร่งเครียดอยู่ ทหารเข้ามารายงานว่ามีม้าเร็วนำหนังสือลับมาจากขุนพลกวนเสิ้งเมืองเว่ยโจว ซ่งเจียงกับอู๋ย่งจึงให้รีบนำมาเปิดออกดู มีความว่า
“ถังปิน หัวหน้าค่ายโจรเขาเป้าตู๋ 抱犊山 เดิมเป็นขุนนางทหารเมืองผู่ตง 蒲东 เป็นคนซื่อตรงกล้าหาญ ร่วมสาบานเป็นพี่น้องกับผู้แซ่กวน ถูกผู้มีอำนาจใส่ความให้ร้าย ถังปินโกรธจึงสังหารทิ้งทั้งครอบครัว ทางการจึงตามจับ ถังปินหนีลงใต้หวังจะไปพึ่งเขาเหลียงซาน ผ่านมาทางเขาแห่งนี้ถูกดักปล้นชิง
ถังปินจึงต่อสู้กับเหวินจ้งหยง ชุยเหย่ ผู้เป็นนายส้องเขาแห่งนี้ ทั้งสองรุมเอาชนะไม่ได้ จึงเชิญถังปินขึ้นเขา มอบตำแหน่งนายส้องให้
ต่อมา เถียนหู่ยึดด่านหูกวนได้จึงมาเกลี้ยกล่อม ถังปินแม้ไม่ยินยอม แต่เห็นว่าส้องโจรตั้งอยู่โดดเดี่ยว คงทานกำลังไม่ได้ จำต้องสามิภักดิ์ และยังคงกำลังอยู่บนเขา เป็นกำลังคู่ขนานกับด่านหูกวนป้องกันการบุกรุกจากทางใต้
เร็วๆ นี้ได้ข่าวว่าผู้แซ่กวนอยู่รักษาเมืองเว่ยโจว จึงขี่ม้ามาหาเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา เล่าประสบการณ์ของตนแต่หนหลัง ทั้งยังบอกว่า เขานับถือพี่ท่านที่ภักดีมีคุณธรรม ใคร่ขอเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา สร้างผลงานล้างบาป หวนกลับมารับใช้ราชสำนัก
ผู้แซ่กวนได้ร่วมทางกับถังปินไปยังค่ายที่เขาเป้าตู๋ ได้พบกับเหวินจ้งหยง ชุยเหย่ ทั้งสองเป็นคนเปิดเผย หาใช่คนพาลไม่ และทั้งสองสมัครใจรับใช้ราชสำนัก จึงได้นัดแนะกันเป็นการลับที่จะชิงเอาด่านมาเป็นผลงานแรกเข้า”
ซ่งเจียง อู๋ย่งแจ้งใจความในหนังสือแล้ว จึงคงกำลังนิ่งไว้ ไม่เคลื่อนไหว รอดูทางในด่านต่อไป
ทางด้านซานสื้อฉีได้รับคำตอบจากถังปินว่า
“ขณะนี้ข้างขึ้น จันทร์กระจ่างดุจกลางวัน รอข้างแรมเดือนมืดจึงค่อยลงมือไม่ให้ศัตรูรู้ตัวจึงดี”
สื้อจี๋ว่า “นั่นก็สมควร”
ผ่านไปสิบกว่าวัน ทัพซ่งยังนิ่งเฉยไม่ออกรบเช่นกัน ถังปินพลันขี่ม้านำพลจำนวนหนึ่งมาถึงด่านเข้าพบซานสื้อฉี
ถังปินว่า “คืนนี้ยามสาม เหวินจ้งหยง ชุยเหย่จะนำทหารหนึ่งหมื่นลงจากเขาเป้าตู๋ทางตะวันออก สวมเกราะอ่อน ม้าถอดกระพรวน ถึงหลังค่ายทัพซ่งตอนฟ้าสาง ทางด่านก็เตรียมทหารไว้ออกตีกระหนาบ”
สื้อฉีชอบใจนักว่า “สองทัพกระหนาบ ทัพซ่งคงราบคาบ”
เพลาเย็น ถังปินขึ้นสังเกตการณ์บนด่าน แล้วว่า
“แปลก ตรงนั้นคล้ายมีเงาคนมาสอดแนม”
แล้วหยิบลูกศรจากกระบอกยิงไปสองดอก
ทหารสอดแนมของซ่งเจียงถูกลูกธนูยิงใส่แขนขวา เจ็บแต่ไม่เข้า หยิบลูกธนูมาดูเห็นหัวดอกศรมีผ้าพันเอาไว้ จึงเก็บเอากลับมารายงานแม่ทัพซ่ง
ซ่งเจียงแกะผ้าหุ้มมาคลี่อ่าน มีตัวอักษรขนาดเล็กเขียนไว้หลายแถวเป็นสารลับจากถังปินว่า
“วันนี้ฟ้าสางมอบด่านเป็นผลงาน เหวินจ้งหยง ชุยเหย่จะนำทหารมายังหลังค่ายท่านแม่ทัพ เพื่อรอเสียงปืนสัญญาน จากนั้นทัพด่านจะยกออกตีกระหนาบ ถังปินใช้โอกาสนี้ยึดด่าน ท่านแม่ทัพซ่งเตรียมตัวเข้าด่าน”
ซ่งเจียงอ่านจบ หารือกับอู๋ย่ง
อู๋ย่งว่า “ขุนพลกวนว่าไว้ไม่มีผิด แต่ทัพศัตรูมาด้านหลังมิอาจไม่ระวัง ให้ซุนลี่ จูถง ซ่านถิงกุย เว่ยติ้งกว๋อ เอี้ยนซุ่นนำพลหนึ่งหมื่นเก็บธงไม่ต้องตีกลอง ไปซุ่มที่หลังค่าย หากพบทัพของขุนพลเหวินและชุย ยังไม่ต้องรับเข้าค่าย จนกว่าเราจะยึดด่านได้ ให้รอฟังเสียงปืนใหญ่แม่ลูกเป็นสัญญาน จึงค่อยให้เข้าค่าย
ให้สวีหนิง สว่อเชานำพลห้าพันไปซุ่มทางตะวันออกของด่าน หลินชง จางชิงนำพลไปซุ่มทางตะวันตกของด่าน รอฟังเสียงปืนในค่ายเรา แล้วยกเข้ายึดด่านพร้อมกัน หากทั้งหมดนี้เป็นอุบายของศัตรู จะได้ยกทัพกลับมาช่วย”
ซ่งเจียงว่า “ท่านเสธ.วางอุบายได้รอบคอบ” แล้วสั่งการตามนั้น
ทางด้านซานสื้อฉีฟังอุบายของถังปินแล้ว ก็รอฟังเสียงปืนสัญญานจากหลังค่ายซ่ง พอฟ้าสาง มีเสียงปืนชุดดังขึ้นทางทิศใต้ มองออกไปเห็นหลังค่ายซ่งมีฝุ่นฟุ้ง ธงทิวสับสน
ถังปินว่า “ทัพขุนพลเหวินและชุยมาถึงแล้ว รีบออกจากด่านเข้ากระหนาบ”
ซานสื้อฉีกับสื่อติ้งนำพลหนึ่งหมื่นออกจากด่าน ให้ถังปิน ลู่ฮุยนำพลหนึ่งหมื่นเป็นทัพหนุน ให้จู๋จิ้ง จ้งเหลียงอยู่รักษาด่าน
ทัพซ่งเห็นทัพในด่านยกออกมาตีกระหนาบจึงทำทีถอย ซานสื้อฉีเร่งทัพตามตี พลันมีเสียงปืนดัง ทัพซ่งโผล่มาจากด้านซ้ายและขวามากระหนาบทัพด่าน
ถังปินเป็นทัพหนุนเห็นทัพซ่งมาจากด้านซ้ายขวา จึงถอยทัพกลับด่าน พอมาถึงก็ตั้งแถวถือหอกขวางหน้าประตูด่านไว้
ซานสื้อฉี สื่อติ้งตามตีทัพซ่งอยู่ ได้ยินเสียงปืนจากค่ายซ่ง หลี่ขุย เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่นนำทหารโล่กรูออกมาจากค่าย ซานสื้อฉีรู้ว่าข้าศึกเตรียมการรับมือไว้ จึงให้ถอยทัพรีบกลับด่าน พอมาถึงก็พบขุนพลหนึ่งสกัดไว้ตะโกนมาว่า
“ถังปินอยู่ที่นี่ ด่านหูกวนเป็นของราชสำนักซ่งแล้ว ซานสื้อฉีรีบลงม้ามายอมจำนนโดยดี”
แล้วใช้หอกแทงจู๋จิ้งตาย
ซานสื้อฉีตื่นตระหนกรู้ว่าพลาดท่าเสียแล้ว จึงนำทหารม้าสิบกว่านายรบฝ่าไปทางตะวันตก หลินชง จางชิงมุ่งเข้ายึดด่านจึงไม่ไล่ตามสื้อฉี หลี่ขุยนำทัพพลเดินเท้าบุกมาชิงด่านด้วย ถังปินไล่สังหารทหารรักษาด่าน จ้งเหลียงถูกฆ่าตายระหว่างชุลมุน สื่อติ้งถูกสวีหนิงแทงทวนตายนอกด่าน ทหารฝ่ายเหนือหนีกันอลหม่าน ตายไปกว่าสองพันคน ถูกจับเป็นเชลยห้าร้อยกว่าคน ยอมจำนนอีกจำนวนมาก
ซ่งเจียงยกทัพใหญ่เข้าด่านมา ถังปินลงม้ามากราบคารวะซ่งเจียงแล้วว่า
“ผู้แซ่ถังเคยทำผิดอาญา ทราบว่าท่านแม่ทัพมีความเมตตา จึงคิดไปสามิภักดิ์ครั้งยังอยู่ค่ายหนองน้ำ แต่ไม่มีใครแนะนำตัว จึงไม่มีโอกาสพบหน้า วันนี้เป็นโอกาสดี ได้มาติดตามท่านสมดังที่หวังไว้”
ซ่งเจียงคารวะตอบแล้วเข้ามาพยุงให้ลุกขึ้นกล่าวว่า
“ท่านขุนพลยินยอมรับใช้ราชสำนัก ร่วมปราบขบถกับผู้แซ่ซ่ง ผู้แซ่ซ่งกลับถึงราชสำนักย่อมต้องทูลรายงานความชอบของท่านให้ทรงปูนบำเหน็จ”
ซุนลี่นำเหวินจ้งหยง ชุยเหย่มาตั้งค่ายลงที่นอกด่าน ซ่งเจียงให้ตามเหวินจ้งหยง ชุยเหย่ เข้าด่านมาพบทำความรู้จัก เสร็จศึกครั้งนี้ ซ่งเจียงสำรวจดูพบว่าได้กำลังพลสามิภักดิ์ใหม่กว่าสองหมื่นนาย ม้าศึกพันกว่าตัว ซ่งเจียงให้จัดเลี้ยงฉลอง
ซ่งเจียงตามถังปินมาสอบถามถึงสถานการณ์ในเมืองเจาเต๋อ 昭德
ถังปินว่า “เดิมในเมืองมีทหารประจำการสามหมื่นนาย ซานสื้อฉีเกณฑ์มารักษาด่านแล้วหนึ่งหมื่น คงเหลืออยู่ในเมืองสองหมื่น ขุนพลเอกโทรวมกันสิบนายมี ซุนฉี 孙琪 เย่เซิง 叶声 จินติ่ง 金鼎 หวงเยว่ 黄钺 เหลิ่งหนิง 冷宁 ไต้เหม่ย 戴美 เวิงขุย 翁奎 หยางชุน 杨春 หนิวเกิง 牛庚 ไฉ้เจ๋อ 蔡泽
เถียนหู่อาศัยด่านหูกวนพิทักษ์เมืองเจาเต๋อ เมื่อเสียด่านแล้วเหมือนดังเสียแขน ผู้แซ่ถังยินดีอาสาเป็นทัพหน้าบุกยึดเจาเต๋อ”
เกิ่งกงขุนพลสามิภักดิ์ใหม่จากหลิงชวนร่วมอาสาเป็นทัพหน้า ซ่งเจียงจึงอนุมัติ
ซ่งเจียงกล่าวกับเหวินจ้งหยง ชุยเหย่ว่า
“ท่านทั้งสองอยู่ที่เขาเป้าตู๋มานาน รู้จักชัยภูมิดี ขอให้กลับไปรักษาค่ายบนเขาให้จงดี รอท่าทัพเราตีเมืองเจาเต๋อได้ จึงเชิญท่านมาหารือใหม่”
ทั้งสองจึงลากลับไปประจำการที่เขาเป้าตู๋
วันรุ่งขึ้น ซ่งเจียงให้ไต้จงเดินทางไปดูสถานการณ์ของรองแม่ทัพหลูที่จิ้นหนิง 晋宁 แล้วกลับมารายงาน
ซ่งเจียงหารือกับอู๋ย่งถึงการศึกเมืองเจาเต๋อแล้วจัดทัพดังนี้
ให้ถังปิน เกิ่งกงนำพลหนึ่งหมื่นเข้าตีประตูเมืองทิศเหนือ
หลินชง สวีหนิงนำพลหนึ่งหมื่นเข้าตีประตูเมืองตะวันออก
สว่อเชา จางชิงนำพลหนึ่งหมื่นเข้าตีประตูเมืองทิศใต้
เว้นประตูทิศตะวันตกไว้ ล่อให้ทัพจากเวยเสิ้งใช้ส่งกำลังหนุน
ให้หลี่ขุย เป้าสวี้ เซี่ยงชง หลีกุ่นนำพลเดินเท้าห้าร้อยเป็นกองลาดตระเวน
ให้หวางอิง หู้ซานเหนียงนำทหารม้าสามร้อยเป็นกองลาดตะเวน
ให้ซุนลี่ จูถง เอี้ยนซุ่นย้ายเข้ามาในด่าน อยู่รักษาด่านหูกวนร่วมกับ ฝานยุ่ย หม่าหลิน
สั่งการแล้วเสร็จ ซ่งเจียง อู๋ย่ง กับขุนพลที่เหลือนำทัพหลวงเดินทัพมาตั้งค่ายทางทิศใต้ของเจาเต๋อห่างจากเมืองสิบลี้
ตอนก่อนหน้า : ด่านหูกวน
ตอนถัดไป : จอมขมังเวท
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
