7 เม.ย. เวลา 09:01 • สุขภาพ

ประโยชน์ดีๆ จากกระเจี๊ยบเขียว 👍👍

กระเจี๊ยบเขียว อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น คาร์โบไฮเดรต เส้นใย โปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก วิตามิน A B1 B2 และ C อยู่ในปริมาณพอสมควร
1. ช่วยเรื่องลำไส้ และระบบขับถ่าย
เส้นใยที่ละลายน้ำ และไม่ละลายน้ำ ของ กระเจี๊ยบเขียว มีคุณสมบัติช่วยการขับถ่ายได้เป็นอย่างดี โดยเส้นใยที่ละลายน้ำได้ มีคุณสมบัติในการดูดซับสารพิษ และขับถ่ายออกทางอุจจาระ ทำให้ไม่มีสารพิษตกค้างในลำไส้ ลดอาการ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยลดความเสี่ยงในการเกิด มะเร็งลำไส้
2. รักษาโรคกระเพาะ และลำไส้อักเสบ
สารประกอบไกลโคไซเลตในกระเจี๊ยบเขียว มีฤทธิ์ยับยั้งความสามารถของเชื้อแบคทีเรีย เฮลิโคแบ็กเตอร์ ไพโลริ (helicobacter pylori) ในการเกาะเยื่อบุผิวของกระเพาะอาหาร ซึ่งแบคทีเรียตัวนี้ เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร และแผลจากลำไส้เล็กส่วนต้น จึงทำให้ลดอาการปวดท้องลงได้
การกินฝักกระเจี๊ยบเขียว ช่วยลดอาการ แผลในกระเพาะอาหาร ความเป็นด่างอ่อน ๆ ของฝักกระเจี๊ยบเขียว และเมือกลื่นช่วย ลดกรดในกระเพาะอาหาร ทำได้โดยนำฝักกระเจี๊ยบเขียวตากแห้ง บดให้ละเอียด กินครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 เวลา หลังอาหาร แล้วดื่มน้ำตาม
3. ต้านอนุมูลอิสระ
กระเจี๊ยบเขียวมีกลูตาไทโอน (glutathione) มีบทบาทสำคัญควบคุมสารอนุมูลอิสระในร่างกาย การสร้างสารซ่อมแซมเซลล์ และทำปฏิกิริยาขจัดสารพิษที่เกิดในร่างกายช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอย่างดี
4. รักษาเบาหวาน
เส้นใยที่ละลายน้ำในกระเจี๊ยบเขียว จะช่วยลดการดูดซึมของคอเลสเตอรอล และน้ำตาลเข้าสู่ร่างกาย ช่วยในการขับถ่าย ซึ่งเป็นการช่วยกำจัดไขมันปริมาณสูงที่จับอยู่กับน้ำดีได้
5. รักษาแผลสด
ยางจากผลสดของกระเจี๊ยบเขียว สามารถช่วยรักษาแผลสดได้ เมื่อถูกของมีคนบาด ให้ใช้ยางจากฝักกระเจี๊ยบทาแผล แผลจะหายเร็ว และไม่เป็นแผลเป็น นอกจากนี้ ผลอ่อนของกระเจี๊ยบเขียวจะมีเมือกลื่น ซึ่งทำให้ผิวหนังชุ่มชื้น บางพื้นที่จึงนิยมนำมาพอกผิวหนังที่รู้สึกแสบร้อนจากแผลไหม้แสบร้อน ที่มีอาการไม่รุนแรงมากนัก
โฆษณา