18 เม.ย. เวลา 10:03 • ข่าวรอบโลก

Nvidia: ยักษ์ใหญ่ชิป AI ถูกบีบกลางศึกสหรัฐ-จีน

Nvidia: The AI chip giant caught between US and China
🧠 Nvidia คือใคร? ทำไมจึงสำคัญในการแข่ง AI โลก
Nvidia เป็นบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ ที่ออกแบบชิปคอมพิวเตอร์สมรรถนะสูง ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนา Generative AI เช่น ChatGPT หรือ Midjourney
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความต้องการชิป AI ทั่วโลกพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ทำให้ Nvidia ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดของโลก และเคยแซง Apple ขึ้นอันดับ 1 ชั่วคราว
ด้วยบทบาทนี้เอง สหรัฐฯ จึงจับตามองความสัมพันธ์ของ Nvidia กับจีนอย่างใกล้ชิด และมองว่าเทคโนโลยีของ Nvidia อาจถูกใช้เพื่อเสริมเขี้ยวเล็บ AI ให้กองทัพจีน
🚫 สหรัฐฯ แบนชิป H20 แม้จะออกแบบมา “ให้ผ่านเกณฑ์”
เดิมทีชิป H100 ของ Nvidia ถูกแบนห้ามขายให้จีนตั้งแต่ปี 2022 แล้ว
Nvidia จึงออกแบบชิปรุ่น “H20” มาใหม่ เพื่อให้ตรงตามข้อกำหนดการควบคุมการส่งออก
แต่การเกิดขึ้นของบริษัท AI จีนชื่อ DeepSeek ที่อ้างว่าสามารถสร้างโมเดลเทียบเท่า ChatGPT ได้แม้ใช้ชิปที่ด้อยกว่า ทำให้สหรัฐฯ หวั่นว่า H20 อาจยังทรงพลังเกินไป
ล่าสุด รัฐบาลสหรัฐฯ จึงสั่งให้ Nvidia ขอใบอนุญาตหากจะส่งออก H20 ไปจีน ส่งผลให้คำสั่งซื้อมูลค่า $5.5 พันล้านดอลลาร์ จากยักษ์ใหญ่จีนอย่าง Tencent, Alibaba, ByteDance ต้องระงับทันทีโดยไม่มีช่วงผ่อนผัน
✈️ ทำไมซีอีโอ Nvidia บินด่วนไปจีน?
Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia เดินทางไปจีนเพื่อพบผู้นำระดับสูงของรัฐบาล รวมถึงผู้ก่อตั้ง DeepSeek
เป้าหมายชัดเจนคือ “รักษาตลาด” ที่มีมูลค่ามหาศาล แม้จีนจะคิดเป็นเพียง 13% ของยอดขาย Nvidia แต่ก็ยังคงเป็นตลาดสำคัญ
เจ้าหน้าที่จีนกล่าวว่า จีนมี “ศักยภาพการบริโภคและการลงทุนที่ใหญ่โต” และ Huang ก็แสดงความหวังที่จะ “ยังคงร่วมมือกับจีนต่อไป”
🔄 เกมย้ายฐานการผลิตกลับอเมริกา
มาตรการสหรัฐฯ ยังเป็นส่วนหนึ่งของแผน “De-risk” — ลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยีจากจีน
ล่าสุด Nvidia ประกาศลงทุนสร้างระบบ AI server ในอเมริกามูลค่า $500 พันล้านดอลลาร์
ขณะที่ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวันอย่าง TSMC ก็ประกาศเพิ่มการลงทุนในรัฐแอริโซนาอีก $100 พันล้านดอลลาร์
🌐 โลกกำลังกลายเป็น “2 ระบบเทคโนโลยี”
นักเศรษฐศาสตร์จาก Natixis วิเคราะห์ว่า เรากำลังเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีโลกจะแยกเป็น 2 ขั้ว คือ
✼ ฝั่งที่นำโดยสหรัฐฯ (Nvidia, Google, OpenAI)
✼ ฝั่งที่นำโดยจีน (Huawei, Baidu, DeepSeek)
สิ่งนี้จะลดความเป็น “โลกาภิวัตน์ทางเทคโนโลยี” และเพิ่มข้อจำกัดในการค้าข้ามพรมแดน
🇹🇭💥 ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับประเทศไทย
แม้จะเป็นเรื่องไกลตัว แต่เหตุการณ์นี้ส่งแรงสะเทือนหลายทาง:
❄ การลงทุนด้าน AI ในไทยอาจต้องคิดใหม่
หาก Nvidia ลดการขายชิปให้จีนหรือประเทศกำลังพัฒนา อาจทำให้ Startup และหน่วยงานรัฐไทยเข้าถึงชิป AI ได้ยากขึ้น หรือราคาสูงขึ้นมาก
❄ แรงกดดันให้นำเข้าชิปจากฝั่งสหรัฐฯ แทนจีน
บริษัทไทยที่เคยซื้อชิปจากจีน อาจต้องหันมาพึ่งฝั่งสหรัฐฯ ที่ควบคุมเข้มขึ้นกว่าเดิม
📉 ผลกระทบต่อ “หุ้นไทย” ที่เกี่ยวข้อง
⭐ กลุ่มเทคโนโลยีและ Cloud Infrastructure
หุ้นที่ได้รับผลกระทบ: INSET, INET, MFEC, AIT, SABUY
หากต้นทุนชิปสูงขึ้น หรือมีข้อจำกัดในการนำเข้า AI Hardware จากจีน-สหรัฐ บริษัทที่ทำระบบ Cloud, Data Center และ AI solution จะต้อง “แบกต้นทุน” หรือ “ชะลอการขยายระบบ”
⭐ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนส่งออก
หุ้นที่เกี่ยวข้อง: HANA, KCE, DELTA, SVI, SMT
หากจีนพัฒนาเทคโนโลยีเองได้มากขึ้นจากมาตรการบีบนี้ อาจลดความต้องการชิ้นส่วนจากไทย
ในทางกลับกัน หากบริษัทไทยสามารถผลิตชิปหรือต่อยอดได้ อาจมีโอกาสในตลาดโลกมากขึ้น
⭐ กลุ่มโลจิสติกส์/นำเข้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
หุ้นที่ควรจับตา: SONIC, WICE, SIS, COM7
หากการค้าชิปต้องผ่านเส้นทางใหม่ (เช่น จากสหรัฐโดยตรง) โลจิสติกส์อาจปรับตัว และต้นทุนเพิ่มขึ้น
🔖 Hashtags
#Nvidia #ชิปAI #สงครามเทคโนโลยี #สหรัฐจีน #DeepSeek #TradeWar #TechColdWar #หุ้นไทย #WorldScope #SuperpowerStage #เศรษฐกิจโลก #AIchip #BattleForAI #เวทีมหาอำนาจ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา