19 เม.ย. เวลา 16:08 • ประวัติศาสตร์

หรือพิธา จะเป็นเหมือน ขุนหลวงหาวัด

ตอนนี้เห็นว่าจะตั้งทีมเจรจาภาษีทรัมป์ เหมือนเรียกกันว่า “ทีมไทยแลนด์” พูดซะอย่างกับเป็นเหมือน “ทีมมาร์เวล” ที่ทำสิ่งเวอร์ๆ ให้เป็นจริงได้ น่าหัวเราะค่ะ
เพราะประเทศไทย ออกตัวช้ากว่าประเทศอื่นไปตั้งเยอะ จนสถานการณ์มันดีขึ้นตามลำดับ เราจะมาเอาดีเข้าตัวว่า เพราะรอไม่ทำอะไร ถึงได้อานิสงส์ไแด้วย ไม่ถูกค่ะ
ในฐานะที่เป็นคนไทย เราอยากเห็นรัฐบาลมีมาตรการตอบกลับในทันทีทันใด หรือไม่ก็แถลงการณ์ออกมาอย่างมีเหตุผล ไม่ใช่เอาแต่ รอ รอ แล้วก็รอ ช้าซะจนสถานการณ์มันอาจจะดีขึ้นแล้วก็แถเอาหน้า
แน่ใจหรอ ประเทศไทยยังไม่ได้เข้าไปเจรจาด้วยซ้ำ คนสำคัญที่สุดก็ไม่ไปเพราะอาจจะไม่ได้วีซ่า แล้วจะเอาอะไรมาคาดหวังว่า ไทยจะต่อรองได้
เพราะ คนในประเทศ ไทย บางคน โดนแบนเรื่อง วีซ่า ตอนนี้ก็เลยอยู่ในระหว่างหาตัว บุคลากร ว่าใครควรจะเป็นคนไปเจรจากับทรัมป์
สถานการณ์นี้มันคุ้นๆ เหมือน กับตอน เสีย เอกราชครั้งที่สองในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ หรือเปล่า ตอนนั้นแม่ทัพเที่เก่งสุดของไทยก็คือ ขุนหลวงหาวัดหรือพระเจ้าอุทุมพรที่ไปบวชอยู่
ที่ต้องบวชก็ลือกันว่า เพราะกลัวจะโดนทำร้าย หรือลอบฆ่าจากคนมีอำนาจในสมัยนั้นที่ถือหางพระเจ้าเอกทัศน์
ขุนหลวงหาวัดเลยเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ที่ต้องลาบวชมาเป็นแม่ทัพเพื่อช่วยกรุงศรีอยุธยาจากพม่า แต่พอชนะพม่าคราวแรก ก็โดนให้ไปบวชต่อ ต่อมาก็เลยไม่ยอมถูกหลอกใช้อีก
ภาพตอนกรุงครั้งที่สอง
กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบัน ถ้าตัวเลือกคราวนี้เจรจาได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจ ตัวเลือกที่ดีที่สุดคนหนึ่งคือ ทิม พิธา ใช่หรือไม่
แล้วถ้ารัฐบาลไปขอร้องพิธาจนยอมช่วยเหมือนคุณหลวงหาวัด ซึ่งน่าจะได้รับผลดี เพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่า พิธาไหวพริบดีมากและต่อรองเก่งพียงใด ไทยจะได้ประโยชนฺขนาดไหนถ้ารัฐบาลยอมไปขอร้อง แล้วพอได้ผลดี ก็ถึบหัวส่งเหมือนเดิม พิธาจะกลายเป็นขุนหลวงหาวัดจริงๆ เข้าทำนองที่ว่า “ เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนขุนพล“ โดยแท้
แต่น่าจะกลายเป็น ขุนหลวงหาฮาว่าร์ด“ มากกว่า ขุนหลวงหาวัด
ต้องโดน “ถีบหัวส่ง” แน่ๆ
ถ้าชอบบทความในลักษณะนี้ เรารบกวนช่วยกดไลค์ กดแชร์ กดติดตามหน่อยนะคะ
โฆษณา