20 เม.ย. เวลา 12:00 • หนังสือ

สรุปหนังสือ STFU พลังแห่งการหยุดพูดในโลกที่คนพูดไม่หยุด

ในโลกยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยเสียงพูด ความเห็น และข้อมูลที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด หลายครั้งเราอาจรู้สึกว่าการจะได้รับการยอมรับหรือประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องพูดให้มาก พูดให้เก่ง และพูดให้เร็ว แต่ในหนังสือ STFU: พลังแห่งการหยุดพูดในโลกที่คนพูดไม่หยุด กลับชวนเราทบทวนความเชื่อเดิม ๆ เหล่านั้น และเปิดเผยพลังเงียบที่คนส่วนใหญ่ไม่ทันได้ตระหนัก
หนังสือเล่มนี้ตั้งคำถามที่ท้าทายว่า “เราพูดมากเกินไปหรือเปล่า?” และถ้าใช่เราจะเปลี่ยนตัวเองให้กลายเป็นคนที่ "พูดน้อยแต่ได้มาก" ได้อย่างไร ผ่านตัวอย่างจากผู้นำระดับโลก นักธุรกิจชื่อดัง ไปจนถึงประสบการณ์ตรงของผู้เขียน
Dan Lyons เป็นนักเขียนและนักข่าวชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงจากการเขียนเกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กร เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในที่ทำงาน
Lyons สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก Bradford College และปริญญาโทสาขาการเขียนเชิงสร้างสรรค์จาก University of Michigan เขาเริ่มต้นอาชีพในฐานะนักข่าวด้านเทคโนโลยี เคยดำรงตำแหน่งบรรณาธิการที่นิตยสาร Newsweek และเป็นผู้สื่อข่าวที่ Forbes
Lyons ยังมีประสบการณ์ในวงการโทรทัศน์ โดยเคยเป็นนักเขียนบทให้กับซีรีส์ยอดนิยมของ HBO เรื่อง Silicon Valley และยังเป็นผู้เขียนหนังสือขายดีที่สุดของนิวยอร์กไทมส์ เรื่อง Disrupted: My Adventures in the Start-Up Bubble รวมไปถึง Lab Rats: How Silicon Valley Made Work Miserable for the Rest of Us
Talkaholism หรือภาวะเสพติดการพูด เป็นภาวะที่นักวิจัยด้านการสื่อสารได้ให้คำจำกัดความเอาไว้ รวมไปถึงแบบประเมินภาวะเสพติดการพูดที่มีทั้งหมด 16 ข้อ เมื่อเราทำแบบทดสอบเสร็จก็ให้ตรวจสอบคะแนน ถ้าได้คะแนนต่ำกว่า 30 คะแนน คือคนปกติ แต่ถ้าได้ระหว่าง 30-39 คะแนน คือคุณมีโอกาสมีภาวะเสพติดการพูด ยิ่งกว่านั้นคือหากได้คะแนนมากกว่า 40 คะแนน ถือว่ามีภาวะเสพติดการพูด และถ้าอยากให้ผลทดสอบชัดเจนมากยิ่งขึ้นให้นำคำถามไปให้คนใกล้ตัวประเมินตัวเราด้วย
Dan Lyons ได้ผลคะแนนอยู่ที่ 50 คะแนน นั่นหมายความว่าเขามีภาวะเสพติดการพูดอย่างชัดเจน เขาบอกว่าการพูดทำให้เขาก้าวหน้าในอาชีพการงาน แต่เมื่อมันมีมากเกินไปก็นำไปสู่ความล้มเหลวในชีวิตได้เช่นเดียวกัน
จากการศึกษาก็ค้นพบว่าคนพูดมากมีหลายประเภท แบ่งได้ 6 ประเภท ได้แก่
• คนพูดมากอีโก้สูง (Ego Talkers) คือ คนที่พูดเหมือนตัวเองรู้หมดทุกอย่างรู้ดียิ่งกว่าผู้เชี่ยวชาญ และยังชอบพูดขัดจังหวะคนอื่น
• คนพูดมากเพราะประหม่า (Nervous Talkers) คือ คนที่กังวลเมื่อได้เข้าสังคมจนเกิดอาการพูดมากเพื่อให้ตนเองรู้สึกดีขึ้น
• คนคิดเยอะ (Ruminator) คือ คนที่พูดความคิดของตนเองออกมาดังๆ จนทำให้คนรอบข้างรำคาญ
• คนชอบพูดโพล่ง (Blurters) คือ คนที่คิดเร็วแล้วพูดออกมาโดยไม่ได้กลั่นกรอง
• คนชอบพูดไปเรื่อย (Blabbers) คือ คนที่ชอบพูดเรื่องไร้สาระ เล่าเรื่องเดิมและไม่
ยอมหยุดพูดแม้ถูกขัดจังหวะ
• คนเสพติดการพูด (Talkaholics) คือ คนที่พูดจนทำให้คนรอบข้างไม่พอใจ จนเกิดผลร้ายต่อตนเอง
<<< 5 วิธีเปลี่ยนตัวเองจาก "พูดมาก" สู่ "พูดน้อยได้มาก" >>>
1. หยุดพูด เมื่อมีบทสนทนาบางอย่างที่เราอาจจะได้โอกาสดีๆ และมันควรที่จะต้องรับฟังดังนั้นการเงียบจึงเป็นวิธีที่สมเหตุสมผลมากที่สุด
2. ใช้เทคนิคการเว้นวรรค ตามหลักการของ รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก นั่นก็คือรอสองวินาทีก่อนพูด ปล่อยให้คู่สนทนาหรือผู้ฟังหยุดพิจารณาสิ่งที่เราพูดเสียก่อน
3. เลิกใช้โซเชียลมีเดีย เพราะแพลตฟอร์มพวกนั้นถูกออกแบบให้คนอย่างเราเสพติดจนไม่สามารถเลิกเล่นได้อย่างง่ายดาย และการที่เราได้โพสต์หรือรีทวีตก็คล้ายกับการที่เราพูดมากเกินไป
*** Tip วิธีลดการใช้โซเชียลมีเดีย: สำรวจเวลาในการเล่นโทรศัพท์แต่ละวัน ลบแอปออกจากโทรศัพท์ ตั้งเวลาในการเล่นโซเชียลมีเดีย กำหนดวันงดการเล่นโซเชียลมีเดีย โหลดแอปที่ช่วยในการใช้โทรศัพท์ ใช้โทรศัพท์ที่ไม่ทันสมัย
4. เปิดสวิตซ์ความเงียบ งดรับข้อมูลที่มากเกินไปเนื่องจากมันจะไปกระตุ้นตัวเราแล้วทำให้เกิดความกังวลใจ วิธีก็คืองดโทรศัพท์ ไม่พูด ไม่อ่าน ไม่ดู ไม่ฟัง เพียงอยู่เฉยๆเพื่อให้สมองได้พัก
5. ฟังอย่างตั้งใจ เมื่อเราหยุดพูดเราก็จะได้ยินคู่สนทนามากขึ้น ใส่ใจพวกเขามากขึ้น ทำให้คู่สนทนาประทับใจในตัวเรามากขึ้น
หนังสือ STFU: พลังแห่งการหยุดพูดในโลกที่คนพูดไม่หยุด ไม่ได้สอนให้เราเป็นคนเงียบจนไร้เสียง แต่ชวนให้เรารู้จัก "เลือกเวลาเงียบให้เป็น" เพราะในหลายสถานการณ์ ความเงียบคือพลังที่ทรงอิทธิพลที่สุด มันคือพื้นที่ให้เราฟังอย่างตั้งใจ เข้าใจผู้คนมากขึ้น และสื่อสารอย่างมีคุณภาพมากกว่าปริมาณ
Dan Lyons แสดงให้เห็นว่าการพูดมากเกินไปอาจบั่นทอนทั้งความสัมพันธ์ ประสิทธิภาพในการทำงาน และสุขภาพจิตของเราโดยไม่รู้ตัว และในขณะเดียวกัน การกล้าหยุดพูดในเวลาที่เหมาะสม คือทักษะสำคัญของคนยุคใหม่ที่อยากประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องตะโกนแข่งกับใคร

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา