22 เม.ย. เวลา 05:43 • สุขภาพ

**SGLT2 Inhibitors ช่วยลดอาการปวดเกาต์กำเริบได้อย่างไร?**

การเกิดโรคเกาต์ (Gout) เกิดจากการสะสมของกรดยูริก (Uric acid) ในข้อต่อและเนื้อเยื่อต่าง ๆ จนนำไปสู่การอักเสบเฉียบพลันและอาการปวดอย่างรุนแรง ในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes Mellitus; T2DM) มักพบภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ และระดับกรดยูริกในเลือดสูงร่วมด้วย
SGLT2 inhibitors (Sodium-Glucose Cotransporter-2 inhibitors) ซึ่งเป็นยาลดระดับน้ำตาลในเลือดกลุ่มใหม่ ได้รับความสนใจในด้านการดูแลระบบหัวใจและหลอดเลือด รวมถึงศักยภาพในการลดความเสี่ยงต่ออาการปวดเกาต์กำเริบผ่านกลไกการลดระดับกรดยูริกในเลือด
---
### 1. ภาพรวมของโรคเกาต์
โรคเกาต์เป็นโรคข้ออักเสบที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุและผู้ที่มีภาวะเมตาบอลิกซินโดรม (Metabolic syndrome) การที่ระดับกรดยูริกในเลือดสูงเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่การตกตะกอนและก่อให้เกิดการอักเสบของข้อต่อ อาการกำเริบของเกาต์ (Gout flare) จะทำให้เกิดอาการปวด บวม แดง และร้อนของข้อที่อักเสบ บ่อยครั้งที่พบว่าอาการเหล่านี้รบกวนคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยอย่างมาก
---
### 2. บทบาทของ SGLT2 Inhibitors
SGLT2 inhibitors เป็นกลุ่มยาที่ออกฤทธิ์ยับยั้งโปรตีนขนส่งโซเดียม-กลูโคสชนิดที่ 2 ในท่อไตส่วนต้น (Proximal convoluted tubule) ทำให้เกิดการขับกลูโคสออกทางปัสสาวะ ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2
**ตัวอย่างยากลุ่ม SGLT2 inhibitors** ได้แก่
- Canagliflozin
- Dapagliflozin
- Empagliflozin
- Ertugliflozin
---
### 3. กลไกในการลดอาการปวดเกาต์กำเริบ
นอกเหนือจากกลไกลดน้ำตาลในเลือด SGLT2 inhibitors ยังมีผลช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือด (Serum uric acid) ผ่านกระบวนการดังนี้
1. **การขับกรดยูริกออกทางไตเพิ่มขึ้น**
เมื่อเกิดการขับกลูโคสทางปัสสาวะมากขึ้น จะมีผลต่อสมดุลการแลกเปลี่ยนของสารต่าง ๆ ในท่อไต ทำให้ไตขับกรดยูริกออกทางปัสสาวะได้มากขึ้น
2. **ผลต่อระดับอินซูลิน**
SGLT2 inhibitors ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลและความทนต่ออินซูลิน (Insulin resistance) ที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับกรดยูริกในเลือด หากภาวะดื้ออินซูลินลดลง อาจส่งผลเชิงบวกให้การขับกรดยูริกดีขึ้นด้วย
3. **ลดภาวะเมตาบอลิกซินโดรม**
ผลทางอ้อมจากการลดน้ำหนัก ลดความดันโลหิต และควบคุมไขมันในเลือดล้วนมีส่วนช่วยควบคุมระดับกรดยูริกได้ดีขึ้น และลดความเสี่ยงในการเกิดอาการเกาต์กำเริบ
### 4. หลักฐานทางการแพทย์
มีงานวิจัยและการวิเคราะห์อภิมาน (Meta-analysis) หลายฉบับที่สนับสนุนบทบาทของ SGLT2 inhibitors ในการลดระดับกรดยูริก และอาจช่วยลดอาการปวดเกาต์กำเริบได้
- **Bae JH et al. (2021)**
การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมานในผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 พบว่า SGLT2 inhibitors ช่วยลดระดับกรดยูริกในเลือดได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ และมีความเกี่ยวข้องกับการลดความเสี่ยงในการเกิดอาการกำเริบของเกาต์ \[1\]
- **Henry RR et al. (2015)**
การศึกษาทางคลินิกแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized Controlled Trial) แสดงให้เห็นว่า Canagliflozin ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รวมทั้งมีแนวโน้มในการลดระดับกรดยูริกในเลือดเมื่อเทียบกับยาหลอก (Placebo) \[2\]
- **Neuen BL, et al. (2019)**
รายงานในผู้ป่วย T2DM ที่ใช้ Canagliflozin ว่ามีการลดลงของระดับกรดยูริกอย่างต่อเนื่อง และสัมพันธ์กับอัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ลดลงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ไม่ได้รับยา \[3\]
- **Kadowaki T, et al. (2022)**
การติดตามผู้ป่วย T2DM กลุ่มใหญ่ในญี่ปุ่น พบว่าการใช้ Dapagliflozin ร่วมกับการปรับพฤติกรรมสามารถลดระดับกรดยูริกและความเสี่ยงต่อการกำเริบของเกาต์ในระยะยาว \[4\]
แม้ว่าการศึกษาบางส่วนยังไม่สามารถยืนยันได้โดยตรงว่าช่วย “ป้องกัน” การกำเริบของเกาต์ แต่มีแนวโน้มเชิงบวกอย่างชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วยที่มีภาวะไขมันในเลือดสูง หรือเมตาบอลิกซินโดรม ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อภาวะเกาต์กำเริบ
---
### 5. ข้อควรระวังและข้อพิจารณา
1. **ภาวะน้ำตาลต่ำ (Hypoglycemia)**
โดยทั่วไปเกิดได้น้อยเมื่อใช้ SGLT2 inhibitors เดี่ยว ๆ แต่ต้องระวังหากใช้ร่วมกับยากลุ่มซัลโฟนิลยูเรีย (Sulfonylureas) หรืออินซูลิน
2. ** (Euglycemic Diabetic Ketoacidosis; EDKA)**
ถึงจะพบได้น้อย แต่ก็เป็นภาวะแทรกซ้อนรุนแรงที่ควรเฝ้าระวัง
3. **ผลข้างเคียงทางระบบทางเดินปัสสาวะ**
เช่น การติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีการขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะสูง
4. **ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ**
ควรมีการประเมินอย่างละเอียดก่อนเริ่มยา โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มีโรคไตเรื้อรังหรือภาวะหัวใจล้มเหลว
---
### 6. บทสรุป
SGLT2 inhibitors ถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการรักษาผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดเกาต์หรือมีภาวะกรดยูริกในเลือดสูง ด้วยกลไกการลดระดับน้ำตาลในเลือด ควบคู่ไปกับการลดระดับกรดยูริก ซึ่งอาจช่วยลดอัตราและความรุนแรงของอาการเกาต์กำเริบได้ อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาข้อจำกัดและผลข้างเคียงเป็นรายบุคคล รวมทั้งติดตามอาการอย่างต่อเนื่องร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
---
### เอกสารอ้างอิง
1. Bae JH, Park EG, Kim S, et al. **Impact of SGLT2 Inhibitors on Serum Uric Acid in Patients With Type 2 Diabetes: A Systematic Review and Meta-analysis.** *Diabetes Metab J.* 2021;45(1):170–184.
2. Henry RR, et al. **Efficacy and safety of Canagliflozin in subjects with type 2 diabetes and chronic kidney disease.** *Lancet Diabetes Endocrinol.* 2015;3(3):202–212.
3. Neuen BL, Young T, Heerspink HJL, et al. **Effects of Canagliflozin on Serum Uric Acid in Type 2 Diabetes: A post hoc Analysis.** *J Am Soc Nephrol.* 2019;30(5):xx-xx.
4. Kadowaki T, Haneda M, Tobe K, et al. **Long-term Effects of Dapagliflozin on Metabolic Parameters and Gout Flares in Japanese Patients with Type 2 Diabetes: A Real-world Evidence Study.** *Diabetes Ther.* 2022;13(2):377–389.
> **คำเตือน**: บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น ไม่ใช่คำแนะนำทางการแพทย์อย่างเป็นทางการ หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ยา SGLT2 inhibitors หรือการรักษาโรคเกาต์ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาวะสุขภาพของท่านโดยเฉพาะ
โฆษณา