ความคิดเห็นบนคำถาม

อาการไม่มีสมาธิ คืออาการที่เราฟังแล้วโต้แย้ง ใช่หรือไหม?
9 ส.ค. เวลา 09:29 • ความคิดเห็น • 11 คำตอบ
อยากฟังแล้วคิดามทีหลังมันเหมือนกันไหม
คำตอบ (11)
  • ไม่ใช่ค่ะ โต้แย้งคือความเห็นไม่ตรงกัน
    บางทีเราไม่โต้แย้ง
    แต่บอกคนพูดว่า ขอพูดก่อนนะเดี๋ยวลืม
    แล้วขัดจังหวะการพูดของเขา...
  • เป็นไปได้ค่ะ
    การไม่มีสมาธิคือการฟังที่ใจไม่ได้อยู่กับเรื่องที่ฟังตลอดเวลา ทำให้เราจับใจความขาดๆหายๆ แล้วมาต่อเอาเอง ซึ่งมีโอกาสผิดไปจากสิ่งที่เราฟัง จึงทำให้เราเกิดความโต้แย้ง...
  • อาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้ ถ้าผู้อธิบายไม่อ้างอิงที่มาให้ชัดเจนก็จะเกิดการโต้แย้งขึ้นแน่นอน แต่ถ้าอ้างอิงที่มานั่นคือการขาดสมาธิของผู้ที่รับฟังครับ
  • น่าจะใช่ เหมือนนักมวยต่อยใต้เข็มขัดฟาวล์ ถูกตัดคะแนน ผมคงต้องต่อยเหนือเข็มขัด(รับฟัง)ให้มาก ขอบคุณสำหรับความหมาย
  • ไม่ใช่ครับ! นั่นคืออาการที่เราไม่เห้นด้วย ส่วนอาการไม่มีสมาธิคือ อาการที่เราฟังแล้วจับใจความเขาไม่ได้ ฟังเขาไม่รู้เรื่องว่าเขาว่าอะไร แม้ว่าเขาจะว่าอย่างมีเหตุมีผลสักปานใด จนบางทีก็กลายเป็นอาการฟังไม่ได้ศัพท์นั่นล่ะ แล้วทีนี้ถ้าอาการนี้ปะปนกับอาการก่อนก็ก่อเรื่องวุ่นวายใหญ่โตขึ้น...
  • ขอขอบคุณคราบ
  • ไม่ใช่ครับ การไม่มีสมาธิคือการที่เราไม่สามารถจดจ่ออยุ่กับสิ่งไดสิ่งหนึ่งได้นานๆครับ การฟังแล้วโต้แย้งเป็นเรื่องปกติที่เราอาจจะมีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกับความคิดของคู่สนทนาครับ
  • การฟัง ถ้าฟังจนจบ คุณจะโต้แย้งหรือเห็นด้วย ก็ไม่ผิด
    แต่ถ้ายังฟังไม่จบ แล้วตัดสินใจเห็นด้วยหรือโต้แย้งเลย น่าจะไม่ถูก
  • ถ้าฟังแล้วโต้แย้งได้ถูกเรื่อง แสดงว่าเราโฟกัสมันได้มากพอแล้ว แต่ถ้าสวนเลย ตอนที่เค้ายังพูดไม่จบ แบบนั้นเรียก ปากไว ครับ 😄
  • คำว่า จิตที่มีสมาธิ เป็นจิตที่ไม่มีอารมณ์นึกคิด ไม่มีอะไรปรุงแต่ง ปราศจากนิวรณ์ทั้งหลาย จิตก็อยู่เฉยๆ กายก็อยู่เฉย อยู่นิ่งๆเฉยไม่มีอารมณ์ปรุงแต่งเกิดขึ้นที่ เรือนกาย กายก็เป็นสุข จิตที่อาศัยอยู่ในเรือนกายก็เป็นสุข...