Tobavarchkili ( Silver Lake trip) EP.1 day 1st.
.
...Toba varchhkili day 1st.
...Toba varchkili หรือ อีกชื่อเขาเรียกกันว่า Silver lake เป็นกลุ่มทะเลสาบอันเกิดจากปากปล่องภูเขาไฟ มีทะเลสาบเล็ก-กลาง-ใหญ่ กระจัดกระจายอยู่ในเส้นทางทริปทั้งหมด 6 ทะเลสาบ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติของพื้นที่รอยต่อจังหวัด Svaneti
...Toba แปลว่าทะเลสาบ ก็มันเป็นทริปที่ไปทะเลสาบทั้ง 6 สำหรับวิธีการที่จะไปมีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ เดินด้วยตีน หรือขี่ม้า และเหอะไปแบบเทวดาหรือนั่งเฮลิคอปเตอร์ไป!!!ถ้าทำได้
...จากเมืองหลวงTbilisi ใช้เวลาเดินทางด้วยรถยนต์ไป svaneti ราวๆ 5 ชั่วโมงกับอีก 60 นาที ในระยะทางแค่ 380 km วิธีการเดินทางสามารถเดินทางด้วยตัวเองโดยใช้บริการรถไฟ 2 ทอดจากTbilisiไปยังเมือง ซุกดีดี ( Zugdidi) แล้วต่อรถแท่กซี่ไปยังหมู่บ้าน Mukhuri จุดเริ่มเดิน หรือนั่งรถบัสเล็กประจำทางก็ได้ ซึ่งใช้เวลาสูสีพอๆกัน เพียงแต่มันจะมีเที่ยวรถในแต่ละวันเพียงแค่วันละ 1 เที่ยว
... แต่ทริปนี้ผมตามเพื่อนชาวจอร์เจียที่เขามีเพจจัดทริปทัวร์Hikingสำหรับคนท้องถิ่นชาวจอร์เจีย ดังนั้นในจำนวนสมาชิกทริป 20 กว่าคน จึงมีลิงตัวเล็กๆหน้าตาแปลกๆผิดแผกไปจากคนอื่นๆ นั่นคือผมอย่างไม่ต้องสงสัย
...รูปแบบการจัดทัวร์ของเขาก็เหมือนๆกับทัวร์เดินป่าของเมืองไทย โดยมีอุปกรณ์พวกเต๊นท์ -ถุงนอนคุณภาพกลางๆให้ สมาชิกคนไหนจะใช้ต้องเป็นคนแบกเอาเองรับผิดชอบเอง ซึ่งเรื่องขนาดและน้ำหนักคงไม่ต้องบรรยาย
... ผมลองไปยกเป้ของเพื่อนร่วมทริปแต่ละราย โอ่ย!!มันหนักชิบหาย ตดแทบแตก หลังแทบหัก ถ้าผมแบกก็คงจะต้องตายเป็นผีเฝ้าภูเขาในระหว่างทางเดิน
...ส่วนผมเป็นสมาชิกกิตติมศักดิ์ อาศัยตามเขาไปฟรีๆ ผมมีเต๊นท์ ถุงนอน อื่นๆทั้งหลายที่เป็นของส่วนตัว ซึ่งถึงแม้ว่าจะเป็นช่วง Summer แต่ด้วยระดับความสูงจากระดับน้ำทะเล บรรดาถุงนอน เสื้อผ้าที่จะต้องใช้มันจึงต้องกันหนาวได้ ขนาดอุปกรณ์ของผมเป็นแบบอัลตร้าไลท์ก็ยังหนักเอาการแต่ก็พออยู่ในขั้นที่จะแบกไหว
...แล้วในทริปผมสื่อสารกันด้วยภาษาอะไร ?
...สมาชิกส่วนนึงพูดภาษาอังกฤษได้ ส่วนตัวผมบอกกันตรงๆเลยก็ได้ว่าใช้ภาษากาย ภาษาอังกุด ( ภาษาอังกฤษแบบพอที่จะถามทาง หาส้วมขี้ มีข้าวกินได้ ) และหากจนตรอกเมื่อไหร่ก็ยุติลงด้วยภาษามือ!!!!
...คุยกันเมื่อยมือมาก!!!
...รูปแบบและประเพณีทริปในประเทศนี้คือ " ลูกหาบ คนแบกของ ไม่มี" ถึงแม้จะจนแต่คนเขาไม่มีรับจ้างแบก!!!
...เป็นความต่างกับทริปtrekkingในประเทศเนปาลที่ผมผ่านมาเป็น 10 rute ทุกทริปก็เดินแบกเป้ส่วนตัวเล็กๆ สัมภาระหลักผมจ้างลูกหาบเชอร์ปาแบก
...แต่ที่นี่ถ้าคุณมีปัญญา(จ่าย)ก็สามารถจ้างม้าเพื่อขนสัมภาระได้ หรือจากทริปเดินเท้าก็สามารถเปลี่ยนเป็นทริปขี่ม้าก็ได้สนนราคาก็แพงสำหรับผมและคนท้องถิ่น( แต่สำหรับคนยุโรป หรือแม้แต่คนไทยถือว่าอยู่ในระดับที่พอจะจ่ายได้ ตกราวๆวันละ 500 บาททริปกี่วันก็คูณมันเข้าไป )
...จากTbilisi ตอนเที่ยงคืน ผมนั่งรถมินิบัส ( ใหญ่กว่ารถตู้ เล็กกว่ารถบัส )หลับๆตื่นๆหัวโยกหัวคลอนไปกับถนนรนแคมที่คดเคี้ยวเลี้ยวลด เป็นหลุมมีบ่อตามมาตรฐานประเทศยากจนรอการพัฒนา
... เช้าแดดแยงตาก็งัวเงีย โผเผ ตื่นขึ้นมาเพราะถึงจุดเริ่มต้น พวกผมขนย้ายสัมภาระเปลี่ยนเป็นขึ้นรถยนต์บรรทุก 4 wd เพื่อตะลุยทางลูกรัง กึ่งoff road ที่ตัดเลี้ยวลดคดเคี้ยวขึ้นภูเขา ไปยังจุดเริ่มเดินด้วยตีน
...อันนี้เป็นจุดแข็งของการใช้บริการทัวร์ท้องถิ่น เพราะเขาสามารถในการจัดการเพื่อลดระยะเวลาในการเดินลงได้ด้วยการใช้รถ4WD ถ้าเป็นคนต่างด้าวท้าวต่างเมืองมาเดินเองก็ยากลำบากที่จะจัดการ
...รถ 4WD ก็ลุยดะตะกุยตะกาย ระหว่างทางที่ผมยืนให้รถเขย่าเขยกโขยก หัวโยกหงึกหงักอยู่ ก็เจอนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินแบกเป้ท่อมๆ หรือแค้มป์อยู่ระหว่างทางก็มี สำหรับระยะทาง 35 km บนทาง off road ที่ว่านี่ถ้าเดินด้วยตีนก็ต้องบวกเวลาเข้าไปอีก อย่างน้อย 1 คืน 2 วัน
...ทริปจะใช้เวลา 6 วัน 5 คืน นอนเต๊นท์ แบกเป้เอง เดินเต็มวันโดยเฉลี่ยระยะทางวันละ 10 km -15 km ไต่ระดับจาก 1500 m สู่ 3700 m และลงกลับสู่ 1200 m ท่ามกลางสภาพอากาศที่แปรผัน มีหนาว มีร้อน เจอฝน ปนๆกันไป อุณหภูมิต่ำสุดที่ 3 ° C ร้อนสุดอยู่ที่ 15 ° C
...7/11 ร้านค้า ร้านอาหารไม่มี ห้องส้วมสำหรับเยี่ยวหรือขี้เลือกเอาเองได้ตามอำเภอใจ มีผลไม้ตามฤดูกาลจำพวกบลูเบอรี่ , ราจเบอรี่ , แบลคเบอรี่ให้เก็บกินได้
...โพสต์นี้หมดไปกับรูปแบบและวิธีการเดินทาง ค่อยมาต่อ EP.2