31 ม.ค. 2019 เวลา 01:08
Air Canada Flight 143 เที่ยวบินปาฏิหารย์ น้ำมันหมด แต่รอดชีวิตยกลำ !
จาก"เครื่องบิน" แต่ต้องกลายร่างมาเป็น"เครื่องร่อน" เพราะน้ำมันหมดกลางอากาศ..
ต่อเนื่องจากบล็อกก่อนหน้านี้ที่แอร์ป้าได้เขียน เกี่ยวกับความมหัศจรรย์ของเครื่องบิน ที่เชื่อหรือไม่ว่า หากเครื่องยนต์ได้อันตรธานดับไปจนหมดสิ้น แต่เราก็จะไม่สิ้นหวังเพราะ เครื่องบินจะยังสามารถไปต่อได้อีกไกลด้วยการ "ร่อน"
แอร์ป้าจึงอยากนำเคสที่เกิดขึ้นจริงมาเล่าสู่กันอ่าน เพื่อไม่ให้เรามีความหวังกันล้มๆแล้งๆ ว่าจะร่อนแล้วรอดจริงหรือ เพราะนี่คือเที่ยวบินประวัติศาตร์ ว่า ร่อน แล้ว รอด และไม่ใช่แค่ 1-2 คน หรืออีกกี่ตัวอย่างเคสก่อน แต่เหตุการณ์นี้คือรอดยกลำ!
ย้อนเวลากลับไป เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ปี 1983 เที่ยวบิน ของสายการบิน แอร์แคนาดา 143 เที่ยวบินภายในประเทศ ออกเดินทางจาก Montreal ไปยัง Edmonton ด้วยเครืองบิน Boeing 767-233 พร้อมด้วยผู้โดยสาร 61 คน และลูกเรือ 8 คน
นักบินคือ กัปตัน Robert (Bob) Pearson อายุ 48 ปี (ในขณะนั้น) มีชั่วโมงบินที่ถือว่าสูงมากคือ มากกว่า 15,000 ชั่วโมง และนักบินที่2 Maurice Quintal อายุ 36ปี (ในขณะนั้น) มีชั่วโมงบินที่มากเช่นกันคือ มากกว่า 7,000 ชั่วโมง
กัปตัน Pearson ในตำนานอันโด่งดัง
ทุกสิ่งทุกอย่างดูปกติดี อากาศดี เครื่องดี เพราะเป็นเครื่องบินลำใหม่และรุ่นใหม่ ของสายการบินในขณะนั้น และนักบินก็มากด้วยประสบการณ์..
เครื่องบินรุ่นนี้มีเครื่องยนต์ทั้งหมด 2 ตัว อย่างละข้างคือซ้ายและขวา อยู่ที่บริเวณปีกของเครื่องบิน และก็เหมือนกับเครื่องยนต์ทั่วไปที่จะต้องการน้ำมันในการทำงานของเครื่องยนต์..
1
หลังจากเครื่องบินได้บินไปได้แค่ครึ่งทาง บนความสูง 41,000 ฟุต เหนือทะเลสาบ เลคเรด ออนทาริโอ ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น..
ไฟเตือนสัญญาณระบบความดันน้ำมันของเครื่องยนต์ด้านซ้าย ในห้องนักบินได้ติดขึ้น นั่นหมายถึงปั้มเชื้อเพลิงที่มีหน้าที่สูบฉีดน้ำมันสู่เครื่องยนต์อาจเกิดเหตุขัดข้อง
1
เพราะอะไร? ในเมื่อก่อนเครื่องจะออกทุกอย่างดีพร้อมไปหมด..นักบินจึงคิดว่าจะเป็นไปได้อย่างไรที่น้ำมันจะหมดกลางทาง..
ในขณะนั้น นักบินจึงคิดว่าเป็นการขัดข้องของเครื่องคอมพิวเตอร์และจอแสดงผล จึงสังเกตุหน้าจอแสดงผลอีกครั้ง..
ผลการตรวจข้อมูลของความดันน้ำมันเครื่องยนต์ด้านขวา จากคอมพิวเตอร์และจอแสดงผลในเครื่องบิน ผลลัพธ์แสดงให้เห็นว่า เรายังมีปริมาณน้ำมันเพียงพอที่จะบินไปถึงที่หมายได้
แต่ในความเป็นจริง ตอนนี้น้ำมันกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้ดูเหมือนว่าคอมพิวเตอร์และจอแสดงผลจะรวนไปหมด ไม่สามารถเชื่อถือได้เลย
เป็นเพราะอะไร หรือน้ำมันอาจจะรั่ว?........
หลังจากนั้นไม่นาน..
สัญญาณเตือนก็เกิดขึ้นอีกครั้งกับเครื่องยนต์ฝั่งขวา!
กัปตันรับรู้ได้ถึงสิ่งผิดปกติ จึงตัดสินใจที่จะนำเครื่องบินลงจอดในสนามบินที่ใกล้ที่สุด และที่นั่นก็คือ Winipeg.
และในขณะเดียวกันตอนนี้เครื่องยนต์ด้านซ้ายได้ดับลงอย่างถาวรเสียแล้ว..
นักบินรีบทำการลดระดับอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะลงจอด ที่ Winipeg ด้วยเครื่องยนต์เพียงข้างเดียว
ในขณะเดียวกันก็พยายามที่จะ ติดเครื่องยนต์ฝั่งซ้ายอีกครั้งแต่ไม่เป็นผล และจากนั้นไม่นานเครื่องยนต์ฝั่งขวาก็หยุดทำงานโดยสิ้นเชิง..
มากไปกว่านั้น ด้วยความที่เป็นเครื่องบินสมัยใหม่ ระบบภายในเครื่องบินเกือบทุกอย่างใช้พลังงานไฟฟ้า และพลังงานไฟฟ้าเหล่านั้นก็จะได้มาจากเครื่องยนต์ ที่ตอนนี้ได้ดับสิ้นไปหมดแล้วทั้ง 2 ตัว
ไม่ต้องบอกก็รู้เลย ว่าอะไรในเครื่องบินที่ต้องใช้ไฟฟ้า ตอนนี้ก็ใช้การไม่ได้แล้ว หรือแม้แต่หน้าปัดแสดงผลในห้องนักบินและอุปกรณ์ที่จำเป็น จะเหลือก็แต่อุปกรณ์บางตัวที่ใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงาน
ตอนนี้เครื่องบินดับสนิท และเงียบงัน...
ในความโชคร้ายที่ยังมีความโชคดี เพราะกัปตัน Pearson เป็นนักร่อนมืออาชีพ! กล่าวคือ เค้าชื่นชอบในเครื่องบินร่อน และมีประสบการณ์อย่างมากในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงเช่นนี้ ทุกๆอย่างเลยดูเป็นไปได้ ทั้งที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะการร่อนเช่นนี้อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงก็เป็นได้
ขณะที่การร่อนกลายเป็นเรื่องที่ยากมาก เครื่องบินได้เสียระยะความสูงที่จะบินไปลง Winipeg airport เสียแล้ว...
แผนที่เส้นทาง
ตัวเลือกสุดท้ายที่จะไปลง คือ Gimli Airport ซึ่งอดีตเคยเป็นสนามบิน แต่ปัจจุบันคือสนามแข่งรถ และในวันนั้นก็เป็นวันหยุด และเป็นวันครอบครัว ที่หลายชีวิต มาสังสรรค์และรวมตัวกันที่นี่!
หายนะอาจจะกำลังจะเกิดขึ้น เพราะการที่เครื่องยนต์ได้ดับ เครื่องเงียบ จนไม่มีใครได้ยินเสียง หรือสัญญาณใดๆ ที่เป็นการเตือนภัย ให้หลบหลีกต่อสิ่งที่กำลังจะตกลงมาจากฟ้านี้เลย..
1
นักบินใช้หลักการร่อน และแรงโน้มถ่วงของโลก เพื่อที่จะทำให้ ล้อ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในการลงจอดกางและล็อค แต่ด้วยความที่ลมแรงปะทะเข้ามาจึงทำให้เป็นเรื่องยาก
แต่สุดท้าย นักบินก็ลงจอดได้สำเร็จ เครื่องบินสามารถลงจอดได้อย่างปลอดภัย และทุกคนก็รอดชีวิต มีเพียงอาการบาดเจ็บเล็กน้อยเพียงเท่านั้น!
ภาพเครื่องบิน ได้ลงจอดอย่างปลอดภัย
แล้วเหตุการณ์นี้ เกิดขึ้นจากอะไร น้ำมันรั่วจริงหรือ?
คำตอบคือไม่ได้รั่ว เพราะเหตุทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากการที่ พนักงานภาคพื้น และนักบิน คำนวณน้ำมันผิดหน่วย!
1
อ่านไม่ผิด เพราะมันเกิดขึ้นจริง มีการคำณวนน้ำมันผิดจากที่ควรจะเป็นหน่วย กิโลกรัม แต่ดันไปคิดเป็นหน่วย ปอนด์...
ความผิดพลาดนี้ เกิดขึ้นต่อกันเป็น โดมิโน เพราะจากพนักงานภาคพื้นที่คิดผิด ต่อมาที่นักบิน และกัปตันที่จะเป็นผู้ยืนยันการสั่งน้ำมัน ก็ผิดไปด้วย และจากการคำณวนผิดนี้ ก็ส่งผลให้น้ำมันที่เติมมา มีน้อยกว่าครึ่ง ของการที่จะต้องใช้ไปยังจุดหมายปลายทาง..
มากไปกว่านั้น จากที่หน่วยผิด อะไรก็ผิดไปหมด เพราะการป้อนข้อมูลเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของเครื่องบิน ก็ผิดไปด้วย จึงมีการแสดงผลที่ผิด และรวนตามที่
กล่าวไปในช่วงแรก ก็เพราะเหตุนี้เอง
2
และนี่ก็เป็นที่มาของชื่อ "Gimli Glider"
ซึ่งหลังจากนั้นเครื่องบินพระเอกลำนี้ ก็ยังได้ถูกใช้บินเรื่อยมาจนปี 2008
2
กัปตันได้ถูกยกย่องและขนานนามว่าเป็นสุดยอดนักเครื่องร่อน เพราะไม่มีใครสามารถทำได้อย่างเขาอีกเลย.
1
เคสนี้ก็เป็นอีกหนึ่งเคส ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ หรือ Human error. แต่เป็นความโชคยังดีที่ไม่มีการสูญเสียถึงชีวิต แต่ก็เป็นประสบการณ์และจะเป็นเที่ยวบินในตำนานที่โลกต้องจำไปอีกนานแสนนานน เพื่อที่จะไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิมอีกเป็นแน่นอน..
ป.ล. เนื่องจากเคสนี้ยังมีข้อมูลทางเทคนิคอีกมากที่ไม่ได้กล่าวถึงในนี้ เพื่อให้เป็นการเข้าใจได้ง่ายขึ้น หากมีข้อผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยค่ะ^^
ขอให้ทุกเที่ยวบินปลอดภัย
Have a safe flight✈
#แอร์ป้าห้าดาว
credit

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา