17 เม.ย. 2019 เวลา 02:50 • ประวัติศาสตร์
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 (Henry VIII) กษัตริย์ผู้อื้อฉาวแห่งสหราชอาณาจักร ตอนที่ 8
ความผิดหวังซ้ำสองและการบาดเจ็บขององค์กษัตริย์
สมเด็จพระราชินีแอนน์ได้ให้พระประสูติกาลพระราชธิดาแก่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ในวันที่ 7 กันยายน ค.ศ.1533 (พ.ศ.2076)
เจ้าหญิงน้อยมีพระนามว่า “เจ้าหญิงเอลิซาเบธ (Elizabeth I of England)”
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงผิดหวังอีกครั้งที่พระราชบุตรของพระองค์ยังคงไม่ใช่พระราชโอรส
ในขณะที่พระองค์ยังคงสิ้นหวังกับการมีพระราชโอรส พระองค์ก็ยิ่งทรงเห็นแก่ตัวและโหดร้ายยิ่งกว่าเดิม
พระองค์ทรงเกรงว่าชาวอังกฤษอาจจะต่อต้านพระองค์จากการที่พระองค์ทรงแยกองค์ออกจากคริสตจักรคาทอลิก
พระองค์ยังทรงทราบอีกว่าประชาชนชาวอังกฤษไม่พอใจนักที่พระองค์ทรงหย่ากับสมเด็จพระราชินีแคทเธอรีน เนื่องจากสมเด็จพระราชินีแคทเธอรีนเป็นราชินีที่เป็นที่รักของประชาชน โดยเฉพาะเรื่องที่สมเด็จพระราชินีแคทเธอรีนทรงเป็นผู้นำในการต่อต้านพวกสก็อตแลนด์เมื่อคราวที่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ติดทัพกับฝรั่งเศส
พระองค์ทรงเกรงว่าประชาชนจะลุกขึ้นต่อต้านพระองค์
ปีค.ศ.1534 (พ.ศ.2077) พระองค์ทรงบังคับให้รัฐสภาออกกฎหมายรับรองว่าเฉพาะพระราชบุตรที่ประสูติจากสมเด็จพระราชินีแอนน์เท่านั้นที่สามารถเป็นองค์รัชทายาทได้ นอกจากนั้นยังให้ออกกฎหมายห้ามพูดถึงพระมหากษัตริย์ในทางเสียหาย มิเช่นนั้นจะถูกจับข้อหากบฎ และมีโทษถึงประหาร
พระองค์ทรงมอบหมายให้ “โทมัส ครอมเวลล์ (Thomas Cro mwell)” ที่ปรึกษาส่วนพระองค์คนใหม่ เป็นผู้ตรวจสอบว่าประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายนี้
1
โทมัส ครอมเวลล์ (Thomas Cro mwell)
ครอมเวลล์ได้จัดหาคนคอยสอดส่องผู้คน หากมีคนพูดถึงพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ในทางที่เสียหายก็จะถูกฆ่าทันที
แต่ใช่ว่าทุกคนจะเกรงกลัวและปฏิบัติตามครับ เซอร์ โทมัส มอร์ (Sir Thomas More) อดีตพระสหายและที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายเหล่านี้ ถึงแม้ว่าเขาจะรู้ว่าการต่อต้านกษัตริย์หมายถึงความตาย แต่เขาก็ยังคงยืนยันที่จะเป็นคาทอลิกและเดินตามคำสอนของพระสันตะปาปา ไม่ใช่พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8
ท่านเซอร์ถูกสั่งประหารชีวิตด้วยการตัดหัวเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ค.ศ.1535 (พ.ศ.2078)
1
พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงสามารถจัดการกับใครก็ได้ที่ไม่เห็นด้วยกับพระองค์
เดือนมกราคม ค.ศ.1536 (พ.ศ.2079) พระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ทรงตกจากหลังม้าในการแข่งขันที่จัดขึ้นที่พระราชวังพลาเซนเชีย พระองค์ทรงกระแทกพระเศียรกับพื้นและม้าของพระองค์ยังล้มทับพระองค์อีกต่างหาก ทำให้พระองค์ทรงหมดพระสติไปกว่า 2 ชั่วโมง และผู้คนต่างก็คิดว่าพระองค์คงจะต้องสวรรคตแน่ๆ
แต่พระองค์ก็ทรงฟื้นองค์ แต่พระองค์ก็ทรงเปลี่ยนไป ในเวลานี้พระองค์มีพระชนมายุ 44 พรรษาแล้ว พระองค์ทรงมีพระอาการปวดพระเศียรอย่างรุนแรงและพระอูรุ (ขา) ของพระองค์ก็เกิดติดเชื้อขึ้นมาอีก ทำให้การพระดำเนินของพระองค์เป็นไปได้อย่างยากลำบาก
1
อาจจะเพราะอาการบาดเจ็บของพระองค์ทำให้พระองค์ทรงโมโหและมีพระสติเกรี้ยวกราดเกือบตลอดเวลา และการที่พระเศียรของพระองค์กระแทก อาจจะทำให้พระสมองของพระองค์ได้รับบาดเจ็บ
ตอนต่อไปจะเป็นอย่างไรต่อไป ผมจะมาเล่าต่อนะครับ
โฆษณา