27 มิ.ย. 2019 เวลา 13:29
เรื่องสั้น : Decomposer (ผู้ย่อยสลาย)
1
มีกลุ่มคนบางกลุ่มที่เชื่อว่า การทานอาหารที่เพาะปลูกด้วยเกษตรอินทรีย์เท่านั้นที่จะเป็นทางเดียวของการอยู่รอด ในโลกที่เต็มไปด้วยมลภาวะ สารเคมี สารพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อมรอบตัว อย่างน้อยก็ช่วยให้ชีวิตไม่ลดทอนลงไปมากนัก
"รายงานข่าวเช้านี้ มีผู้แจ้งหลังพบหลุมศพจำนวนหนึ่งถูกขุดค้น พบทรัพย์สินหายไปหลายรายการ และศพทั้งหมดก็ถูกนำไปด้วยเช่นกัน คาดว่าคงเป็นมิจฉาชีพที่ต้องการของมีค่า แต่การนำศพไปด้วยเป็นข้อสงสัยที่ตำรวจกำลังตามสืบสวนอยู่ และ..."
"บ้าไปแล้ว!" วิทยุเครื่องเก่าคร่ำคร่าถูกปิดลงทันที การรายงานข่าวยังไม่จบด้วยซ้ำ
ฮัว หญิงสาวโสดร่างกายกำยำผิดจากหญิงสาววัยเดียวกัน ผุดลุกจากโต๊ะอาหาร เธอกำลังทานอาหารเช้าเป็นอาหารสดเพื่อสุขภาพ ทั้งสลัดผักสีเขียวสด มะเขือเทศลูกเขื่องผิวมันวาวสีแดงที่ถูกฝานวางลงในถ้วยสลัดอย่างสวยงาม น้ำมันมะกอกสีเขียวใสมรกตวางอยู่ด้านข้าง ทั้งหมดยังไม่ทันถูกรับประทานด้วยซ้ำ ฮัวก็ลุกขึ้นปิดวิทยุแล้วคว้าถ้วยสลัดทั้งถ้วยโยนลงถุงดำใบใหญ่ที่อยู่ในครัว
"หมดกัน มื้อเช้าของฉัน ฟังข่าวแล้วจะอาเจียน จะรายงานเรื่องบ้า ๆ ทำไมเนี่ย ช่วงเวลานี้ใคร ๆ ก็กินข้าวกัน บ้าจริง!
ฮัว คว้ากุญแจรถกระบะเก่าใกล้พังที่จอดอยู่ที่โรงรถด้านหลังบ้าน เธอเตรียมของใส่ท้ายรถไว้หมดแล้ว กำลังจะมุ่งหน้าเข้าไปในเมืองที่ห่างออกไปราวยี่สิบกิโลเมตร เพื่อนำผักสด ผลไม้ และพืชผลต่าง ๆ ที่เพาะปลูกเองในสวนขนาดสิบกว่าไร่ของเธอไปขายให้พ่อค้าที่ตลาดสดในตัวเมือง
แม้ว่าเธอจะทำสวนที่กว้างใหญ่นี้เพียงคนเดียว แต่เธอก็ดูแลสวนผักเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี คงเพราะเธอมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นพิเศษ ซึ่งฮัวเชื่อว่าเกิดจากการทานอาหารปลอดสารเคมีทั้งหมดที่เธอปลูกเองกับมือ
ฮัว ขับรถมาจอดข้างร้านขายผักของลุงหยาง ลูกค้าผักเก่าแก่ตั้งแต่สมัยพ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่ ลุงหยางเป็นลูกค้าประจำของครอบครัวฮัวมานานหลายสิบปีแล้ว ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันมาตลอด เพราะความซื่อสัตย์และน้ำใจของคนชนบทนั่นเอง ทำให้เมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ยังอยู่กันได้โดยไม่ต้องอาศัยเม็ดเงินจากคนนอกมากนัก
คนที่นี่จึงรู้จักกันเป็นอย่างดี และไม่เคยมีเหตุอาชญากรรมใดๆ เรียกว่าเงียบสงบและปลอดภัย ผู้คนต่างไม่ต้องกังวลเรื่องร้ายใดๆ เลยก็ว่าได้
"อาฮัว...ลื้ออยู่ที่บ้านคนเดียวก็ระวังตัวหน่อยนา อั๊วฟังข่าวตอนเช้าแล้วใจคอไม่ดี ลื๊อยิ่งชอบไปแวะไหว้ป๊าลื๊อที่สุสานบ่อย ๆ ระวังหน่อยนา รู้ข่าวใช่มั้ยเนี่ย"
บทสนทนาเกิดขึ้นขณะที่ทั้งสองกำลังกำลังช่วยกันขนผักลงจากท้ายรถ ผักหลายเข่งกำลังจะถูกส่งมอบและกระจายสู่ชุมชน แต่เห็ดดอกขนาดยักษ์ดูน่ารับประทานสะดุดตาลุงหยางเป็นพิเศษ
"เห็ดอะไรเนี่ยอาฮัว น่ากินจิงๆ กินได้แน่เหรอ อั๊วไม่เคยเห็นมาก่อนเลย'
"กินได้สิลุง หนูทานทุกวันหล่ะ รสชาติดีนะ เพิ่งเอามาเพาะได้ซักพักแล้ว พอได้จำนวนเลยเอามาขาย" ฮัวปิดกระบะท้ายรถดังปัง ตัวรถสั่นราวกับจะหลุดออกมาเป็นชิ้นๆ
"เอานี่เงินค่าผัก ส่วนนี่เอาไว้กินบ้าง อย่ากินแต่ผักหล่ะ ร่างกายจะได้แข็งแรง อ่อ แล้วล้างกระบะหลังรถบ้างซี่ กลิ่นตุตุแล้ว ไม่ค่อยมีเวลาซิลื๊อเนี่ย ทำสวนคนเดียวคงเหนื่อยน่าดู ไม่ลองหาแฟน.."
ยังไม่ทันสิ้นคำ ฮัวคว้าเงินจากมือลุงหยาง ก้าวเท้ายาวๆ รีบเปิดประตูรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งชายชราที่กำลังทำหน้าฉงนไว้เบื้องหลังอย่างไร้คำร่ำลา
ในหนึ่งสัปดาห์ ฮัวจะแวะเข้ามาในเมืองเพื่อส่งผัก ทำธุระ และซื้อของใช้อาหารแห้ง เครื่องเทศต่าง ๆ พอประมาณ เพื่อเอาไปใช้ที่บ้าน เพราะสวนของฮัวอยู่ห่างออกมาจากเพื่อนบ้านพอสมควร
เพื่อนบ้านหลังที่ใกล้สุด ไกลออกไปถึงสี่กิโล ระหว่างทางกลับบ้านถ้ามีโอกาสฮัวจะแวะสุสานเพื่อไปไหว้หลุมศพของพ่อเสมอ ส่วนแม่ของฮัวนั้น พ่อบอกว่าแม่ทิ้งทั้งสองไปตั้งแต่ฮัวยังจำความไม่ได้ เพราะทนสภาพความแร้งแค้นของชนบท และงานในสวนที่ต้องทำงานอย่างหนักไม่ไหว เธอจึงไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้าแม่ของตนเองเลย รูปถ่ายซักใบก็ไม่มีให้ดูต่างหน้าด้วยซ้ำ
หลังเสียงประตูบ้านถูกปิดอย่างไม่ปราณีจนคนที่ได้ยินอาจถึงกับสะดุ้ง ฮัวรีบรุดเข้าไปในครัว หยิบมีดปังตอคมกริบสะท้อนแสงไฟวูววาบที่ยาวร่วมเชียะจากลิ้นชัก มืออีกข้างเปิดตู้แช่แข็งหยิบถุงดำดูเกรอะกรังออกมา
ฮัวหิ้วมันไปที่โรงเก็บของหลังบ้านด้วยท่าทางทุลักทุเลเพราะน้ำหนักที่มากเอาการของถุงขยะสีดำขนาดใหญ่ที่อยู่ในมือ
หลอดไฟสีส้มส่องแสงสว่างเรื่อ ๆ ไปบนพื้นโต๊ะในโรงเก็บของ บนโต๊ะมีเขียงไม้ขนาดใหญ่ มีดปังตอสับคาอยู่บนเขียง ฝังลึกลงในเนื้อไม้ ดูแล้วเหมือนมันคงถูกเหวี่ยงด้วยความโมโหสุดขีดทีเดียว
ฮัวเปิดถุงหยิบเอาส่วนหัวขึ้นมาก่อน มันอยู่ในสภาพเกือบแข็ง ดวงตาที่เบิกโพลงมันเป็นฝ้าขาวมองไม่เห็นตาดำด้วยซ้ำ
มีดถูกสับลงกลางส่วนหัวเต็มแรง ลูกตากระเด็นออกมาจากเบ้าตกลงไปที่พื้น ฮัวขยับตัวจนเผลอเหยียบเข้าเต็มแรง ของเหลวในลูกตากระเซ็นออกเป็นทางยาว เธอสับปังตอครั้งแล้วครั้งเล่า ชิ้นส่วนต่าง ๆ แยกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ก้อนเลือดที่แข็งเริ่มละลายไหลรินลงข้างเขียง กลิ่นคาวคลุ้งไปทั่ว
เธอเอามีดเลาะเอาส่วนท้องเปิดออก ควักเอาไส้และเครื่องในออกมากองไว้ แล้วค่อยแล่เนื้อติดกระดูกออกอย่างชำนาญ จากนั้นสับกระดูกออกเป็นท่อนๆ เพื่อให้ง่ายในขั้นต่อไป เธอยืนสับชิ้นส่วนอวัยวะเหล่านั้นชิ้นแล้วชิ้นเล่า จนเลือดไหลนองไปทั่วโต๊ะ จริง ๆ ชิ้นส่วนพวกนี้เป็นส่วนที่เหลือจากส่วนที่เป็นเนื้อซึ่งฮัวใช้ปรุงอาหารไปเมื่อหลายวันก่อน เธอเก็บส่วนที่ทานยากเอาไว้เพื่อการนี้ เธอใช้ทุกชิ้นส่วนอย่างมีคุณค่าเสมอ
ฮัว กอบเอาเศษเนื้อเศษกระดูก และอวัยวะภายในที่แล่และสับจนเกือบเละ รวมกันแล้วกรอกลงใส่โถแก้วใส ด้านล่างมีท่อต่อปิดเปิดให้ของเหลวด้านในไหลออกมาได้
เธอใส่เศษเนื้อพวกนั้นลงในโถจนเต็ม เติมน้ำสีดำกลิ่นฉุนลงไปอีกหน่อย เติมน้ำสะอาดลงจนท่วมเศษซากอดีตสิ่งมีชีวิตพวกนั้น ไส้บางพวงที่ยังไม่ขาดจากกันดี ยังลอยแกว่งไปตามแรงน้ำที่ถูกเทลงในโถ เธอปิดฝาอย่างแน่นหนาเพื่อให้แน่ใจว่ากลิ่นเหม็นที่จะเกิดขึ้นอีกไม่ช้าจะไม่ส่งกลิ่นออกมารบกวนเวลาเธอกลับมาทำงานในห้องนี้อีกคราวหน้า
ฮัว เปิดผ้าคลุมโถแก้วที่เรียงรายอยู่ข้าง ๆ อีกนับสิบ มีเครื่องหมายแสดงให้รู้ว่าโถไหนใช้การได้ เธอเปิดให้น้ำสีน้ำตาลเข้มเกือบดำไหลออกจากท่อ เพื่อใส่ลงในถังพลาสติกใบพอประมาณ พอเต็มเธอปิดฝาแล้วยกออกมาวางไว้ด้านนอก เพื่อรอนำไปรดแปลงผักที่เธอกำลังเตรียมดินไว้ก่อนหน้า
1
น้ำหมักจากเศษซากปลา เป็นเคล็ดลับที่ทำให้ผักในสวนของฮัวสดอวบอ้วน และขายได้ราคา การที่สวนอยู่ไกลชุมชน ช่วยลดปัญหาที่เพื่อนบ้านบ่นเรื่องกลิ่นได้ดีทีเดียว
ตีสี่กว่าท้องฟ้ายังมืดมิด ฮัวถือไฟฉายเดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่ถางให้โล่ง เพื่อเดินไปยังโรงเรือนที่เพิ่งทำมาใหม่ ไกลออกไปด้านหลังสวนเกือบสุดเขตที่ดินด้านหลังติดหน้าผาสูง ฮัวหยิบหน้ากากกรองอากาศชนิด N100 มาสวมเข้า ขยับให้กระชับ เปิดประตูโรงเรือนและเปิดหน้าต่างข้าง ๆ เพื่อให้อากาศในโรงเรือนถ่ายเทออกไปก่อน เพราะในโรงเห็ดมักอับชื้นและออกซิเจนต่ำมาก อันตรายต่อการเข้าไปโดยไม่ระวังตัว แถมโรงเห็ดของฮัวนั้นมีกลิ่นเหม็นที่ร้ายกาจเสียด้วย
พอเปิดไฟ แสงสว่างส่องให้เห็นกองดินหนาพูน เรียงรายเป็นกอง ๆ เกือบสิบกอง ด้านบนปูทับด้วยเศษใบไม้แห้งเศษฟางหนา ด้านบนมีเห็ดกำลังอวบอ้วน แข่งกันชูก้านขึ้นเป็นกอ กระจายอยู่ทั่วกองดิน เห็ดแต่ละดอกอวบใหญ่แสดงให้เห็นถึงความอุดมของดินและแร่ธาตุด้านล่าง
ฮัวค่อยๆเสียบหูฟังกับ ipod แล้วเหน็บเครื่องเล่นเข้ากับกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เสียงดนตรีเริ่มบรรเลง
1
" ~เหมย.... ฮัวเหมย...... ฮัวมาน เทียนเซีย..~ "
เพลงเหมยฮัวกำลังเริ่มขับกล่อม ฮัวก้มลงเด็ดดอกเห็ดใส่ตระกร้าที่คล้องแขนไว้ ดอกเห็ดดอกใหญ่ทานได้ เป็นของแปลกใหม่ของที่นี่ รสชาติดีและเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญอีกอย่างที่ฮัวทานเป็นประจำเพื่อชดเชยที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ใหญ่อื่นๆ
เธอก้มหน้าก้มตาเก็บอย่างเพลิดเพลินพร้อมไปกับเสียงดนตรี พลันเหลือบไปเห็นนิ้วมือมนุษย์ที่เริ่มเน่าจนเละ มีหนอนแมลงวันที่กำลังกัดกินเนื้อเน่าๆ ที่นิ้วกลาง มันยื่นโผล่พ้นขึ้นมาด้านข้างกองดิน เธอรีบโกบเอาดินข้าง ๆ กลบแล้วเอาฟางถมให้มิด จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตาเก็บเห็ดต่อไป พร้อมฮัมเพลงอยู่ใต้หน้ากากงึมงัมเพียงลำพัง
'ชาวบ้านคงชอบเห็ดชุดนี้ ดอกใหญ่น่าทานมากๆ เป็นแหล่งอาหารที่สุดยอดจริงๆ"
เห็ด Hebeloma mesophaeum เป็นเห็ดกินได้ที่มีชื่ออีกอย่างว่า
"Corpse finder"
สร้างสรรค์ความสะพรึงโดย Deux @ storylog

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา