13 ก.ค. 2019 เวลา 09:00 • ประวัติศาสตร์
ซีรีย์ : ไซซี หญิงงามผู้รักชาติยิ่งกว่าชีวิต ตอนที่ 3
สำหรับเรื่องไซซีพาร์ทนี้เป็นสุดท้าย หลังจากที่เราปูพื้นประวัติศาสตร์กันมา2พาร์ทแล้ว พาร์ทนี้จะเข้าสู่เรื่อง
ไซซีจริงๆแล้วค่ะ
1
ถ้าหากท่านผู้อ่านยังไม่ได้อ่านพาร์ท1และ2 เพียวแนะนำให้อ่านก่อนนะคะ เพื่อที่จะได้รู้ที่มาที่ไปของเรื่องและเป็นการปูพื้นประวัติศาสตร์ด้วย
เพียวแปะลิ้งค์พาร์ท1และ2 ไว้ที่ท้ายบทความค่ะ😄
หลังจากที่อ๋องโกวเจี้ยนได้ถูกปล่อยตัวกลับแคว้นแล้ว ก็ได้วางแผนที่จะแก้แค้นอ๋องฟูไช โดยการใช้อุบายหญิงงาม จึงให้ฟ่านหลีออกเดินทางไปทั่วแคว้นเยว่ เพื่อตามหาสาวงาม
2
หลังจากที่ฟ่านหลีออกตามหาสาวงามทั่วแคว้น ก็ได้เจอสาวที่งามที่สุดอยู่ 2 คน คือ ไซซีและเจิ้งต้าน ทั้ง2คนเป็นลูกสาวคนตัดฟืนทั้งคู่
อ๋องโกวเจี้ยนจึงสั่งให้ฟ่านหลี เป็นผู้อบรมหญิงงามทั้งสอง ให้มีอุดมการณ์รักชาติ เป็นเวลานานถึง 3 ปี
นอกจากนี้ไซซีและเจิ้งต้านต้องเรียนบริหารเสน่ห์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการร้อง เต้นรำ เล่นดนตรีหรือแม้เเต่วิธีการเอาใจบุรุษ
เมื่อทั้ง2 คนพร้อมแล้ว อ๋องโกวเจี้ยนจึงส่งทั้งคู่ไปเป็นเครื่องบรรณาการที่แคว้นอู๋
อ๋องฟูไชเมื่อได้เห็นหญิงงามทั้งสอง ก็ลุ่มหลงอยู่กับเสน่ห์ของนาง จนไม่สนใจบริหารบ้านเมือง
และเนื่องจากอ๋องฟูไชหลงใหลในตัวไซซีมากกว่าเจิ้งต้าน จึงทำเจิ้งต้านน้อยใจและผูกคอตาย
3
ในขณะเดียวกันเมื่อเสนาบดีเห็นว่าอ๋องฟูไชละเลยหน้าที่ของตนจึงเตือนพระองค์ถึงเรื่องไซซี แต่ไซซีเมื่อเห็นว่าอ๋องฟูไชหลงตนมาก จึงยุยงให้อ๋องฟูไชเกลียดเหล่าเสนาบดีของตน ซึ่ง1ในนั้นคือซุนวู อ๋องฟูไชหลงเชื่อคำไซซี จนถึงขนาดสั่งประหารเหล่าเสนาบดีทั้งหมดโดยการบังคับให้ฆ่าตัวตายด้วยกระบี่ เมื่อซุนวูเห็นท่าไม่ดีจึงชิงลาออกจากการเป็นเสนาบดีแล้วไปอยู่ที่ชนบท
ด้านฝั่งโกวเจี้ยนก็แอบไปผูกสัมพัธ์กับแคว้นอื่นๆ เพื่อยุยงให้ไปทำสงครามกับแคว้นอู๋ตลอดเวลา
ผ่านมา13ปี ที่แคว้นอู๋ทำสงครามกับแคว้นอื่นๆตลอดเวลา ก็อ่อนแอลงเรื่อยๆ
1
สุดท้ายอ๋องโกวเจี้ยนตัดสินใจยกทัพไปตีแคว้นอู๋ เมื่ออ๋องฟูไชเห็นว่าตนเองกำลังจะแพ้จึงตัดสินใจขอสงบศึกแต่อ๋องโกวเจี้ยนไม่ยอมและได้ฆ่าอ๋องฟูไช
1
ก่อนตายอ๋องฟูไชได้ขอให้อ๋องโกวเจี้ยนเอาผ้าคลุมหน้าศพของตนก่อนฝัง เพราะไม่มีหน้าจะไปพบกับเหล่าเสนาบดีที่ภักดีต่อพระองค์ แต่พระองค์กลับไม่เชื่อทั้งยังสั่งประหาร เพราะหลงเชื่อคำยุยงของไซซี
2
เมื่อแคว้นอู๋ซึ่งเป็นแคว้นใหญ่ในตอนนั้นได้แตกลง ก็ทำให้ยุคชุนชิวจบลงด้วยเช่นกัน และเข้าสู่ยุคใหม่คือยุคจ้านกั๋ว
2
หลังจากเหตุการณ์นี้ไซซีจะเป็นยังไง
3
ข้อสันนิฐานแรก กล่าวว่า หลังจากที่อ๋องฟูไชตาย อ๋องโกวเจี้ยนก็รับไซซีกลับไปที่แคว้นเยว่ แต่ว่าชายาของอ๋องโกวเจี้ยนหึง จึงสั่งให้จับไซซีไปกดน้ำตาย
1
ข้อสันนิฐานที่2 กล่าวว่า เมื่อตอนที่อ๋องโกวเจี้ยน
บุกเข้ามาแคว้นอู๋ ทำให้อ๋องฟูไชโกรธไซซีมาก จึงสั่งประหารไซซี
ส่วนข้อสันนิฐานสุดท้าย เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่เชื่อกันมากที่สุด คือ เสนาบดีฟ่านหลีรู้จักนิสัยของอ๋องโกวเจี้ยนดีว่า “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล” จึงรีบลาออกจากการเป็นเสนาบดีและได้พาไซซีหนีไปอยู่ด้วยกัน จากนั้นฟ่านหลีได้เปลี่ยนชื่อเป็นเถาจูกง (ซึ่งชาวจีนนับถือว่าเป็นเทพแห่งการค้าขาย เนื่องจากฟ่านหลีเป็นคนที่เขียนตำราเกี่ยวกับการค้าขายไว้มากมายและเป็นคนที่ฉลาดในการใช้คนให้ถูกกับนิสัยของคนๆนั้นด้วย)
ฟ่านหลี
บทเสริม
ไซซีเป็น1ใน4 สาวงามของประวัติศาสตร์จีน และได้รับฉายาว่า "มัจฉาจมวารี" เพราะว่า เมื่อฟ่านหลีได้พบนางครั้งแรกขณะที่นางไปซักผ้าฟอกด้ายอยู่ริมแม่น้ำ แล้วได้เห็นหมู่มัจฉาต่างก็พากันชมโฉมอันเลอเลิศของนางจนลืมแหวกว่ายและจมสู่ก้นธารา
บางตำนานเล่าว่า ระหว่างที่ไซซีไปอบรบอยู่กับฟ่านหลี ทั้งสองคนก็ได้ตกหลุมรักกัน แต่ด้วยอุดมการณ์รักชาติ ทั้งสองจึงยอมเสียสละ
ทั้งยังมีเรื่องเล่าว่าไซซีสามารถชนะซุนวู ได้ด้วยวาทศิลป์
3
ซุนวู
มีช่วงหนึ่งซุนวูได้นำหญิงสาวจำนวนหนึ่งมาฝึกฝน
กลยุทธ์หลายต่อหลายครั้ง ในการฝึกครั้งนั้นทำให้หญิงสาวหลายคนบาดเจ็บ บางคนถึงกับฆ่าตัวตาย
ทำให้เขามีทัศนะคติต่อผู้หญิงว่า ผู้หญิงนั้นไม่มีประโยชน์อะไรในการสงคราม เพราะว่าไม่มีพละกำลังและความเป็นผู้นำทัดเทียมกับผู้ชาย
เมื่อไซซีทราบเรื่องเธอก็ทนไม่ไหวที่ซุนวูดูถูกผู้หญิง
เธอจึงตัดสินใจเข้าไปหาซุนวูเพื่อให้เขาเปลี่ยนแนวคิดเรื่องผู้หญิงให้ได้ และเธอก็ต่อสู้ด้วยวิธีของผู้หญิง นั่นคือ วาทศิลป์
เธอชี้ให้ซุนวูเห็นว่าหากขาดซึ่งผู้หญิงแล้ว ต่อให้ผู้ชายชนะสงครามก็ไม่อาจทำให้กิจการบ้านเมืองดำรงต่อไปได้เพราะ ผู้ชายไม่สามารถสืบทายาท หากขาดซึ่งผู้หญิง
และเธอยังหลอกด่าซุนวูด้วยว่า สิ่งใดๆก็แล้วแต่ที่เขา
ได้พูดเกี่ยวกับผู้หญิงในทางไม่ดี คงเพราะที่แท้
มารดาของเขาก็ไม่ใช่ผู้หญิง
นอกจากนี้เธอยังแสดงให้เห็นว่าในขณะที่ผู้ชาย
ลำบากแทบตายเพื่อทำบางสิ่ง แต่ผู้หญิงเพียงแค่ใช้คำพูดไ่ม่กี่คำ ยิ้มแย้ม หรือออดอ้อน ผู้ชายต่างหากที่เป็นฝ่ายมายอมทำแทนให้แบบถวายชีวิต
และด้วยเหตุผลยิบย่อยอีกหลายต่อหลายข้อ อีกทั้งมีการยกประวัติศาสตร์ ทั้งเรื่องของราชวงศ์และคนธรรมดา ทำให้ซุนวูถึงกับจนมุม
และตั้งแต่นั้นเขาก็เลิกพูดจาดูถูกผู้หญิง อีกทั้งนุ่มนวลกับผู้หญิงมากขึ้น จากเหตุการณ์นี้ผู้คนจึงขนานนามเพิ่มให้กับไซซีว่า “ไซซี ยอดหญิงงามผู้สยบจอมยุทธ์
มีชัยเหนือซุนวู”
และยังมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับสติปัญญาอันลึกล้ำของ
ไซซีอีกด้วยว่า ครั้งหนึ่งอ๋องฟูไซฝันร้ายเห็นตะวันดับลับฟ้า ทะเลเหือดแห้ง ภูเขาพังทลาย และดอกไม้เฉาโรย
4
ขุนนางชื่อ หวู่จื่อซี จึงเตือนสติว่า เป็นเพราะท่านอ๋องละเลยราชการแผ่นดิน ลุ่มหลงในสุรานารี ในขณะที่
โกวเจี้ยนนอนหนุนฟืนแข็ง กินดีขม จ้องล้างแค้น จึงควรฆ่าโกวเจี้ยน แล้วไล่หญิงงามจากแคว้นเยว่ออกไป
1
เมื่อฟูไชได้ฟังก็กังวล แต่ยังตัดใจไม่ลง
ครั้นเมื่อไซซีรู้เข้าก็แก้เกมโดยแสร้งหัวเราะแล้วบอกว่า
ขุนนางท่านอ๋องพวกนี้ล้วนไม่เอาไหน นี่เป็นฝันดีแท้ๆ
ก็ไม่เข้าใจ อ๋องฟูไชจึงสงสัยและถามว่าฝันนี้ดียังไง
ไซซีจึงแก้ฝันเป็นบทกวีว่า
1
ซึ่งฝันว่าตะวันดับลับขอบฟ้า ดาวธรรมราชาจะปรากฏ ฝันว่าทะเลเหือดแห้งหมด มกรยศจะกระเดื่องพระเดชา
ภูเขาพังแผ่นดินจะราบคาบ เพราะพระปราบอริสิ้นทุกทิศา
ซึ่งฝันว่าดอกไม้หมองโรยรา พืชพรรณธัญญาจะสมบูรณ์
เหตุนี้เองจึงทำให้อ๋องฟูไชลุ่มหลงในความฉลาดไซซี
ขอบคุณท่านผู้อ่านทุกท่านที่ติดตาม🙏
และฝากกดไลค์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ❤
โฆษณา