5 ส.ค. 2019 เวลา 12:21 • ปรัชญา
EP6
เราไม่ไช่...
เมื่อเราท่านลองนั่งสมาธิ ลองให้จิตมีสติตั้งอยู่กับลมหายใจ
ยึดอยู่กับกายในกายคือธาตุตามธรรมชาติหนึ่ง
วาโยธาตุ ลมหายใจนั่นเอง
ความจริงคือจิตควบคุมได้ยากมาก เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว
เรามักจะเผลอไปก่อนเป็นหลายๆนาที จึงเรียกสติกลับมา
ลมหายใจของเราคือกาย เดี๋ยวก็ไปนึกคิดอดีตที่จำอยู่คือสัญญาธาตุ
เดี๋ยวก็ไปปรุงแต่งอนาคตคือสังขารธาตุ
เดี๋ยวก็ไปรู้สึกเป็นสุขทุกข์หรือเฉยๆคือเวทนาธาตุ
และเมื่อมีอาการรู้แจ้งคือวิญญาณธาตุก็ติดยึดกับอารมณ์นั้น
เพลิน พอใจ หลง ยึดมั่นเป็นตน
แต่ครู่หนึ่งก็ดับไป จิตก็เปลี่ยนที่ใหม่วนเวียนอยู่ตลอด
การนั่งสมาธิทำให้เราค่อยๆมองเห็น
เราไม่สามารถควบคุมสิ่งที่เราคิดว่าเป็นตัวเราที่กล่าวมานั้นได้สักอย่าง
กายก็หายใจของมันไปเราก็แค่มองลมที่เข้าออก
ความคิดอดีตอนาคต ความสุขทุกข์พอละรับรู้ก็ดับไป
จิตวิญญาณนี้ก็พอดับหรือจุติก็เกิดใหม่มาทันควัน
ไม่ได้อยู่ในความควบคุมเลย
พระพุทธเจ้าทรงสอนบ่อยที่สุดก็คือ
สิ่งที่เรายึดถือว่าเป็นเรานี้ไม่ไช่ตัวตนของเรา
เพราะทุกอย่าง เกิดขึ้น เสื่อม และดับไป
จิตวิญญาณนั้นก็เป็นธาตุตามธรรมชาติ
ที่ตามคดโกงเรามาตลอด
ถ้าเราไม่นั่งสมาธิก็คงไม่ทันเห็นจิต เพราะเกิดดับ แต่ไวมาก
หลอกเราว่ามันคือเรา
อย่างไรก็ตาม
ขออัญเชิญคำพระสูตรของตถาคต ผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธะ
มาไว้ที่ภาพประกอบ
ทั้งนี้เพื่อให้เราท่านต่างได้
เห็นอ่านเห็นสัมผัสใจปัญญาเกิด
น้อมรำลึกในธรรมอันประเสริฐของพระองค์
ราวกับได้นั่งอยู่ใกล้ๆและรับฟังธรรมนั้นจากพระโอษฐ์ตรงๆ
ด้วยตัวท่านเอง
เมื่อนั่งสมาธิบ่อย เราท่านจะเห็นความจริงได้โดยไม่ยาก ถึงความจริงของความไม่เที่ยง
นั่นไม่ไช่ของเรา นั่นไม่ไช่เป็นเรา นั่นไม่ไช่ตัวตนของเรา เห็นตามจริงด้วยปัญญา ไม่มีความเห็นส่วนอดีต ส่วนอนาคต ไม่มียึดมั่นอย่างแรงกล้า จิตจางคลายกำหนัดในขันธ์ หลุดพ้นจากอาสวะ จิตดำรงอยู่ จิตร่าเริง จิตไม่หวาดสะดุ้ง ปรินิพพานเฉพาะตน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา