11 ส.ค. 2019 เวลา 08:24 • ปรัชญา
ขงจื่อ
ตอนที่ 12
ทอนสามกำแพงเมือง
ขงจื่อเป็นผู้ที่ยึดมั่นในหลักการแห่งจริยธรรม ทั้งยังเป็นผู้ที่มีความจงรักภักดีต่อชาติบ้านเมืองอย่างหาที่สุดมิได้ ดังนั้นขงจื่อจึงพยายามคิดหาวิธีที่จะกอบกู้ศักดิ์ศรีแห่งชาติ และสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้เป็นสังคมกินดีอยู่ดีให้กับประชาชนอยู่ตลอดเวลา
ตามระบอบจริยธรรมของสังคมเมืองหลู่ในสมัยนั้น ล้วนมีการกำหนดแบบแผนและข้อกำหนดของแต่ละชนชั้นไว้อย่างเคร่งครัด เป็นต้นว่าพิธีสังคีตบูชา ชั้นกษัตริย์จะใช้พิธีอัฏฐสังคีตบูชา คือขบวนร่ายรำที่จะมีผู้รำเป็นแบบแปดคูณแปดคน ส่วนเจ้าแคว้นจะใช้พิธีฉกสังคีตบูชา คือขบวนร่ายรำที่มีผู้รำเป็นแบบหกคูณหกคน ลำดับถัดมาคือขุนนาง ก็จะใช้ขบวนพิธีแบบจตุรสังคีตบูชาที่เป็นขบวนร่ายรำที่มีผู้รำแบบสี่คูณสี่คน นอกจากพิธีสังคีตบูชาแล้ว ในส่วนของกำแพงเมืองก็ยังกำหนดมาตรฐานความสูงให้ลดหลั่นตามระดับของชนชั้นให้สมกับฐานะอีกด้วย ทั้งนี้เพื่อป้องกันการปัญหาการคิดคดก่อการกบฏนั่นเอง
แต่สำหรับสังคมหลู่ที่เจ้าเมืองมีความอ่อนแอ อำนาจการเงินและการปกครองล้วนถูกควบคุมโดยสามตระกูลใหญ่ คือตระกูล จี้ซุน สูซุน และเมิ่งซุนแล้ว พวกเขาทั้งสามต่างแข่งขันกันสร้างบารมีโดยไม่ยี่หระต่อธรรมเนียมปฏิบัติแห่งจริยธรรมแต่อย่างใด ธรรมเนียมระบุว่าชั้นขุนนางใช้พิธีสังคีตได้แค่จตุรสังคีตบูชา แต่พวกเขาก็นำอัฏฐสังคีตบุชาไปทำการร่ายรำในบ้านของตนเอง ธรรมเนียมระบุว่ากำแพงเมืองของเจ้าแคว้นก่อสูงได้ไม่เกินสิบแปดเฉียะ ส่วนกำแพงของขุนนาง แน่นอนว่าจะต้องต่ำยิ่งกว่า แต่สามตระกูลผู้มีอิทธิพลกลับสร้างกำแพงเมืองเกินสิบแปดเฉียะ และซ่องสุมกำลังพลเกินกว่าที่กำหนดกันทั้งสิ้น หากปล่อยให้สถานการณ์ดำเนินเช่นนี้ต่อไป สักวัน พวกสามตระกูลใหญ่จะต้องคิดคดก่อการกบฏเป็นแน่แท้ และสิ่งนี้ก็เป็นสิ่งที่ขงจื่อกังวลใจยิ่งนัก
เรื่องการก่อสร้างกำแพงเมืองเกินมาตรฐานธรรมเนียมปฏิบัติ เจ้าแคว้นหลู่และผู้คนน้อยใหญ่ต่างรับรู้กันไปทั่ว หากแต่ไม่มีผู้ใดกล้าที่จะนำเสนอว่ากล่าวในเวลาออกขุนนางเลยสักคน ด้วยเพราะทุกคนต่างเกรงกลัวในอำนาจบารมีของสามตระกูลนั่นเอง แต่แล้ววันหนึ่ง ในพิธีออกขุนนางเช้า ขงจื่อได้ถือโอกาสขึ้นกราบทูลปัญหานี้ต่อหน้าขุนนางน้อยใหญ่ ขงจื่อได้อ้างถึงความชอบธรรมตสามหลักจริยธรรม อ้างถึงสิ่งที่ขุนนางควรยึดถือ อ้างถึงหลักการจงรักภักดีและความเหมาะสม จนยังให้ขุนนางทั้งสามจนด้วยปัญญา และต่างอึกอักกล่าวโทษว่าเป็นฝีมือของลูกน้องที่กระทำการโดยไม่บอกกล่าว จนสุดท้ายก็ต้องพลอยเห็นคล้อยให้ทอนกำแพงเมืองลงอย่างเสียไม่ได้
ดังนั้นในปีหลู่ติ้งกงที่ 12 (ก่อนคริสตศักราชที่ 498 ปี) ขงจื่อได้สั่งให้ลูกศิษย์ที่ชื่อว่าจื่อลู่ นำกองกำลังเข้าทอนกำแพงเมืองทั้งสามให้ต่ำลง แม้นสุดท้ายขงจื่อจะทำการทอนกำแพงเมืองได้เพียงสองเมืองก็ตาม แต่ก็นับว่าได้ช่วยกอบกู้ศักดิ์ศรี และยกฐานะความศักดิ์สิทธิ์แห่งราชวงศ์ให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาเนิ่นนาน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา