15 ส.ค. 2019 เวลา 13:24
Where we could meet
Chapter 5
“องค์หญิงฟลอร์ ถึงเวลาทานข้าวเย็นแล้วนะเพคะ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นตามด้วยเสียงของคุณพริสเทียที่กล่าวอย่างร้อนรน
หญิงสาวในห้องไม่ยอมก้าวออกมาจากประตูตั้งแต่จบช่วงดื่มน้ำชา โชคดีที่วันนี้ท่านพ่อของเธอเดินทางไปดูงานนอกพระราชวัง ไม่งั้นพริสเทียคงโดนตำหนิแน่ๆ
“เดี๋ยวไปค่ะคุณพริสเทีย...” ฟลอร์พึมพำเบาๆ ในสมองของเธอยังมีเรื่องต้องคิดมากกว่าที่จะมากังวลเรื่องอาหาร หรือเรื่องที่ว่าคุณพริสเทียด้านนอกจะได้ยินเสียงของเธอรึเปล่า
หญิงสาวทิ้งตัวลงนอนอยู่บนเตียง เธอยกมือขึ้นบังแสงไฟจากโคมไฟระย้าบนเพดาน มองภาพตรงหน้าเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจ
‘เรื่องแบบนี้ ถ้าคุยกันดีๆก็สบายแล้วแท้ๆ’ ฟลอร์ถอนหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นนั่งแล้วก้าวลงจากเตียง
“เอาเถอะ เครียดไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา กินก่อนก็แล้วกัน”
“ฟลอร์ พรุ่งนี้เจ้าไปดูงานแทนข้าหน่อยสิ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นจากถ้วยซุปก่อนจะส่งรอยยิ้มบางๆให้
“งานที่ไหนคะ?”
“ก็เดินๆรอบๆเมือง คอยดูว่ามีอะไรผิดปกติรึเปล่า” ฟลอร์พยักหน้าขณะตักมะกอกดองสีดำวาวจากจานสลัด สีของมันทำให้เธอนึกถึงอะไรบางอย่างขึ้นมา
‘เดี๋ยวนะ... นี่แปลว่าเราต้องเสียเวลาไปปีนึงเต็มๆเลยน่ะสิถ้าเรามัวแต่รอหมอนั่น’
“ท่านพ่อคะ ข้าขอตัวก่อนนะเพคะ นึกขึ้นได้ว่าข้อมีเรื่องต้องทำ” หญิงสาวรีบลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอโค้งให้พ่อเธอจนสุดเป็นการขอโทษ ก่อนจะรีบออกตัววิ่งออกไปโดยไม่เผื่อเวลาให้ใครร้องห้าม แม้แต่คุณพริสเทียที่ยืนเฝ้าอยู่ก็ตาม
“ตายแล้ว... ข้า... จะรีบไปตามองค์หญิงมาให้นะเพคะ” อิลรอนโบกมือปฏิเสธ เขายกผ้าสีขาวขึ้นมาเช็ดมุมปากก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“ไม่เป็นไร ข้าก็กำลังจะไปแล้วล่ะ.. พริสเทีย ฝากดูนางด้วย อย่าให้ไปซนใคร” พริสเทียก้มตัวลงรับคำสั่ง เมื่อผู้เป็นนายเดินออกไปจากห้อง เธอก็ถอนหายใจทันที
“เกรงว่าสิ่งที่องค์หญิงกำลังจะทำ... เป็นสิ่งที่ท่านควรจะทำตั้งนานแล้วน่ะสิเพคะ...”
“ไม่ใช่... อืม... เห้อ ไอ้คาถาส่งจดหมายนี่มันไม่มีบันทึกไว้เลยรึไงนะ?” ฟลอร์บ่นอุบอิบ เธอบังคับหนังสือให้ลอยกลับไปบนชั้นหนังสือ ก่อนจะเริ่มดึงเล่มอื่นมาเปิดอีกครั้ง
ห้องสมุดของพระราชวังแห่งนี้มีขนาดเท่าๆกับห้องจัดงานสองห้องรวมกัน ภายในบรรจุหนังสือไว้ทุกประเภท ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมอาณาจักรโฟลอสจึงได้รับการขนานนามว่าเป็นแหล่งรวมความรู้ที่ไร้จุดจบ
“สายัณห์สวัสดิ์เพคะ องค์หญิงฟลอร์... หาอะไรอยู่เพคะ?” ‘เมลเม’ หญิงสาวผู้ทำหน้าที่ดูแลห้องสมุดเดินเข้ามาทักทายด้วยรอยยิ้ม เธอมีใบหน้าหวานสวย ดวงตาสีม่วงอ่อนเป็นประกายคู่กับเส้นผมสีดำสนิท ฟลอร์เคยเข้าใจผิดว่าเธอเป็นตุ๊กตาเดินได้ตอนพบกันครั้งแรกเพราะทุกอย่างในตัวคนตรงหน้าที่ดูละเอียดอ่อนไปหมด
“หนังสือเวทย์มนตร์ที่เกี่ยวข้องกับการส่งจดหมายค่ะ” ฟลอร์หันไปตอบขณะกางหนังสือออก
“อ่า... ตรงโซนนี้ก็มีหมดเลยนะคะ”
“เวทย์ ที่ส่งข้ามอาณาจักรได้น่ะเหรอ?” ดวงตากลมของผู้ฟังเบิกกว้าง เมลเมรีบหันมองรอบห้องสมุด เธอเดินเข้าไปใกล้ฟลอร์มากขึ้นแล้วกระซิบถาม
“เธอจะเอาไปทำอะไร?” ฟลอร์ไม่ตอบ เธอยังคงเพ่งความสนใจไปที่หน้ากระดาษสีเหลืองซีด ดวงตากวาดไปมาซ้ายขวาเร็วๆเพื่อเก็บข้อมูล ก่อนจะส่งมันกลับไปยังชั้นหนังสือตามเดิม
“องค์หญิง...” เมลเมถามอีกรอบ
“บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเรียกองค์หญิง” ฟลอร์ตอบปัด เธอเอื้อมมือไปจับข้อมือของหญิงสาวแล้วกระตุกเบาๆเพื่อให้อีกฝ่ายตามเธอมา
“ฟลอร์ เดี๋ยวสิ...” องค์หญิงผู้เอาแต่ใจหันมามองหน้าเพื่อนสาวเป็นเชิงถามว่า ‘มีอะไรอีก?’
“นี่...” เมลเมหันไปที่ชั้นหนังสือ เธอร่ายมนตร์เพื่อดึงหนังสือปกสีเทาออกมา ก่อนจะส่งมันให้ฟลอร์แล้วคลี่ยิ้ม
“ห้ามบอกใครนะ” ฟลอร์หัวเราะเบาๆแล้วรับหนังสือมา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ตามนิสัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอขณะที่หญิงสาวกอดหนังสือไว้แนบอก
“รู้แล้วล่ะน่า”
Talk//
Plot twist: จริงๆถึงแม้ว่าอิลรอนจะเป็นกษัตริย์ก็ตาม แต่นอกจากนักเวทย์ประจำตัวแล้ว คนรับใช้คนอื่นๆคือตามฟลอร์หมด—- เดี๋ยว ไม่ใช่ 55555
ฟลอร์เป็นคาร์ที่ชอบมากๆ ร้ายบริสุทธิ์จริงๆ 5555
ขอบคุณทุกคนที่ติดตามนะคะ รักนักอ่านทุกคนมากๆน้า🥰💕❤️

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา