16 ส.ค. 2019 เวลา 05:30 • สุขภาพ
#เขียนไปเรื่อย
"ทฤษฎีหมูกรอบ!!"
ช่วงสาร์ทจีน นอกจาก ขนมเทียน ขนมเข่ง ผลไม้ เครื่องใน ปลาหรือ กุ้งและไก่
ของไหว้อีกหนึ่งอย่างที่มักต้องมีให้ครบ เป็นชุดไหว้ โหงวแซ คือ เนื้อหมู
หลังจากไหว้เทพเจ้าเสร็จ และธูปหมดดอก
กายหยาบของของไหว้ ก็เป็นเหมือนของขวัญที่เทพประทานให้กับมนุษย์
แต่บางครั้งของที่เทพประทานให้ ก็มักจะมากเกินกว่าความจำเป็นมนุษย์
มันเป็นเพราะอะไร?? เอาละเรามาลองคิดกัน
ในความคิดของผม
โดยปกติแล้ว ปริมาณของไหว้ น่าจะขึ้นอยู่กับ
1. สถานะเศรษฐกิจ ณ ขณะนั้น
2. ฐานะ หน้าตา และเกียรติยศของเจ้าของบ้าน
ดังนั้น ปริมาณของไหว้ จึง มักมีมากกว่าความสามารถในการบริโภคของคนครอบครัว
เพื่อดำรงค์ไว้ ซึ่งหน้าตา ของเจ้าของบ้าน
กระบวนการจัดการ ของที่ฟ้าประทานมาให้ จึงเป็นสิ่งสำคัญ
ตัวอย่าง ของการบริหารจัดการ ของฟ้าประทาน ประทาน
เช่น การแจกจ่ายให้บริวาร และญาติมิตร
แต่วิธีนี้มักมีประสิทธิภาพต่ำ
เนื่องจากมักมีมีการชิงตัดหน้า โดยการเอาของไหว้มาฝากเราก่อน
เพราะเราไหว้ เขาก็ไหว้
ดังนั้นจากวิกฤตของไหว้ที่เกิดขึ้น มันบีบบังคับให้
อาหารเกิดวิวัฒนาการ ตามทฤษฎี ของชาล์ ดาร์วิน
ที่กล่าวไว้ว่า วิกฤติทำให้เกิดการวิวัฒนาการ
ผู้ที่อยู่รอดคือผู้เหมาะสมที่สุด
ตัวอย่างของการวิวัฒนาการของของไหว้ เช่น
ขนมเข่ง ก็จะวิวัฒนาการ เป็นขนมเข่งชุบไข่ทอด
ไก่ต้ม วิวัฒนาการ เป็นข้าวมันไก่ หรือ ไก่รวนเค็ม
ปลาก็อาจกลายวิวัฒฯเป็นปลาต้มซีอิ้ว หรือ นึ่งซีอิ๊ว
แล้วหมูสามชั้นต้มละ มันจะกลายเป็นอะไร??
จากทฤษฎีของผม
นี้ละคือจุดกำเนิดของหมูกรอบ
หมูต้ม....แม้จะบูดเสียยากเมื่อเทียบกับ ของไหว้อื่นๆ
แต่ ด้วยข้อดีของหมูต้มนั้นแหละ มันจึงถูกละเลย
ของที่ไหว้ที่เสียง่าย มันถูกบริโภคก่อน อาทิ กุ้ง ปลา เป็ดหรือไก่
หลังจากของไหว้เหล่านี้นี้ถูกจัดการ ความสามารถในการบริโภคย่อมลดลง
หมูต้มซึ่งจืดชืดมักจะเหลือมากมาย
แล้วจะเอาไปทำอะไรดีละ ?
พะโล้หรือ น้องเป็ดก็จองไว้แล้ว!!
นั้นแหละฮะ การกำเนิดของหมูกรอบจึงเริ่มจากจุดนี้
จากหมูสามชั้นต้ม
จะถูกทางเกลือที่หนัง (อาจมีการใส่เครื่องเทศได้ ตามแต่รสนิยม)และนำไปตากแดด เพื่อรีดน้ำออกมาให้มากที่สุด
เพื่อสร้างสภาวะที่ ไม่เหมาะสม ต่อการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
(บางครั้งน้ำส้มสายชูก็ถูกใส่ลงไป ด้วยเหตุผลนี้เข่นเดียวกัน)
หลังจากนั้น จึงทำการทอดหมูที่ตากเอาไว้ ด้วยไฟอ่อน
น้ำมันมากหรือน้อยก็ได้
เนื่องจากการใช้ไฟอ่อน จะช่วยรีดไขมันที่อยู่ในหมูสามชั้นออกมาได้อีกทางหนึ่ง
และเกิดน้ำมันหมูเป็น By Product
แต่จงระวังไว้ การดึงน้ำออกจากหนังที่อุดมไปด้วยคอลลาเจนผสมเจลาติน อาจทำให้เกิดการระเบิดได้
ดังนั้นจึงควรปิดฝาระหว่างทอด
หลังจากทอดเสร็จผึ่งไว้
เราก็จะได้หมูกรอบ!!!
ซึ่งเก็บไว้ได้นาน เป็นอาทิตย์ โดยเฉพาะหากเก็บไว้ในตู้เย็น
ความจริงแล้ว แม้หมูสามชั้นต้ม จะวิวัฒนาการ เป็น หมูรวนเค็ม หรือ หมูหวาน ก็สามารถทำได้
แต่นั้น มันไม่ใช่ร่างเทพ ของหมูสามชั้นต้ม
เพราะ หมูรวนเค็ม หมูหวาน จะสิ้นสุดสายวิวัฒนาการ เพียงเท่านั้น
แต่หมูกรอบ ร่างมหาเทพ ของหมูสามชั้นต้ม
ยังสามารถวิวัฒน์ ได้ต่อ
ไม่ว่าจะเป็นพื้นๆ อย่างข้าวหมูกรอบ
ผัดคะน้าหมูกรอบ ยำหมูกรอบ ผัดพริกแกงหมูกรอบ
หรือจะเป็น ผัดกระเพราจะหมูกรอบ
ที่ความนิยมในตอนนี้น่าจะสูงสุดในห่วงโซ่ของผัดกระเพรา
วิกฤต ทำให้เกิดโอกาส และการสร้างสรรค์ เพื่อการดำรงค์อยู่
แล้วคุณละ!! จะเผชิญหน้ากับวิกฤติของไหว้ในเทศกาลสาร์ทจีนนี้อย่างไร?
จงอภิปราย!!
#เหล็กไม่เอาถ่าน

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา