Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ธรรม STORY
•
ติดตาม
16 ส.ค. 2019 เวลา 14:55 • ประวัติศาสตร์
พุทธประวัติ ตอนที่ 3
พระโพธิสัตว์ทรงเสด็จประสูติ
ในบทนี้เองจะมีเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าอัศจรรย์มากมาย ที่เกิดขึ้นโดยพระบารมีขององค์พระโพธิสัตว์เจ้านะครับ
ซึ่งการที่พระองค์เป็นพระมหาบุรุษที่ได้เสด็จลงมาอุบัติยังโลก(ชมพูทวีป) พร้อมทั้งบุญญาธิการของท่าน ที่ได้สั่งสมมาอย่างยาวนาน นับชาติไม่ถ้วนนั้น จะเป็นอย่างไร มาติดตามไปด้วยกันครับผม
ก็เมื่อครั้นเวลาล่วงผ่านเลยมา
จวบจนพระครรภ์จะครบกำหนดทศมาส (สิบเดือน) แล้ว
พระนางนั้น ก็มีพระทัยปรารถนาที่จะเสด็จไปยังกรุงเทวทหะ อันเป็นราชสกุลเดิมของพระนางสิริมหามายานั่นเอง
ทั้งนี้เพราะเป็นประเพณีดังเดิมของพราหมณ์ ที่ได้กล่าวไว้ว่า :
"อันภรรยาเมื่อมีครรภ์จักต้องไม่คลอดที่เรือนของฝ่ายสามี ย่อมจักต้องกลับไปคลอดยังเรือนสกุลเดิมของตนเอง"
ดังนั้นพระนางจึงได้กราบทูลขอพระราชานุญาต จากพระเจ้าสุทโธทนะพระสวามี และเมื่อได้รับอนุญาตโดยมิได้ขัดพระทัยแล้ว ในวันวิสาขปุรณมี ซึ่งเป็นเวลาเช้านั้น
พระนางมหาเทวีเจ้าก็ได้เสด็จโดย
พระเสลี่ยงทองและแวดล้อมไปด้วย
ข้าราชบริพารออกจากกรุงพระนครกบิลพัสดุ์
เสด็จโดยตามลำดับจนเข้าสู่เขตป่าลุมพินีสถาน อันเป็นราชอุทยานที่อยู่ระหว่างพระนครทั้งสองนั้นเอง
ณ ป่าลุมพีนีแห่งนี้...
เป็นสถานที่ๆ สงบร่มรื่นร่มเย็นงดงามน่าดูน่าชมเป็นยิ่งนัก พรั่งพร้อมบริบูรณ์ไปด้วยบรรดาดอกไม้ และผลไม้นานาชนิด และยังมีเสียงขับร้อง ของเหล่าสกุณาชาติทั้งหลาย จึงทำให้พระนางสิริมหายาเจ้ามี ปรารถนาที่จะเสด็จพักผ่อนพระวรกาย เพื่อทัศนาชมราชอุทยานนั้น
บรรดาเหล่าอำมาตย์และบริวาร
เมื่อได้ทราบพระประสงค์ของพระแม่เจ้าแล้ว จึงได้ช่วยกันจัดตั้งสถานที่ให้พระนางนั้นเสด็จเข้าไปประทับยังใต้ร่มต้นสาละ เพื่อที่จะได้หลีกหลบจากแสงสุริยาในยามสายนั้น
และในขณะที่พระนางทรงสำราญพระทัยชมราชอุทยานอยู่นั้น
พระองค์ก็เกิดปรารถนาทรงจะจับกิ่งสาละ ครั้นเมื่อพระนางทรงยกพระหัตถ์เอื้อมขึ้นเหนี่ยวกิ่งสาละนั้นแล้ว!!!
1
ก็ได้เกิดลม "กัมมัชวาต" ขึ้นทันที
คือ อาการปวดพระครรภ์ใกล้จะ
ประสูติ
เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่และพนักงานทั้งหลายต่างเร่งรีบช่วยกันจัดแจงสถานที่อันเหมาะสม และมีการผูกม่านแวดล้อมภายใต้ต้นสาละเท่าที่
จะจัดแจงได้ดีที่สุดในขณะนั้น
ลำดับนั้น...
พระนางเทวีเจ้าได้ทรงอาภรณ์ผ้าโกสัย อันวิจิตรด้วยทอง และทรงห่มผ้าอย่างดีคลุมท้องพระองค์จนจรดหลังพระบาท และประทับยืนพระปฤษฎางค์(หลัง) อิงกับต้นสาละ พระหัตถ์ขวาทรงเหนี่ยวกิ่งสาละ และหันพระพักตร์ทอดพระเนตรไปทางทิศบูรพา
ครั้นเมื่อเวลาใกล้เที่ยง อันประกอบด้วยวิสาขฤกษ์ในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 พระนางสิริมหามายาเทวี ก็ทรงประสูติพระราชโอรส อันประกอบด้วย "มหาปุริสลักษณะ 32 ประการ" พร้อมด้วยบุญญาธิการอันมาก
พระโพธิสัตว์เจ้าทรงเปล่งอาสภิวาจา
ลำดับนำเมื่อพระมหาบุรุษประสูติจากพระครรภ์ยังมิทันถึงพื้นปฐพี ก็มีท่านท้าวมหาพรหมทั้ง 4 จากชั้นสุทธาวาสมารองรับพระวรกายด้วยข่ายทองคำ
ขณะนั้นก็บังเกิดกระแสชลที่อุ่นและเย็น หลั่งลงมาจากอากาศธาตุโสรจสรงองค์พระมารดาและพระบรมโพธิสัตว์
จากนั้นท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ก็รับองค์ พระมหาบุรุษจากพระหัตถ์ของท้าวมหาพรหมแล้ว นางนมก็จึงมารับพระองค์ต่อไปอีกครั้ง
ในลำดับนั้นเอง...
องค์พระบรมโพธิสัตว์เจ้า พระองค์ก็ได้เสด็จลุกประทับยืนขึ้นบนพื้นปฐพีด้วยพระบาททั้งสองข้าง แล้วทอดพระเนตรไปทั่วทั่ง 10 ทิศ
และทรงมิเห็นว่าจะมีผู้ใดเลย
ที่จะมีบุญบารมีเสมอเหมือนพระองค์กับพระองค์เลย
ครั้งนั้น...
พระองค์จึงได้หัน พระพักตร์สู่ทิศอุดร และเสด็จดำเนินด้วยพระบาทเปล่าไป 7 ก้าว
แล้วทรงบันลือสีหนาท
เปล่งอาสภิวาจา (วาจาอันอาจหาญ) ด้วยพระสุรเสียงอันไพเราะ ประดุจดังเสียงของท้าวมหาพรหม อันประกอบด้วยองค์ 8 ประการ คือ
1. แจ่มใส
2. ชัดถ้อยชัดคำ
3. หวานกล่อมใจ
4. เสนาะโสต
5. หยดย้อย
6. มีกังวาน
7. ไม่เครือไม่แหบพร่า
8. ลึกซึ้ง
อาสภิวาจาที่พระองค์ได้กล่าวนั้น
มีเนื้อความว่า :
"เราเป็นผู้เลิศที่สุด
เราเป็นผู้เจริญที่สุด
เราเป็นผู้ประเสริฐที่สุด
การเกิดครั้งนี้เป็นการเกิดครั้งสุดท้าย การเกิดใหม่ของเรานั้นไม่มีอีกแล้ว"
***เกร็ดความรู้เพิ่มเติม***
พระชาติที่ พระบรมโพธิสัตว์พอประสูติจากครรภ์พระมารดาแล้ว เปล่งอาสภิวาจาได้นั้น มีอยู่ด้วยกัน 3 พระชาติ คือ
1. พระชาติที่เกิดเป็น พระมโหสถ
2. พระชาติที่เกิดเป็น พระเวสสันดร
3. พระชาติสุดท้ายนี้ คือ เจ้าชาย
สิทธัตถะ
และในวันที่ พระบรมโพธิสัตว์ประสูตินั้น ก็มีมนุษย์และสัตว์กับทั้งสิ่งของ อันเป็นสหชาติมงคลบังเกิดขึ้นในวันเดียวกัน ซึ่งรวมทั้งได้สิ้นมี 7 ประการ ได้แก่ :
1. พระนางพิมพา - ราชเทวีคู่บารมี
2. พระอานนท์ - พุทธอุปัฏฐาก
3. กาฬุทายี - อำมาตย์
4. นายฉันะ - ผู้ติดตามวันออกบวช
5. ม้ากัณฐกะ - พระราชพาหนะประจำ พระองค์
6. ต้นพระศรีมหาโพธิ์ - สถานที่ตรัสรู้
7. ขุมทรัพย์ทั้ง 4 มุมเมือง - คือเกิดขึ้นที่ สังข์นิธิ, เอลนิธิ, อุบลนิธิ และ บุณฑริกนิธิ
ลำดับต่อมาพระราชองครักษ์ก็ได้รีบควบ ม้าเร็วกลับไปแจ้งข่าวกราบทูลเรื่องที่พระราชโอรสทรงเสด็จประสูติแล้ว แก่พระเจ้าสุทโธทนะ
เมื่อพระเจ้าสุทโธทนะ ทราบข่าวจึงรีบจัดแจง รับสั่งให้พระมเหสีและพระโอราสเจ้า รีบเสร็จกลับสู่วังพระนครกบิลพัสดุ์โดยด่วน และรับสั่งให้จัดหาพี่เลี้ยงนางนมที่ดีที่สุด มาคอยบำรุงเลี้ยงดูพระราชโอรส และดูแลพระมหามายาราชเทวีอย่างดียิ่งที่สุดเช่นเดียวกัน
มีเหตุการณ์่มหัศจรรย์หลายสิ่งหลายอย่างที่ได้บังเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการประสูติของ พระบรมโพธิสัตว์เจ้านั้น ท่านทั้งหลายควรทราบถึงความหมายในบางประการดังนี้ :
1. การที่หมื่นโลกธาตุหวั่นไหว สั่นสะเทือนถั่วถึงกันเป็นบุพนิมิตว่า :
พระองค์จะได้ตรัสรู้เป็น
"พระสัพพัญญูพุทธะ"
2. การที่พระบรมโพธิสัตว์ เมื่อได้ประสูติแล้วก็เสด็จดำเนินได้ 7 ก้าว เป็นบุพนิมิตว่า : พระองค์จะได้
"สัตตรัตนสัมโพชฌงค์ 7 ประการ"
3. การที่พระบรมโพธิสัตว์
ทรงเปล่งอาสภิวาจานั้น เป็นบุพนิมิตว่า : พระองค์จะได้ตรัส "พระธรรมจักกัปปวัตตนสูตร เป็น ปฐมเทศนา"
และแล้วข่าวการประสูติขององค์
พระบรมโพธิสัตว์ก็ได้แพร่กระจายไปยังบรรดา กษัตริย์พระประยูรญาติทั้งสองพระนคร ต่างฝ่ายต่างเกิดความปีติยินดีโสมนัส และได้พากันส่งเครื่องบรรณาการที่เป็นสิ่งของอันประเสริฐต่างๆ มาเป็นเครื่องบำรุงรักษาพระมหาโพธิสัตว์โดยถั่วกัน
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน สาธุครับ
***เอกสารอ้างอ้าง***
หนังสือ.ปฐมสมโพธิกถา
หนังสือ.พุทธประวัติตามแนวปฐมสมโพธิ (พระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์)
เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่/ภาพประกอบ.ต้นธรรม
6 บันทึก
50
15
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
พุทธประวัติ (ฉบับสมบูรณ์) *ยังไม่จบ
6
50
15
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย