พุทธประวัติ ตอนที่ 4
กาฬเทวิลดาบส (อสิตดาบส)
ท่านทั้งหลายที่ชอบศึกษาพุทธศาสนาก็น่าจะเคยอ่าน หรือได้เคยฟังผ่านหูผ่านตามาบ้าง ว่ามีดาบสอาจารย์ผู้หนึ่งที่ทั้งร้องไห้และหัวเราะในเวลาเดียวกัน เมื่อตอนที่ได้เห็นพระโพธิสัตว์ นั้นมาบ้าง บางท่านก็อาจจะทราบรายละเอียดไม่ครบ ผมจึงพยายามหาเนื้อเรื่อง อันที่จะพอมีเนื้อหาที่กระชับและสมบูรณ์มาให้ทุกท่านได้อ่านได้ชมกันครับ ว่าแล้วก็ เรามาไปอ่านกันครับ...
ก็ในตอน...
ณ วันที่พระบรมโพธิสัตว์ประสูตินั้น ได้มีเหล่าหมู่เทพยดาในดาวดึงส์พิภพ(สวรรค์ชั้นที่ 2) มีพระอมรินทราธิราช (พระอินทร์) เป็นต้น ต่างได้พากันแซ่ซ้องร้องกล่าวสาธุการ กระทำสักการบูชา ด้วยดนตรีและดอกไม้ของหอมอันเป็นทิพย์นานาประการอย่างเอิกเกริกไปทั่วทั้งเทวโลก
ลำดับนั้นอีกสถานที่หนึ่ง ณ ไพรสณฑ์ในป่าหิมพานต์มีพระดาบส นามว่า :
"กาฬเทวิลดาบส" หรืออีกนามหนึ่งที่ประชาชน นิยมเรียกท่านคือ :
"อสิตดาบส"
ท่านดาบสนั้นได้บำเพ็ญความเพียร
จนสามารถ บรรลุสมาบัติ 8
คือ รูปฌาน 4 และ อรูปฌาน 4
เป็นผู้มีฤทธิ์มาก
อีกทั้งท่านยังเป็นอาจารย์และที่นับถือของเหล่าบรรดากษัตริย์ต่างๆ อีกด้วย ตัวของท่านดาบสเองนั้น ก็มีความคุ้นเคยและเป็นที่นับถือของราชสกุล
ศากะด้วยเช่นเดียวกัน
ในตอนนั้นเอง...
เมื่อพระบรมโพธิสัตว์ได้ทรงประสูติแล้วที่สวนลุมพินีวัน ก็มีเทพยดาที่ได้เห็นเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว จึงได้เร่งรีบมาแจ้งข่าวแก่ท่านดาบสให้ได้ทราบทันที
พอท่านได้ทราบข่าวว่า พระราชโอรสของพระเจ้าสุทโธทนะประสูติแล้ว ท่านจึงมีความคิดที่อยากจะเข้าไปเยี่ยมชมตามความสมควร จึงได้จัดแจงเตรียมตัว เพื่อที่จะได้เข้าไปเยี่ยมพระราชโอรสในพระราชนิเวศน์ของพระเจ้าสุทโธนะนั้น
ครั้นเวลาไม่นาน ดาบสผู้มีฤทธิ์นั้น
ก็ถึงซึ่งพระราชนิเวศน์สถาน...
จากนั้น...เมื่อท่าน กาฬเทวิลดาบสได้ถึงห้องโถงแล้ว พระเจ้าสุทโธทนะ ผู้เป็นราชาก็ได้ทรงกระทำปฏิสันถาร(การทักทายปราศรัยแขกผู้มาหา) พระดาบสเป็นอย่างดี ดังเช่นที่พระองค์เคยได้กระทำมาแต่ก่อน และทรงเชื้อเชิญท่าน ดาบสอาจารย์ให้นั่งที่อาสนะอันควรแล้วก็ได้ทรง อุ้มพระราชโอรสออกมาเพื่อที่จะให้ ราชโอรสน้อยนั้นได้ทำนมัสการแก่พระดาบสอาจารย์
แต่ว่าเหตุการณ์กลับมิเป็นเช่นนั้น!!!
ท่านกาฬเทวิลดาบส เมื่อได้เห็นพระกุมารว่ามีลักษณะแตกต่าง จากทารกอื่นๆ ทั่วไป ตัวท่านจึงพิจารณาอย่างละเอียดรอบครอบแล้ว ก็ได้ทราบว่า :
"พระกุมารนี้มีพระลักษณะถูกต้องตามตำรามหาบุรุษลักณะทุกประการ"
*คำภีร์นี้ ท้าวมหาพรหมชั้นสุทธาวาส เป็นผู้ที่จำแลงกายเป็นพราหมณ์ แล้วลงมาสอนมนต์บทนี้ให้แก่พราหมฌ์ทั้งหลาย ก่อนที่พระมหาบุรุษจะอุบัติขึ้นนั้นเอง
ตัวท่านจึงเกิดความปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง และแสดงอาการแย้มยิ้มออกมาจากสุดหัวใจ เกิดความเคารพศรัทธาในพระราชกุมารอย่างจริงใจ โดยที่ไม่มีใครได้คาดคิด...
จากนั้นเอง พระดาบสก็ได้ลุกขึ้นจากอาสนะ และได้กระทำการอภิวาทก้มลงกราบ หมอบลงแทบพระบาทของพระกุมารด้วยศรีษะของตน
แล้วดาบสจึงกล่าวคำทำนายตามหลัก วิชามหาบุรุษลักษณพยากรณ์ศาสตร์ โดยมีคติเพียง 2 เท่านััน ว่า :
"พระราชกุมารนี้ เมื่อเจริญวัยไปในอนาคต ถ้าอยู่ครองเพศฆราวาส จักได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ แต่ถ้าออกบวช จักได้ตรัสรู้...
เป็นพระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นศาสดาเอกในโลก"
พระดาบส เมื่อได้พยากรณ์เสร็จแล้ว ก็ได้หวนระลึกนึกถึงตนเองจึงเกิดความโทมนัส(เสียใจ) ร้องไห้ในความอาภัพของตน เพราะเมื่อตัวท่านนั้นได้พิจารณาด้วยฌานสมาบัติอย่างถึงที่สุดแล้ว ท่านได้แลเห็นว่า :
"พระราชกุมารนี้ เมื่อได้ ตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคต ตนเองนั้นจะไม่มีอายุยืนยาวพออยู่จนได้ทันเห็น ได้ทันฟังอมตะธรรมจากพระองค์ เพราะว่าตนเองนั้นจะต้องทำกาลกิริยา (ตาย) เสียก่อน แล้วขึ้นไปบังเกิดเป็นพรหมในชั้นอรูปภพ ถึงแม้จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีกสักร้อยองค์ พันองค์ อันตัวเรานั้นก็มิมีโอกาสที่จะได้พบเห็น ซึ่งได้ขึ้นว่าเสื่อมสูญจากลาภอันประเสริฐ กล่าวคือ มรรคผล และพระอมตมหานิพพาน เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนักแก่เรา"
***เหตุการณ์พระเจ้าสุทโธทนะทรงกราบพระราชโอรส***
ลำดับนั้นเอง...
เมื่อทางฝ่ายพระเจ้าสุทโธทนะพร้อมทั้งพระประยูรญาติ ได้ทอดพระเนตรเห็นกาฬเทวิลดาบสอาจารย์ ก้มศรีษะลงกราบพระกุมารอย่างนั้น
ต่างก็เห็นเป็นอัศจรรย์ใจอย่างยิ่ง ทรงมีพระทัยแผ่สร้านไปด้วยความปีติ ต่างพากันยกหัต์ขึ้นขึ้นอภิวาทกราบลงด้วยสำคัญว่า :
"พระราชโอรสนี้ มีอานุภาพดุจท้าวมหาพรหมโดยแท้"
(และด้วยเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงเป็นเหตุให้ พระประยูรญาติทั้งหลายต่างยอมยกถวายโอรสของตนเอง ให้เป็นบริวารของพระราชกุมาร สกุลละพระองค์ครับ)
ครั้นต่อมา...
กาฬเทวิลดาบส เมื่อได้ทูลลาพระเจ้า
สุทโธทนะเสร็จแล้ว ก็หวนคิดขึ้นได้ว่า :
"แม้อันตัวเราจักไม่ได้เห็นพระราชกุมารนี้ ตรัสรู้เป็นพระสัพพัญญูเจ้า
ก็จริงอยู่ แต่ว่า นาลกะ ผู้เป็นหลานของเรานั้นจะได้เห็นพระองค์อย่าง
แน้แท้"
ดังนั้นท่านดาบสจึงมุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของน้องสาวตนทันที และเรียกหานาลกะ ผู้เป็นหลาน แล้วบอกเนื้อความทั้งหมดนั้นให้ฟังและแนะนำให้หลานไปบวชเป็นฤๅษี ถือพรหมจรรย์ บำเพ็ญฌานรอคอยนับตั้งนี้เถิด
ฝ่ายนาลกะ ก็เป็นผู้ที่ได้สั่งสมบารมีมาเป็นอันมากมาแต่อดีตชาตินั้น เมื่อได้สดับรับฟังคำบอกเล่าของผู้เป็นดาบสอาจารย์ลุงอย่างนั้น ท่านจึงตัดสินใจ บวชเป็นฤๅษี แล้วกล่าวคำอธิษฐานเพศบรรพชาด้วยคำว่า :
"ท่านผู้ใด เป็นอุดมบุคคลผู้สูงสุดในโลก ข้าพเจ้าจักขอบรรพชาเฉพาะต่อท่านผู้นั้น"
เมื่อกล่าวดังนั้นเสร็จแล้ว...
ท่านนาลกะ ก็ได้หันหน้าไปยังทิศอันเป็นที่สถิตอยู่แห่ง พระบรมโพธิสัตว์เจ้าประทับอยู่ แล้วถวายนมัสการด้วยเบญจางคประดิษฐ์
และสะพายบาตรพร้อมบริขารออกจากบ้านของท่าน แล้วไปเจริญสมณธรรมในป่าหิมพานต์นั้นแล...
***เนื้อเรื่องแทรกเพิ่มเติม***
"ท่านนาลกะ (ฉบับย่อ)"
ครั้นต่อมาในภายหลัง เมื่อท่านได้ทราบข่าวว่า สิทธัตถราชกุมารทรงออกบวช และได้ ตรัสรู้เป็น
พระสัพพัญญูสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ท่านจึงได้เดินทางมาเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แล้วกราบทูลถามในเรื่อง "โมไนยปฏิบัติ" พระองค์จึงทรงโปรดประทานพุทธโอวาท
จากนั้น.. ท่านก็กราบขอทูลลากลับสู่ป่าหิมพานต์สถานดังเดิม
ท่านปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดอยู่ 7 เดือน และบรรลุพระอรหันต์ แล้วได้พิจารณาเห็นว่าบัดนี้ได้ถึงเวลาสิ้นอายุขัยของตนแล้ว...
ท่านจึงได้หันหน้าไปทางทิศที่พระพุทธองค์ทรงประทับอยู่
ท่านก้มลงกราบด้วยเบญจางคประดิษฐ์แล้วลุกขึ้นยืนยืนขึ้นพิงภูเขาแห่งหนึ่งและดับขันธ์ปรินิพพานในที่นั้นแล...
เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้
ขอความสวัสดีจงมีแก่ท่านผู้อ่านทุกท่าน สาธุครับ
เอกสารอ้างอ้าง
- หนังสือ.ปฐมสมโพธิกถา
- หนังสือพุทธประวัติตามแนวปฐมสมโพธิ (พระครูกัลยาณสิทธิวัฒน์)
- พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต นาลกสูตร
- เพิ่มเติมเนื้อหาใหม่/ภาพประกอบ.ต้นธรรม
- 97
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
