อัจฉริยะ ในด้าน จิตกรรม ปติมากรรม และ สถาปัตยกรรม
หนึ่งในคู่แข่งของ ดาวินชี ในยุค เรอเนสซองส์
ผู้ให้กำเนิด David และ Pieta
ไมเคิล แองเจโล
-ชีวิตในวัยเด็ก-
ไมเคิลแองเจโล หรือ มิเกลันเจโล มีชื่อเต็มว่า Michelangelo di Lodovico Buonarroti Simoni เกิดในเมืองเล็กๆ ใกล้กับเมืองฟลอเรนซ์ ประเทศอิตาลี
(เมืองเดียวกับดาวินชีเกิด) ในปี ค.ศ. 1475 พ่อของเขามมีอาชีพรับราชการ ในเมืองฟลอเรนซ์ แต่ไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตอะไรนัก เติบโตมาได้เพียง 6 ปี เขาก็สูญเสียแม่แท้ๆ ไป ทำให้เขาต้องอยู่กับพ่อและพี่เลี้ยงของเขา และสามีของพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นช่างตัดหิน นั่นทำให้เขา ได้เรียนรู้ เรื่องของการตัดแต่งหินอ่อน ตั้งแต่วัยเด็ก
เมื่ออายุ 13 ปี พ่อของเขาได้ส่งเข้าไปเรียนภาษาในเมือง ฟลอเรนซ์ แต่เขาแทบจะไม่สนใจเรียนเลย วัน ๆ เอาแต่ฝึกคัดลอกวาดภาพ ตามโบสถ์ ต่างๆ
ซึ่งในตอนนั้น เมืองฟลอเรนซ์ เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมตัวของจิตกรชื่อดัง ต่างๆ มากมาย ทำให้เขาได้พบกับ Domenico Ghirlandaio ซึ่งเก่งในเรื่องการวาดภาพปูนเปียก และได้ฝากตัวเป็นศิษย์
แต่เพียงปีเดียวหลังจากที่ฝากตัวเป็นศิษย์ ไมเคิลแองเจโล ได้ถูกทาบทามจากเจ้าเมือง Lorenzo de Medici ผู้ปกครองเมือง ฟลอเรนซ์ในขณะนั้น ให้ไปทำงานด้วย
ระหว่างทำงานให้ Lorenzo de Medici ไมเคิลแองเจโลมีผลงานเป็นภาพแกะสลักบนหินอ่อนหลายชิ้น เช่น Madonna of the Steps และ Battle of the Centaurs
Battle of the Centaurs
Madonna of the Steps
แต่แล้วเมื่อปี 1492 ชีวิตเขาก็ต้องพบกับจุดเปลี่ยน เมื่อเจ้าเมือง Medici ได้เสียชีวิตลง ทำให้เขาเดินทางไปทำงานยังบ้านเกิด แต่ก็ต้องย้ายไปเมืองเวนิสและโบโลญญา ตามลำดับ ด้วยพิษการเมือง ในระหว่างนี้เขาได้ศึกษาเรื่องกายวิภาค จากการผ่านศพใน โรงพยาบาล ทำให้เขาได้รู้ถึงสรีระของมนุษย์อย่างเข้าใจมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงได้ศึกษาศิลปะเพิ่มเติมอีกด้วย
อัจฉริยะด้านประติมากรรม
-ผลงานสุดโด่งดังชิ้นแรก-
เมื่ออายุได้ 21 ปี ไมเคิลแองเจโล เดินทางไปยังกรุงโรม ที่ ๆ เขาจะได้สร้างผลงานชิ้นเอกขึ้นมา
เมื่อมาถึงเขาก็เริ่มสร้างผลงานเลย แต่กลับถูกปฎิเสธ จากทางพระคาดินัลล์
หลังจากนั้นเพียงหนึ่งปี เขาได้รับโอกาสจากพระคาดินัลล์ Jean de Bilhères-Lagraulas ให้ทำงานแกะสลักหินอ่อน Pieta รูปพระแม่มารีใบหน้าเศร้าหมองกำลังประคองร่างของพระเยซูที่เพิ่งอัญเชิญลงจากกางเขน ไมเคิลแองเจโลใช้เวลาไม่ถึงสองปีงานก็เสร็จ
Pieta
ด้วยความที่ผลงานที่ออกมา งดงามและสมจริงเป็นอย่างมาก ทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มเป็นที่ได้ยินมากขึ้น
งานชิ้นนี้ถูกยกย่องว่าเป็นหนี่งในผลงานชิ้นเอกที่ยิ่งใหญ่ของประติมากรรมโลก
ปัจจุบัน งานชิ้นนี้ถูกตั้งอยู่ ที่มหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ในนครรัฐวาติกัน เป็นแม่เหล็กดึงดูดใจให้ผู้คนมาเยี่ยมชมมหาวิหารแห่งนี้อย่างคับคั่งตลอดทั้งปี
-ทำสิ่งที่ ทำไม่สำเร็จมาตลอด 40 ปี ให้สำเร็จ-
ในปี 1499 ไมเคิลแองเจโล ได้เดินทางกลับไปยังเมืองฟลอเรนซ์ เขาได้รับทาบทามให้ร่วมทำโครงการ หนึ่ง ที่ ริเริ่มมา 40 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ ซึ่งก็คือ การแกะสลักหินอ่อน David ที่มีขนาดใหญ่ นั่นเอง เขาตกลงรับงานชิ้นนี้ ในตอนนั้นเขามีอายุเพียง 26 ปีเท่านั้น และเขาใช้เวลาเพียง 4 ปี ในการแกะสลักหินอ่อนที่ไม่มีใครเหลียวแลมา 25 ปีให้ออกมาเป็น รูปปั้น David ที่กลายมาเป็นสัญลักษณ์ ของเมือง ฟลอเรนซ์ ในปัจจุบัน ตอนนั้น ทางคณะกรรมการได้เชิญ เลโอนาร์โด ดาวินชี มาร่วมเป็นผู้ตัดสินว่า รูปปั้นนี้จะถูกจัดตั้งที่ไหน ซึ่งสรุปได้ว่า ให้ตั้งไว้ ณ หน้าวัง Palazzo Vecchio ต่อมาในปี 1873 ถูกย้ายไปไว้ที่หอศิลป์ Galleria dell’Accademia ส่วนที่เดิมได้สร้างรูปปั้นจำลองของ David ตั้งไว้แทน
ช่วงเวลาเดียวกับที่แกะสลัก David ไมเคิลแองเจโลยังมีผลงานหินอ่อนแกะสลักชิ้นเยี่ยมอีกชิ้นหนึ่งคือ Madonna and Child หรือที่เรียกกันว่า Madonna of Bruges รูปพระแม่มารีกับพระเยซูองค์น้อยบนตัก มีลักษณะและความงดงามใกล้เคียงกับ Pieta ปัจจุบันอยู่ที่โบสถ์ Church of Our Lady ที่เมือง Bruges ประเทศเบลเยี่ยม
Madonna and Child
นอกจากนี้เขายังมีผลงานหินอ่อนแกะสลักชั้นยอดอีกมากมาย เช่น Moses รูปปั้นประดับหลุมฝังศพพระสันตะปาปา Julius II ในโบสถ์ Church of San Pietro in Vincoli ที่กรุงโรม และ Dying slave กับ Rebellious Slave ที่เป็นประติมากรรมดาวเด่นในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ รวมทั้งบรรดารูปแกะสลักจำนวนมากที่ประดับตามโบสถ์และหลุมฝังศพหลายแห่ง ซึ่งล้วนงดงามวิจิตรสมกับที่มาจากฝีมือของประติมากรอันดับ 1 ของโลกตลอดกาล
Rebellious Slave
Moses
Dying slave
สำหรับใน Part 1 เราจะจบกันเพียงเท่านี้
ใน Part ต่อไป จะพบกับ ช่วงเวลาที่อัจฉริยะ ทั้งสองคน ดาวินชี และ เองเจโล
ได้โคจรมาทำงานร่วมกัน พร้อม อัจฉริยะอีก 2 ด้านของเขา คือ จิตรกรรม และ สถาปัตยกรรม
- 16
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
